#มงคลอยู่ที่ทำตัว
ณ ปัจจุบันสิ่งที่ทุกประเทศในทุกทวีปของโลกใบนี้กำลังเผชิญเหตุที่รุนแรงเป็นประวัติศาสตร์อีกครั้งหนึ่งในรอบ 100 ปี นั่นก็คือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 หรือโควิด-19 ซึ่งได้คร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมาก จากข้อมูลของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 3 กันยายน 2563 มียอดผู้ติดเชื้อทั่วโลกมากกว่า 26 ล้านคน รักษาหาย 18 ล้านคนเศษ เสียชีวิตไปแล้วกว่า 8 แสนคน 
ประเทศที่ติดเชื้อมากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีผู้ติดเชื้อมากถึง 6 ล้านคนเศษ และมีผู้เสียชีวิตสูงสุดด้วยเป็นจำนวนเกือบ 2 แสนคน ทั้งๆที่สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ได้ชื่อว่าระบบสาธารณสุขดีเยี่ยม แต่เพราะชาวอเมริกันส่วนหนึ่งเชื่อว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นเฟคนิวส์ และประเทศตนเป็นประชาธิปไตยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเชื่อรัฐบาลในการสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดสู่ผู้อื่น เรียกได้ว่าทำตนเองด้วยความเชื่อตนเองจริงๆ
ส่วนประเทศไทยมีการติดเชื้อจำนวน 3,427 คน เป็นอันดับที่ 121 ของโลก และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 58 รายถือเป็นอันดับที่ 127 ของโลก และครองตำแหน่งการไม่พบผู้ติดเชื้อภายในประเทศมายาวถึง 101 วัน เพราะการร่วมแรงร่วมใจกันดำเนินการตามมาตรการรักษาระยะห่าง การสวมใส่หน้ากากกันจนเป็นนิสัย แต่ ณ วันที่ 3 กันยายน 2563 เราก็พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศเป็นผู้ต้องขังใหม่ อยู่ในทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ซึ่งจากไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายนี้แล้วมีการคลุกคลีกับกลุ่มคนไม่ใช่น้อย ก็หวังว่าคงไม่ได้มีการระบาดกันไปมากมาย ด้วยความหวังที่พวกเราคงการ์ดไม่ตก และยังเป็นบทเรียนให้พวกเราต่อจากไปต้องยังการ์ดไม่ตกกันนะ
ถึงแม้บ้านเราจะเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 มาตั้งแต่เดือนมกราคม แต่ประเพณีที่สำคัญแก่พี่น้องเกษตรกรก็ไม่ได้มีการยกเลิกแต่เปลี่ยนรูปแบบให้เหมาะสมกับสถานการณ์นั่นก็คือประเพณีพระราชพิธี "พืชมงคล" จรดพระนังคัล "แรกนาขวัญ" 
พระราชพิธี นี้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อความเป็นสิริมงคล บำรุงขวัญเกษตรกร ให้เกิดความมั่นใจในการทำนาจะได้ผลผลิตดี มีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอต่อความต้องการ เกษตรกรบางส่วนจึงยึดถือฤกษ์วันพืชมงคลในการเริ่มทำการเพาะปลูก และจะคอยฟังคำพยากรณ์จากการเสี่ยงทายผ้านุ่งของพระยาแรกนาและการเสี่ยงทายจากการกินอาหารของพระโคเป็นประจำทุกปี
พระยาแรกนาจะทำการเสี่ยงทายผ้านุ่ง โดยการตั้งสัตยาธิษฐานแล้วหยิบผ้านุ่งซึ่งเป็นผ้าลายจำนวน 3 ผืนที่จัดเตรียมไว้ ประกอบด้วยผ้านุ่งขนาด 6 คืบ 5 คืบ และ 4 คืบ ผ้านุ่งแต่ละผืนมีความหมายดังนี้
 ⁃ 4 คืบ พยากรณ์ว่าปีนี้น้ำจะมามากสักหน่อย นาในที่ดอนจะได้ผลบริบูรณ์ดี นาในที่ลุ่มอาจจะเสียหายบ้าง ได้ผลไม่เต็มที่
 ⁃ 5 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำในปีนี้จะมีปริมาณพอดี ข้าวกล้าในนาจะได้ผลบริบูรณ์ และผลาหาร มังสาหาร จะอุดมสมบูรณ์ดี
 ⁃ 6 คืบ พยากรณ์ว่า น้ำจะน้อย นาในที่ลุ่มได้บริบูรณ์ดี แต่นาในที่ดอนจะเสียหายบ้างได้ผลผลิตไม่เต็มที่
ส่วนการเสี่ยงทายการกินอาหารของพระโคจะมีด้วยกัน 7 อย่าง ได้แก่ ข้าวเปลือก หรือ ข้าวโพด น้ำ และ หญ้า , ถั่ว , งา , เหล้า โดยมีความหมายดังนี้
 ⁃ ข้าวเปลือก หรือ ข้าวโพด พยากรณ์ว่า ธัญญาหาร ผลาหาร จะบริบูรณ์ดี
 ⁃ น้ำ หรือ หญ้า พยากรณ์ว่า น้ำท่าจะบริบูรณ์พอสมควร ธัญญาหาร ผลาหาร ภักษาหาร มังสาหาร (เนื้อสัตว์) จะอุดมสมบูรณ์ดี
 ⁃ ถั่ว หรือ งา พยากรณ์ว่า ผลาหาร ภักษาหาร (อาหารที่กินเป็นประจำ) จะอุดมสมบูรณ์ดี
 ⁃ เหล้า พยากรณ์ว่า การคมนาคมจะสะดวกขึ้น การค้าขายกับต่างประเทศจะดีขึ้น เศรษฐกิจจะรุ่งเรือง
ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19 )ดังกล่าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยงดการประกอบ พระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ในปีนี้จากเดิมที่สำนักพระราชวังได้กำหนดให้ประกอบพระราชพิธีในวันอาทิตย์ที่ 10 และวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563 
แต่ขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตประกอบพิธี ปลุกเสกเมล็ดพันธุ์ข้าวพระราชทาน และพืชพันธุ์ต่างๆ ในวันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม 2563 โดยนำพันธุ์ข้าวทรงปลูกพระราชทานในฤดูทำนาปี 2562 และพันธุ์พืชต่างๆ มาเข้าประกอบพิธี พร้อมทั้งพิธีหว่านหว่านข้าวในแปลงนาสาธิต สวนจิตรลดาในวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563 เพื่อความเป็นสิริมงคลและสร้างขวัญกำลังใจแก่เกษตรกรทุกสาขาทั่วประเทศ ด้วยทรงพระเมตตา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ ประธานองคมนตรี เป็นประธานไปในพิธีหว่านเมล็ดพันธุ์ข้าวในแปลงนาสาธิต สวนจิตรลดาในวันดังกล่าว
ถึงแม้ปีนี้ไม่ได้มีพิธีการเสี่ยงทายผ้านุ่งของพระยาแรกนา และการเสี่ยงทายการกินอาหารบองพระโค ทำให้ไม่ได้มีการพยากรณ์ในเรื่องความสมบูรณ์ของน้ำและผลผลิตของเกษตรกรจากพระราชพิธีฯ แต่มีการพยากรณ์จากกรมอุตุนิยมวิทยาเพื่อเป็นข้อมูลให้พี่น้องเกษตรกรใช้ประกอบการวางแผนการเพาะปลูก
กรมอุตุนิยมวิทยาได้ประกาศเข้าสู่ฤดูฝนเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 และคาดการณ์ว่า ฤดูฝนของประเทศไทยจะสิ้นสุดกลางเดือนตุลาคม 2563 โดยภาพรวมปริมาณน้ำฝนในปีนี้ จะน้อยกว่าค่าปกติ ประมาณร้อยละ 5 แต่จะยังคงมีปริมาณน้ำมากกว่าฤดูฝนในปี 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งในช่วงต้นฤดูฝนที่จะถึงนี้ ปริมาณฝนระหว่างเดือน พฤษภาคม – มิถุนายน ปริมาณฝนจะน้อยกว่าปกติ ช่วงกลางฤดูจะมีปริมาณใกล้เคียงกับค่าปกติ ก่อนจะไปลดลงในช่วงปลายฤดูกาลราวร้อยละ 5
อย่างไรก็ตามเกษตรกรจำนวนมากยังได้ยึดวันพืชมงคลเป็นวันเริ่มทำการเพาะปลูก บางส่วนได้ยึดวันที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเข้าสู่ฤดูฝนคือวันที่ 18 พฤษภาคม 2563 แต่ปริมาณฝนที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้นที่ปริมาณฝนจะน้อยกว่าค่าปกติในช่วงต้นฤดูฝน ทำให้เกษตรกรในหลายพื้นที่ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง 
กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้พยายามช่วยขึ้นบินทำฝนเพื่อบรรเทาปัญหาฝนทิ้งช่วงในแต่ละพื้นที่ด้วย 12 หน่วยปฏิบัติที่กระจายตัวอยู่ทั่วภูมิภาค โดยร่วมกับกองทัพอากาศและกองทัพบกได้สนับสนุนอากาศยานและกำลังพลจำนวนหนึ่งเข้าร่วมปฏิบัติการ แต่การทำฝนนั้นก็ขึ้นกับเงื่อนไขสภาพอากาศ ทำให้บางพื้นที่เราได้ช่วยบรรเทาปัญหาให้รอดพ้นวิกฤต แต่ในบางพื้นที่ก็ยังต้องพยายามช่วยเหลือกันต่อไป
แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 เช่นนี้ พระมหากษัตริย์ไทยยังทรงพระเมตตา ทรงห่วงใยพสกนิกร ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้จัดพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญขึ้นในรูปแบบที่เหมาะสมกับสถานการณ์เพื่อเป็นสิริมงคลแก่พสกนิกรชาวไทย และบำรุงขวัญพี่น้องเกษตรกรให้เกิดความมั่นใจในการทำนาจะได้ผลผลิตดี มีความอุดมสมบูรณ์เพียงพอต่อความต้องการ 
นับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ทั้งนี้อานิสงส์ของมหามงคลเหล่านี้จะสัมฤทธิ์ผลต่อผู้รับมากน้อยเพียงใด ย่อมขึ้นอยู่กับผู้รับท่านนั้นปฏิบัติตนเยี่ยงใด หากผู้รับท่านนั้นประพฤติดีปฏิบัติชอบด้วยกายกรรม มโนกรรม วจีกรรม ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริตและจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ด้วยแล้ว มงคลเหล่านั้นย่อมปกปักคุ้มครองให้เกิดผลสำเร็จ แคล้วคลาดปลอดภัยจากวิกฤตที่กำลังเผชิญอยู่ทั้งปวงได้อย่างแน่นอน
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"
#เครื่องรับสัญญาณของผู้รับต้องตรงกับคลื่นส่งจากผู้ให้
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด