เปลี่ยนการแสดงผล
#มากบุญหรือมากบาป
13 มิถุนายน 2563 397 ครั้ง
#มากบุญหรือมากบาป
  พวกเราชาวพุทธมักจะได้ยินเสมอๆว่า"ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม" แล้วกรรมคืออะไรล่ะ จะมีจริงเหรอ มันจะตามทันเหรอในชาตินี้ หลายคนคงเริ่มสงสัย และ หลายคนก็อาจจะไม่เชื่อเพราะอาจจะไม่เคยประสบต่อตนเอง แต่จริงๆแล้วทุกคนเคยประสบมาเรียบร้อยทั้งบุญ และบาปแต่อาจจะยังไม่เข้าใจ หรืออาจจะคาดหวังในเรื่องกฎแห่งกรรมไว้สูงมากเกินไป อาจจะเพราะด้วยการเอาความรู้สึกหรืออารมณ์มาตัดสิน ยิ่งรู้สึกโกรธแค้นมากอยากจะเห็นผลแห่งกรรมต่อหน้าต่อตาไงครับ งั้นเรามารู้จักกับกรรมและผลแห่งกรรมกันแบบง่ายๆ และเป็นวิทยาศาสตร์กันดีกว่า
  กรรม คือ การกระทำ (action) ซึ่งมีทั้งการกระทำดีและกระทำชั่ว การกระทำดีนั้น ผลของการกระทำ(reaction)จะออกมาดีจะเป็นบุญหรือเป็นกุศล ที่ปรากฏให้เราเห็นหรือสัมผัสได้ง่ายๆก็คือความสุข ความสำเร็จ ความสมหวัง ความอิ่มเอมใจ การยิ้มได้หน้าตาแจ่มใส จิตใจผ่องใส ฯลฯ ส่วนการกระทำชั่วนั้น ผลของการกระทำ(reaction) จะออกมาเป็นบาปหรืออกุศล ที่ปรากฎให้เราเห็นได้ชัดเจนก็คือ ความทุกข์ ความกลัว ความหวาดระแวง ความล้มเหลว ความเสื่อม เรียกว่าหน้าตาหมองคล้ำหน้าเหี่ยวแบบไร้ความสุขนั่นแหละครับ ฯลฯ  การกระทำนั้นมีทั้ง 3 ทางด้วยกันคือ การกระทำทางกาย การกระทำทางวาจา และการกระทำทางใจ เพราะฉะนั้นทั้งสามการกระทำ สามารถส่งผลแห่งกรรมได้ทั้งสิ้น เลือกกันเอาเองครับว่าท่านอยากจะได้รับผลกรรมแบบไหน จะสุขหรือทุกข์ท่านเลือกเองได้และรู้อยู่แก่ใจดี ถ้ามองในทางวิทยาศาสตร์เรื่องกฎแห่งกรรมนั้นจะเป็นไปตามกฎข้อที่ 3 ของนิวตัน เรื่องแรงปฏิกริยา คือ action = reaction หมายความว่า แรงที่วัตถุที่หนึ่งกระทำต่อวัตถุที่สอง ย่อมเท่ากับ แรงที่วัตถุที่สองกระทำต่อวัตถุที่หนึ่ง แต่ทิศทางตรงข้ามกัน เช่น หากเราปาลูกบอลใส่กำแพงด้วยความแรงเท่าไหร่ ลูกบอลก็จะกระดอนออกมาด้วยแรงเท่านั้น ท่านอยากจะได้อะไรกลับมาและแรงเท่าไหร่ก็กระทำแบบนั้นได้เลยครับ อธิบายด้วยหลักวิทยาศาสตร์แบบ จะเห็นได้เลยว่าพระพุทธศาสนานั้นเป็นศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์จริงๆ สามารถพิสูจน์ได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ได้เป็นแค่เพียงความเชื่อ เพราะฉะนั้นยิ่งกระทำไม่ดีหรือกระทำชั่ว ก็ยิ่งบาป สังเกตง่ายๆความไม่สบายใจ ความกลัว ความกังวลจะเกิดขึ้นทันทีที่เรากระทำ ยิ่งเป็นเรื่องที่รุนแรงก็ยิ่งทุกข์มาก เช่นเดียวกันการกระทำความดี ก็จะเป็นบุญ จะเป็นความสุขหลังจากการกระทำนั้นทันที เหมือนทีมนักล่าเมฆครับ เวลาขึ้นไปล่าเมฆแล้วเห็นฝนตก เห็นรุ้งกินน้ำ ทุกคนล้วนอิ่มเอมใจนั่งเครื่องกลับฐานปฏิบัติงานไปยิ้มด้วยความอิ่มเอมใจไปจนล้อแตะพื้นสนามบิน และหยุดสนิทก่อนลงจากเครื่องกันต่างร้อง yes, mission completed. ภารกิจพวกฉันสำเร็จแล้ว ซึ่งมันเป็นความสุข มันเป็นความยิ่งใหญ่กว่า การได้รับเงินทองเสียอีก
  วันนี้บังเอิญไปเจอข้อมูลที่รวบรวมโดย ว่าที่ร้อยตรีอัศวพล นาจรูญ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการ หัวหน้ากลุ่มช่วยเหลือเกษตรกรและโครงการพิเศษ สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์ เกี่ยวกับข้อมูลผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาพื้นที่การเกษตร(นาข้าว) ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนทิ้งช่วงในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ปี 2562/63 ร่วมกับ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสุรินทร์
ในปี 2562 เกษตรกรในเขตจังหวัดสุรินทร์ได้มีการยื่นคำร้องขอฝนหลวงผ่านสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดจำนวน 500 ราย เนื่องจากทำนาแล้วประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง จึงได้ประสานกับกรมฝนหลวงฯให้ความช่วยเหลือ กรมฝนหลวงฯได้ตั้งหน่วยปฏิบัติการที่จังหวัดสุรินทร์ ตั้งแต่วันที่ 22 มิถุนายน 2562 โดยใช้เครื่องบินคาราแวน จำนวน 3 ลำ มีทีมนักล่าเมฆที่ไปกระทำความดีครั้งนี้ประกอบด้วยนักวิชาการ 2 ราย ได้แก่ นายวิทยา อัปมาโถ และ น.ส. วณิชชา พันธ์ศรี และนักบินจำนวน 7 รายประกอบด้วย ร.อ.วีระ แพงแก้ว พ.ท.โกศล จันทร์ศรี พ.ต.พินิจ คำดี พ.ต.จำเนียร สามิภักดิ์ นายธราธร สุขคมขำ น.ส.สร้อยสกุล คุณสุข นายฐิติศักดิ์ วรสุนทโรสถ และช่างอากาศยาน จำนวน 5 รายได้แก่ พ.อ.อ.อนันต์ เจนพนัส จ.ส.อ.กิจจา อ้นอารี นายประศาสน์ ผึ่งผาย จ.อ.กิตติ ภูริปยุชกรณ์ และพ.อ.อ.สุระเกียรติ วีรกิจพานิช ทุกคนต้องช่วยกันทำงานทุกวันตั้งแต่เช้าจนค่ำตามภารกิจหน้าที่ของแต่ละคน
  จากรายงานพบว่าเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมมีพื้นที่คาดว่าจะเสียหายจากฝนทิ้งช่วงจำนวน 1,773,074 ไร่ เกษตรกรจำนวน 161,227 ครัวเรือน ถ้าหากพื้นที่นี้เกิดความเสียหายสิ้นเชิงจะเป็นมูลค่าเท่าไหร่ ลองคิดกันดูครับ สมมติว่าผลผลิตจะได้ 379 กก./ไร่ ราคาข้าวเปลือกตันละ 14,200 บาท จะเป็นเงินทั้งหมด 9,542,329,653 บาทเชียวครับ แต่จากการรายงานของสำนักงานเกษตรจังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2562 ไม่พบว่ามีการรายงานความเสียหายของพื้นที่นาข้าวในเขตจังหวัดสุรินทร์ นั่นเป็นฝนเพราะความพยายามในการกระทำดีของทีมล่าเมฆหน่วยสุรินทร์นั่นเอง
  นี่เป็นแค่เพียงตัวอย่างการช่วยเหลือพื้นที่นาข้าวที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงที่จังหวัดสุรินทร์นะครับ แต่พวกเราไม่ได้ช่วยแค่เพียงจังหวัดสุรินทร์ พวกเราพร้อมที่จะช่วยทุกพื้นที่ที่ประสบปัญหาตามกำลังความสามารถที่เรามีอยู่อย่างเต็มที่ และเราก็มีความสุขดีจากการกระทำดีด้วยเจตนาบริสุทธิ์ และได้รับคำขอบคุณและคำอวยพรจากพี่น้องประชาชนที่เราไปช่วยเหลือนั่นคือบุญที่เกิดจากการกระทำดีทั้งกาย วาจา และใจที่เรามีต่อพี่น้องประชาชนเสมอมา
  จึงอยากจะเชิญชวนพี่น้องประชาชนมาร่วมกันกระทำความดีกันนะครับในยามวิกฤตของบ้านเมืองแบบนี้ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้พี่น้องประชาชนตกงาน ขาดรายได้กันมากมาย และปัญหาภัยแล้งจากฝนทิ้งช่วงที่เป็นอยู่ในขณะนี้  เพื่อทำให้เวลาเราเงยหน้าก็จะได้ไม่อายฟ้า เวลาเราก้มหน้าก็จะได้ไม่อายดินไงครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจากสำนักเกษตรและสหกรณ์จังหวัดสุรินทร์
#คนเราเลือกเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะทำดีได้ด้วยสติเราเอง
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"

ภาพและวีดีโอ