#รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตี
วัฏจักรของชีวิตคนเราคงหนีไม่พ้น การเกิด แก่ เจ็บ ตาย!!!
แต่การเกิด แก่ เจ็บ ตาย นั้นล้วนแล้วเกิดจากการออกแบบของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับตัวเราโดยเฉพาะพ่อแม่และยังรวมถึงตัวเราเองด้วย ดังสุภาษิตที่ว่า"ปลูกอะไรก็ได้อย่างนั้น" ปลูกมะพร้าวจะให้ผลออกมาเป็นมะม่วงคงเป็นไปไม่ได้...
ลองมานึกถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมาในชีวิตเรากันดูสิว่าเป็นจริงอย่างที่ว่าหรือไม่?  
หลังจากพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเราแล้ว พ่อแม่ก็ทำการเลี้ยงดูเราตามวิถีของแต่ละครอบครัว...
ครอบครัวที่มีเวลาเลี้ยงดูลูกด้วยตนเองก็มักจะมีการวางแผนการดำเนินชีวิตให้ลูกอย่างละเอียด มีการปลูกฝังความคิด จิตสำนึกต่างๆตามที่พ่อแม่อยากจะให้ลูกเป็นดั่งใจปรารถนา นั่นก็คือการเป็นคนดีของสังคม แต่ก็ไม่เสมอไปบางครอบครัวก็อาจไม่ได้เป็นดั่งใจหมายตามสุภาษิตที่ว่า "เลี้ยงลูกเลี้ยงได้แต่ตัวแต่หัวใจนั้นเลี้ยงไม่ได้"
สำหรับครอบครัวที่ไม่ค่อยมีเวลาในการดูแลอบรมสั่งสอน ปลูกฝังความคิดให้ลูกด้วยตนเอง เพราะด้วยการแข่งขันกันทางเศรษฐกิจที่จำเป็นต้องแสวงหารายได้ จนไม่มีเวลาที่จะให้กับลูก จึงปล่อยให้ลูกอยู่กับคนเลี้ยงเด็ก ผลที่ได้คือลูกก็จะได้รับแนวความคิดมาจากคนเลี้ยงไม่มากก็น้อย...
ยิ่งถ้าพ่อแม่ไม่มีการติดตามการพัฒนาการของลูกด้วยแล้ว ด้วยความใกล้ชิดของลูกกับคนเลี้ยงก็มักจะได้รับการถ่ายทอดสิ่งที่เป็นตัวตนของคนเลี้ยงมานั่นเอง ถ้าโชคดีเจอคนเลี้ยงเด็กที่มีจิตสำนึกที่ดี เป็นคนดีก็ถือว่าเป็นโชคดีของเด็กที่จะเติบโตเข้ามาในสังคมต่อไป 
บางครอบครัวก็คิดว่ามือถือเป็นอะไรทุกอย่าง เป็นของสารพัดนึกให้ลูกได้ ปล่อยให้มือถือเลี้ยงลูก โลกออนไลน์ก็ช่างเปิดกว้างเสียจริงไม่มีการปิดกั้นเพศ ชนชั้นใดๆทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เด็กได้รับรู้จะจริงหรือเท็จนั้นบางครั้งเด็กก็ยากที่จะแยกออกได้ ทำให้บางครั้งกลายเป็นเหมือนพวกมากลากไปได้
พอเมื่อเติบใหญ่ขึ้นมาอีกหน่อยการเข้าโรงเรียน การเลือกสายอาชีพของลูกก็มักจะถูกออกแบบโดยพ่อแม่บางคนอีก แต่ถ้าพ่อแม่ไม่มีการติดตามประเมินผลการเรียนของลูก ทำให้ไม่ทราบความต้องการของลูกอย่างแท้จริง ก็จะทำให้ลูกอาจเบื่อหน่ายและไม่สนใจการเรียน ทำให้มีปัญหาต่อการเรียนเพราะตนเองไม่ได้อยากเรียนในแบบที่พ่อแม่ได้ออกแบบไว้ให้ ปัญหาที่ตามมา... ทำให้เด็กต้องการหาทางออกแสดงออกต่างๆนานาเพื่อเรียกร้องความสนใจบ้าง เพื่อลดความเก็บกดลงบ้าง ซึ่งการกระทำเหล่านั้นอาจจะเป็นปัญหาต่อสังคมได้
บางคนก็ยังอาจถูกพ่อแม่ออกแบบชีวิตครอบครัวให้อีก มีการแนะนำคนที่ตนเองมองว่าดี ตนเองชอบ เห็นว่าเหมาะสมกับลูกตนเองที่เรียกว่าคลุมถุงชน ในขณะที่บางคนวางแผนการมีชีวิตครอบครัวเป็นของตนเอง มีการตกลงกับคนที่ตนรักที่จะต้องวางรากฐานชีวิตให้พร้อมในระดับหนึ่งจึงจะยินดีที่จะแต่งงาน พร้อมที่จะอยู่กินด้วยกัน พร้อมที่จะมีลูกไว้สืบสกุลเป็นไปตามวัฏจักรของชีวิต
อย่างไรก็ตาม...หากได้แต่ออกแบบวางแผนชีวิตแต่ไม่มีการติดตามประเมินผลของแผนที่เราออกแบบไว้ ความสำเร็จบรรลุเป้าหมายอาจจะไม่เป็นไปตามที่เราออกแบบไว้ก็ว่าได้ เรียกว่าต้องใส่ใจในรายละเอียดกับสิ่งที่เราต้องการให้เป็นไปตามแผนที่เรากำหนดในทุกขั้นตอนอย่างต่อเนื่อง จะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจว่าปลูกมะพร้าวแล้วออกผลมาเป็นแห้ว...
