เปลี่ยนการแสดงผล
#เปรต
12 กรกฎาคม 2563 1,209 ครั้ง

#เปรต
  เปรตในทางพุทธศาสนาหมายถึง สัตว์พวกหนึ่งที่เกิดในเปตวิสัยซึ่งเป็นอบายภูมิ 1ใน 4 ซึ่งเปรตมีหลายประเภทด้วยกัน วันนี้จะขอพูดถึง"สูจิมุขเปรตปากเล็กเท่ารูเข็ม" เปรตจำพวกนี้มีรูปร่างสูงโย่ง ตัวผอมบาง คอก็ยาว ปากก็เล็กนิดเดียวเท่า “รูเข็ม” จะกินอะไรก็ไม่ได้ จะหาอะไรกินก็ยากเย็นแสนเข็ญ จะหิวตลอดเวลาจึงชอบมาขอส่วนบุญในงานบุญต่างๆ หวังว่าจะสะสมบุญได้แล้วเกิดใหม่ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องทุกข์ทรมานอย่างที่เป็นอยู่ สาเหตุที่ต้องเสวยวิบากกรรมแบบนี้เพราะในชาติที่เป็นมนุษย์นั้น เป็นคนที่มีจิตใจริษยาคนอื่นอยู่เสมอ เห็นคนอื่นดีหรือเด่นกว่าไม่ได้ ชอบพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามดูแคลนเขาไปทั่วต่างๆนานา อย่างนั้นอย่างนี้ เห็นคนอื่นมีทรัพย์มากกว่า ก็อยากจะได้ทรัพย์สมบัติของเขามาเป็นของตน เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเห็นคนอื่นกำลังทำบุญ แทนที่จะอนุโมทนายินดีด้วย ก็พูดจาในเชิงห้ามปราม ขัดขวาง ไม่ให้เขาทำ ต่างๆ นานา บางครั้งก็ด่าเขาเสียๆ หายๆ หนักกว่านั้นยังขโมยวัตถุสิ่งของต่างๆที่มีคนนำไปถวายแก่สงฆ์ไว้เป็นสมบัติสงฆ์ส่วนกลาง เช่น สังฆทาน ก็เอามาเป็นสมบัติของตน
  จากลักษณะนี้ทำให้คำว่า เปรต กลายมาเป็นคำด่าในภาษาไทยที่หมายถึง คนที่อดอยากผอมโซ เที่ยวรบกวนขอเขากิน หรือเมื่อมีใครได้โชคลาภก็เข้ามาขอแบ่งปัน หากเขาไม่ให้ก็จะพูดจาใส่ร้าย พูดง่ายๆก็คือพวกที่ชอบอิจฉาริษยา ใส่ร้ายและรบกวนผู้อื่นอยู่เป็นนิจนั่นเอง ค่อยโล่งอกที่พฤติกรรมเรายังไม่เข้าขั้นเปรต ในทางโลกเพื่อไม่ให้สังคมเกิดความวุ่นวายและไม่ต้องการให้คนตายไปเป็นเปรตกันมากมายจึงมีการบัญญัติกฎหมาย หรือกฏ ระเบียบ ข้อตกลงต่างๆร่วมกันให้ยึดถือปฏิบัติเพื่อความสงบสุข
  เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2563 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบการแบ่งเขตลุ่มน้ำของไทยจาก 25 ลุ่มน้ำเป็น 22 ลุ่มน้ำ การบริหารจัดการลุ่มน้ำที่มีผลกระทบจากการแบ่งลุ่มน้ำใหม่เช่นนี้ต้องมีการทบทวนการบริหารจัดการกันใหม่เพื่อไม่ให้ขัดต่อพรบ.ทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2561 เนื่องจากทรัพยากรน้ำถือเป็นทรัพยากรธรรมชาติของส่วนรวม  จะขโมยน้ำจากลุ่มน้ำหนึ่งมาอีกลุ่มน้ำหนึ่งโดยการผันน้ำมานั้นจะกระทำไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการลุ่มน้ำและคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เพื่อป้องกันผลกระทบด้านระบบนิเวศน์และความสมดุลของน้ำในลุ่มน้ำนั้นๆ
  แม้แต่ในพื้นที่แหล่งน้ำเดียวกันแต่มีปริมาณอย่างจำกัดยังมีการจัดตั้งคณะกรรมการในการบริหารจัดการแหล่งน้ำนั้นเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและลดปัญหาในเรื่องความขัดแย้งกัน เช่นในพื้นที่ภาคเหนือ จะมีแก่เหมือง แก่ฝาย ที่คอยทำหน้าที่บำรุงรักษาดูแลเหมืองฝาย การควบคุมการแจกจ่ายน้ำ การยุติข้อพิพาทแย่งชิงน้ำกัน และการแก้ปัญหาอุปสรรคต่างๆ 
ส่วนน้ำในชั้นบรรยากาศนั้นเป็นแหล่งน้ำที่มีปริมาณมากมาย และไม่มีการแบ่งขอบเขตความเป็นเจ้าของเนื่องการชั้นบรรยากาศมีการเชื่อมต่อกันทั้งโลก และเมฆสามารถเคลื่อนลอยไปตามกระแสและทิศทางลม แต่มีขอบเขตการแบ่งดินแดนระหว่างประเทศ และกฎหมายระหว่างประเทศในการห้ามบินล้ำน่านฟ้า การบริหารจัดการน้ำในชั้นบรรยากาศจึงเป็นความสามารถของแต่ละประเทศที่จะนำน้ำเหล่านั้นมาใช้ได้โดยยังไม่มีข้อกำหนดใดๆ
  ประเทศไทยก็ยังไม่มีกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับห้ามนำเมฆจากที่หนึ่งไปตกเป็นฝนยังอีกที่หนึ่ง และเราก็คงบังคับหรือสั่งการให้เมฆเชื่อฟังให้ลอยอยู่นิ่งๆไม่ให้เคลื่อนที่ไปที่อื่นได้ ตัวอย่างที่เห็นชัดได้แก่ ผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่อยู่ชิดติดด้านหลังเขามักจะมองเห็นเมฆลอยข้ามพื้นที่ของตนเองไปตกที่อื่นอยู่เสมอๆ หรือเรียกว่าพื้นที่เหล่านั้นว่าพื้นที่อับฝน วิธีการแก้ปัญหาในพื้นที่อับฝนนี้วิธีการหนึ่งก็คือการทำฝนหลวงตามตำราฝนหลวงพระราชทานในช่วงจังหวะเวลาที่เหมาะสม
  จะเห็นว่าการทำฝนหลวงนั้นไม่ได้มีการกระทำใดๆที่ผิดกฎหมาย หรือระเบียบ หลักเกณฑ์ในการบริหารจัดการน้ำในชั้นบรรยากาศ ไม่ได้เป็นการขโมยเมฆจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง เพราะการทำฝนหลวงเป็นการก่อเมฆ เลี้ยงเมฆให้อ้วน และโจมตีให้ตกกลายมาเป็นฝนสู่พื้นที่เป้าหมายที่กำหนดซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดจากการร้องขอของพี่น้องประชาชน และพวกเราชาวฝนหลวงยินดีให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องประชาชนทุกคนโดยไม่เลือกปฏิบัติภายใต้เงื่อนไขความเหมาะสมของสภาพอากาศในแต่ละวัน
จากการกระทำดังกล่าวพวกเรามั่นใจว่าพวกเราไม่มีทางตายไปเป็นเปรตแน่นอนเพราะพวกเราไม่เคยเอาทรัพยากรน้ำบนฟ้าที่เป็นสมบัติส่วนรวมมาเป็นสมบัติส่วนตนและไม่เคยไปอิจฉา ริษยา และพูดจาใส่ร้ายใคร
#ตั้งอยู่ในศีลไม่ต้องโทษทั้งทางโลกและทางธรรม
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"

 

ภาพและวีดีโอ