เปลี่ยนการแสดงผล
#อะไรเกิดขึ้นบนท้องฟ้า
26 มิถุนายน 2563 1,008 ครั้ง

#อะไรเกิดขึ้นบนท้องฟ้า
  ท้องฟ้าช่างกว้างใหญ่สามารถมองได้สุดลูกหูลูกตา เมื่อเราแหงนมองท้องฟ้าในเวลาต่างกันย่อมพบเจอสิ่งที่ต่างกัน เวลากลางคืนจะเห็นดวงดาวระยิบระยับในคืนเดือนมืด จะพบดวงจันทร์เต็มดวงสวยงามในคืนจันทร์เพ็ญ เวลากลางวันเราอาจจะพบสิ่งต่างๆมากมายได้บนท้องฟ้า อย่างแรกที่เราจะเห็นบนท้องฟ้าที่ทุกคนนึกออกก็คือ เมฆ แต่ละคนมองเมฆแล้วอาจจะจินตนาการเมฆเป็นรูปต่างๆได้แตกต่างกันไป
บางครั้งเราก็อาจจะเห็นนกบิน บินมาเดี่ยวๆ หรือบินมาเป็นหมู่เป็นแถวเรียงรายกัน มีการสลับตำแหน่งกันบางทีเหมือนเป็นการทำเป็นสัญญาณให้ในหมู่นกด้วยกันได้ทราบ บางครั้งเราจะเห็นปรากฏการณ์อื่นๆขึ้นบนท้องฟ้าเช่น รุ้งกินน้ำ หรือ เส้นขาวๆเป็นทางยาวๆที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Aircraft Condensation Trails หรือเรียกสั้นๆว่า Contrails รุ้งกินน้ำ เป็น ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เรามักจะพบเห็นได้หลังช่วงเวลาฝนตก เนื่องจากเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากการหักเหของแสงอาทิตย์เข้าสู่แนวสายตาเป็นมุม 40° - 42° ผ่านละอองน้ำในอากาศทำให้เกิดแถบสเปกตรัมปรากฏเป็นเส้นโค้งสีรุ้งขึ้นบนท้องฟ้า โดยจะมี 7 สีจากล่างขึ้นบนเรียงตามลำดับ คือ ม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง สร้างความสวยงามให้แก่ผู้พบเห็นเสมอ ส่วนเส้นขาวๆเป็นทางยาวๆ (Contrails) เป็นปรากฏการณ์ที่มักจะเกิดขึ้นบนท้องฟ้าที่ระดับความสูงค่อนมาก มากกว่า 10,000 ฟุตขึ้นไป ในวันที่มีความชื้นสูง เมฆมาก หรือฝนเพิ่งตก เกิดขึ้นได้ 2 กรณี 
  กรณีแรกคือ เกิดจากความร้อนหรือไอเสียของเครื่องยนต์Jet ที่มีความชื้นและอุณหภูมิสูงกระทบกับสภาพอากาศเย็นในระดับชั้นที่เครื่องบินลำนั้นบินผ่าน ทำให้เกิดการควบแน่นกลายเป็นไอสีขาว เช่นเดียวกับเวลาที่อากาศหนาวๆแล้วเราหายใจออกมาเป็นไอสีขาว ที่เราแซวเล่นกันว่าพูดจนควันออกปากเวลาไปยืนอยู่ที่หนาวๆไงครับ หรืออาจจะเกิดจากการที่ปีกของเครื่องบินก่อให้เกิดความแตกต่างของความดันอากาศ เครื่องบินบินเร็วและสูง เมื่ออยู่ที่สูงความดันอากาศลด อุณหภูมิก็จะลดตาม ทำให้น้ำในอากาศควบแน่นกันจนกลายเป็น contrails ขึ้นมา
  ปรากฏการณ์คล้าย Contrails สามารถเกิดจากขบวนการการทำฝนหลวงได้ เนื่องจากการทำฝนหลวงเป็นนำสารฝนหลวงที่เป็นผงละเอียดขึ้นไปโปรยในอากาศ ทำให้บางครั้งจะสังเกตเห็นเป็นเส้นขาวๆเป็นทางยาวๆเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะในขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนก่อกวนหรือก่อเมฆที่กระทำในกรณีที่ท้องฟ้าโปร่งแต่ต้องมีความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศมากกว่า 60% แต่จะมองเห็นผงขาวๆที่พวยพุ่งออกมาทางหางเครื่องบินได้แค่เพียงชั่วขณะ ผงขาวๆที่พวยพุ่งออกมานั้นจะไม่ปรากฏอยู่นานเหมือน Contrails เนื่องจากผงขาวๆเหล่านั้นจะดูดซับความชื้นอย่างรวดเร็วกลายเป็นหยดน้ำรวมกันเป็นก้อนเมฆแทนที่จะเป็นสายที่พวยพุ่งอยู่อย่างนั้น และจะเกิดอยู่ที่ระดับต่ำกว่าระดับที่เกิด Contrails มาก จะเกิดอยู่ที่ระดับความสูงประมาณเพียง 6,000 ฟุต ซึ่งเป็นระดับที่เราจะขึ้นไปก่อเมฆนั่นเอง หรืออาจจะสังเกตเห็นตอนทำขั้นตอนที่ 2 ขั้นเลี้ยงเมฆให้อ้วนก็ได้ แต่ระดับความสูงที่เราโปรยก็จะอยู่ที่ระดับราวๆ 8,000 ฟุต และจะไม่ปรากฏอยู่นานเช่นกัน จะปรากฏแค่ช่วงที่กำลังโปรยเท่านั้นเพราะเป็นสารที่ละลายได้เร็วมาก และยังสามารถสังเกตว่าเป็น Contrails หรือเป็นการโปรยสารฝนหลวงได้จากเครื่องบินที่บินผ่านอีกด้วย เพราะเครื่องบินของกรมฝนหลวงฯจะเป็นสีขาวลายเขียวไม่เหมือนของใครและเครื่องบินของกรมฝนหลวงไม่มีเครื่องบินที่เป็นเครื่องยนต์Jet
  อีกทั้งบริเวณที่เครื่องบินขาวลายเขียวที่บินขึ้นไปก่อเมฆบริเวณใด บริเวณนั้นมักจะไม่มีฝนตกจากการทำฝนหลวงเพราะเมฆที่ก่อขึ้นก็จะลอยไปตามทิศทางและความเร็วของลม นอกจากลมจะอ่อนมากและเมฆพัฒนาตัวได้ดีอย่างรวดเร็วก็อาจจะมีฝนตกบริเวณพื้นที่เราไปก่อเมฆไว้ได้บ้าง ส่วนบริเวณที่เราขึ้นบินไปเลี้ยงเมฆให้อ้วน และโจมตีจะเป็นพื้นที่ใกล้เคียงเป้าหมายที่เราต้องการให้ฝนตก ดังนั้นบริเวณดังกล่าวจึงจะมีฝนที่ตกจากการทำฝนหลวงได้ด้วย
  บางท่านอาจจะยังข้องใจและสงสัยอยู่บ้างใช่หรือไม่ครับ ถ้าหากยังมีข้อสงสัย ขอแนะนำให้ติดต่อประสานงานกับศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทุกแห่งของกรมฝนหลวงฯได้ครับ หรือจะติดต่อทางเพจเฟสบุ้คของกรมที่ชื่อ"กรมฝนหลวงและการบินเกษตร" หรือ ทางไลน์ของกรม สามารถแอดไลน์ได้โดย ID ไลน์ @drraa ซึ่งสามารถสอบถามและรับบริการข้อมูลของกรมได้อย่างต่อเนื่องทุกวันครับ
ถึงแม้ฟ้าจะกว้างใหญ่แต่ก็เป็นฟ้าเดียวกัน เป็นฟ้าที่มีพ่อหลวงร.9 ได้เคยทรงศึกษา ค้นคว้า ทดลองจนเป็นตำราฝนหลวงพระราชทานไว้ให้คนรุ่นหลังประยุกต์ใช้เพื่อให้ฟ้าโปรยฝนลงมาสู่พวกเรา
#เข้าใจผิดเป็นเรื่องที่น่าให้อภัยตั้งใจทำผิดเป็นเรื่องที่น่าละอาย
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
เขียนโดย" ฟ้าโปรย "

ภาพและวีดีโอ