หากเปรียบกรมฝนหลวงฯเหมือนพ่อแม่ กรมฝนหลวงฯมีลูกฝาแฝดชื่อ พี่งานและน้องเงิน...
การดูแลเอาใจใส่ลูกเป็นสิ่งสำคัญตามที่ได้เกริ่นให้ฟังไปแล้ว ยิ่งถ้าต้องการให้ลูกเติบโตเป็นไปตามแนวทางหรือตามแผนที่เรากำหนดไว้ การเอาใจใส่คอยติดตามสอดส่องดูแลจะมีความสำคัญมากกว่าสิ่งที่เราออกแบบหรือวางแผนไว้เสียอีก เพราะหากเราพบพฤติกรรมที่ไม่ชอบมาพากล เราก็ยังสามารถที่จะปรับปรุงแก้ไขหรือประคับประคองให้เป็นไปด้วยดีได้
ตั้งแต่มีการตั้งกรมฝนหลวงฯขึ้นมาในปี 2556 ชาวกรมฝนหลวงส่วนใหญ่ก็ได้แต่เอาอกเอาใจพี่งานมากกว่าน้องเงิน ถึงแม้จะมีระบบติดตามและประเมินผลเป็นระยะๆ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นแสดงให้เห็นว่าชาวกรมฝนหลวงค่อนข้างจะสนใจและให้ความสำคัญกับพี่งานมากกว่าน้องเงินจริงๆ ตัวอย่างเช่น ปีงบประมาณพ.ศ.2562 รัฐบาลกำหนดเป้าหมายการเบิกจ่ายภาพรวม งบรายจ่ายประจำ และงบลงทุน แต่ละงบไว้ที่ 100% แต่กรมฝนหลวงฯเบิกจ่ายได้จริง 75.67% 80.51% และ 72.61% ของแต่ละงบตามลำดับ แต่ถ้าหากรวมที่มีการทำข้อผูกพันไว้แล้วจะเป็น 99.11% 98.92% และ99.22% ตามลำดับแต่ก็ถือว่าไม่ผ่านเกณฑ์อยู่ดี
ส่วนเรื่องผลการดำเนินงานนั้นผลลัพธ์เกินเป้าหมายตามตัวชี้วัดที่กำหนดไว้ทั้งสิ้น ได้แก่ จำนวนพื้นที่ที่ได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติการฝนหลวง พื้นที่ประสบภัยแล้งได้รับการช่วยเหลือตามแผนปฏิบัติการฝนหลวง ผลงานวิจัยที่ดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมนำไปเป็นแนวทางแก้ไขปัญหาการดำเนินงานของหน่วยงาน ความสำเร็จของการดำเนินการงานวิจัย หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่เปิดปฏิบัติการต่อปี วันปฏิบัติการฝนหลวงที่ประสบผลสำเร็จมีฝนตกในพื้นที่เป้าหมาย ความพร้อมของอากาศยานที่สามารถสนับสนุนภารกิจได้ตามแผน ความพึงพอใจของผู้รับบริการด้านการบินที่มีต่อการให้บริการอากาศยาน ฯลฯ
จะเห็นว่าพี่งานแฝดผู้พี่ของเราประสบความสำเร็จตามที่พ่อแม่คือกรมฝนหลวงฯได้ออกแบบ วางแผนเอาไว้ให้ ส่วนน้องเงินแฝดผู้น้องประสบความสำเร็จน้อยมากเมื่อเทียบกับแฝดผู้พี่ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะบุคลากรของกรมฝนหลวงฯมีจำนวนน้อยกว่าปริมาณงานที่มีอยู่ก็ว่าได้ และยังเป็นประเภทพ่อแม่มือใหม่ยังไม่ค่อยเข้าใจอย่างถ่องแท้ในบางเรื่อง แต่ความชำนาญและความจำเป็นที่จะต้องทำฝนให้กับพี่น้องประชาชนเพื่อคลายทุกข์จากภัยแล้งเป็นจุดประสงค์หลักที่ทุกคนพร้อมใจกันดำเนินการ และอีกประเด็นที่สำคัญคือความใส่ใจของพ่อแม่ไม่เท่าเทียมกันนั่นเอง
อย่างที่กล่าวไว้แล้วว่า"ปลูกอะไรก็ได้อย่างนั้น" กรมฝนหลวงมีผลการเบิกจ่ายน้อยกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนด ทำให้คะแนนตัวชี้วัดนี้ตกไปซึ่งมีผลต่อการพิจารณาความดีความชอบเลื่อนขั้นเงินเดือน เฉกเช่นเดียวกันพ่อแม่ที่เลี้ยงดูลูกอย่างไรให้เข้ามาอยู่ในสังคม หากลูกเป็นคนดีในสังคมพ่อแม่ก็ได้รับการชื่นชม หากลูกกระทำตนไม่ดีไม่เหมาะสมต่อสังคม พ่อแม่ก็อาจจะถูกสังคมตั้งคำถามในการเลี้ยงดูลูกว่าได้ใช้หลักรักวัวให้ผูกรักลูกให้ตีตามสุภาษิตไทยหรือไม่???
เขียนโดย "ฟ้าโปรย" 
#พันธุ์ที่ดีปลูกที่ไหนก็ย่อมได้ผลดี
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด