เปลี่ยนการแสดงผล
#หมอดูคู่กับหมอเดา
16 กันยายน 2563 2,521 ครั้ง
#หมอดูคู่กับหมอเดา
  ในสภาวะที่คนเราจิตใจไม่ปกติ รู้สึกเกิดความสับสน หว่าเว้ อ่อนแอ ทุกข์ เสียใจ มักต้องการหาเครื่องยึดเหนี่ยวเพื่อให้เกิดความสบายใจ สิ่งหนึ่งที่จะทำกันบ่อยๆก็คือ การบนบานศาลกล่าวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตนเคารพนับถือ แต่บางคนแค่บนบานศาลกล่าวเท่านั้นอาจจะยังไม่เพียงพอ ยังเที่ยวตระเวนหาดูดวงชะตาเพื่ออยากทราบอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ปัญหาที่มีอยู่จะแก้ได้หรือไม่ ชีวิตจะดีขึ้นหรือไม่ คำถามจะขึ้นอยู่กับปัญหาที่แต่ละคนเผชิญอยู่ อาชีพหมอดูหรือนักพยากรณ์ชะตาชีวิตจึงเกิดขึ้น...
หมอดูหรือนักพยากรณ์มีหลากหลายรูปแบบและวิธีการก็แตกต่างกัน แต่มีรูปแบบหลักๆ 4 รูปแบบดังนี้
1. พยากรณ์ดวงชะตาโดยใช้ดวงดาวในการทำนาย เช่น โหราศาสตร์ไทย 
2. พยากรณ์ดวงชะตาโดยใช้การเสี่ยงทายในการทำนาย เช่น ไพ่ยิปซี เสี่ยงเซียมซี ลูกเต๋า 
3. พยากรณ์ดวงชะตาโดยใช้ร่างกายหรือสิ่งแวดล้อมอื่นๆในการทำนาย เช่น ดูลายมือ ลายเท้า โหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย
4. พยากรณ์ดวงชะตาโดยใช้พลังจิต เช่น ร่างทรง นั่งทางใน
การพยากรณ์ทั้ง 4 รูปแบบ จะต้องอาศัยหมอดูหรือนักพยากรณ์ที่มีความชำนาญในวิธีการพยากรณ์ ซึ่งในสังคมที่แท้จริงก็จะมีทั้งผู้ชำนาญจริงและไม่จริง จึงมักมีคำพูดที่ว่า"หมอดูคู่กับหมอเดา"
  ในความเห็นส่วนตัวนะ ยิ่งถ้าหมอดูมีจิตวิทยาที่ดีหลอกถามเราเยอะๆก็อาจจะรู้ได้ว่าเราต้องการอะไร ก็ประมวลข้อมูลของเรามาเดาให้เราเชื่อมั่นในตัวหมอดู จนบางทีก็กลายเป็นเหยื่อของหมอดูไปเลย เพราะหมอดูอาจจะแนะนำให้จัดทำพิธีโน่นนี่นั่นซึ่งต้องเสียเงินทั้งสิ้น หรือหลอกให้เช่าอะไรไปบูชาแก้เคล็ดบ้างพวก"สายมูเตลู" คงเข้าใจดี
  เรื่องการทำนายหรือพยากรณ์นั้นยังอีกวิธีการหนึ่งที่นิยมในหมู่เยาวชนนั่นคือ "การเล่นผีถ้วยแก้ว" ผีถ้วยแก้วมีความนิยมอยู่ทั่วโลก และสัญนิษฐานว่าประเทศจีนเป็นประเทศแรกในการเล่นผีถ้วยแก้ว ด้วยความเชื่อว่าผีหรือวิญญาณจะรู้เรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ จึงเป็นที่มาของการเล่นผีถ้วยแก้วเพื่อให้ทำนายอนาคตตามที่ต้องการอยากรู้ รูปแบบของการเล่นผีถ้วยแก้วในแต่ละประเทศจะคล้ายคลึงกัน คือ นำธูปที่จุดเชิญวิญญาณมาจ่อที่ปากถ้วยแก้วที่จะเล่นเพื่อให้ควันเข้าในถ้วย โดยเชื่อว่าควันธูปเป็นตัวสื่อสารกับวิญญาณ แล้วนำถ้วยนั่นมาคว่ำบนกระดานที่มีตัวอักษรต่าง ๆ วรรณยุกต์ รวมถึงตัวเลข และมีตำแหน่งที่ใช้สำหรับพัก และมีข้อห้ามที่เหมือน ๆ กัน คือ ห้ามหงายถ้วยก่อนเล่นจบ และระหว่างที่เล่นห้ามยกนิ้วออกเพราะจะถือว่าไม่เคารพวิญญาณหรือจะถูกวิญญาณเข้าสิงได้ จะเปิดถ้วยได้ต่อเมื่อให้ถ้วยแล้วเดินไปที่พักแล้วบอกกล่าวขอบคุณอำลากันไป  การเล่นผีถ้วยแก้วจะใช้ผู้เล่น 2-4 คน ใช้นิ้วแตะสัมผัสเบาๆบนก้นถ้วย แล้วเริ่มจากการถามว่าดวงวิญญาณที่เชิญเข้ามาแล้วหรือยัง? ถ้าเข้ามาแล้วขอให้เดินไปยังตำแหน่งที่ใช้สำหรับพัก หากถ้วยแก้วเดินไปที่พักแล้ว ก็สามารถเริ่มถามในสิ่งที่ต้องการได้โดยให้ถ้วยเดินไปวนรอบตัวอักษร วรรณยุกต์ ตัวเลขที่เขียนไว้บนกระดานทีละตัวเพื่อผสมคำเป็นคำตอบ สมัยเป็นนักเรียน นักศึกษา หลายๆคนคงเคยมีประสบการณ์ในการเล่นผีถ้วยแก้ว เพราะอยากถามเกี่ยวกับการเรียน การสอบ คำถามยอดฮิตในการเล่น คือ จะสอบผ่านได้เกรดอะไร? ผีถ้วยแก้วก็จะตอบให้ตามแรงผลักของนิ้วพวกเราที่เราปรารถนาจะได้เกรดอะไรนั่นแหละจริงมั้ย? คนที่เคยเล่นช่วยตอบที 
จากประสบการณ์ที่เคยร่วมเล่นกับเพื่อนๆ มีเพื่อนถามว่าจะได้เกรดอะไร ผีถ้วยแก้วดันพาไปวนที่เลข 4 มันก็หลงดีใจ ชะล่าใจไม่ค่อยอ่านหนังสือมัวแต่มาเล่นผีถ้วยแก้วอยู่เรื่อย สุดท้ายผลสอบได้ 4 จริงๆแต่เป็น 4 คะแนนจาก 30 คะแนน ดีที่เป็นแค่สอบกลางภาคยังพอมีเวลาแก้ต้ว ไม่อย่างนั้นคงต้องบอกว่าสมน้ำหน้าเชื่อในสิ่งที่ไม่ควรเชื่อ แล้วประมาท ขาดความพยายามที่จะต้องช่วยเหลือตัวเอง 
อยากสารภาพผิดตอนนั้นว่าจริงๆตอนที่เล่น ไม่ได้เอาแค่นิ้วแตะสัมผัสก้นถ้วยเบาๆ บางครั้งก็ช่วยดันด้วยเพราะมันเมื่อยแขน(แอบสงสารเพื่อนตอนประกาศผลสอบ) ต้องบอกว่าขอโทษด้วยนะเพื่อน
  ในชีวิตประจำวันนอกจากต้องการทราบการพยากรณ์ชะตาชีวิตแล้ว เรายังมีความต้องการทราบในเรื่องสภาพดิน ฟ้า อากาศ ด้วยเช่นกัน จึงมีการพยากรณ์อากาศด้วยวิธีการต่างๆโดยการใช้ข้อมูลปัจจุบันจากการตรวจอากาศของประเทศที่เป็นสมาชิกขององค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ซึ่งมีจำนวนมากกว่า ๑๓๐ ประเทศ รวมทั้งประเทศไทย ที่ได้ส่งและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันในลักษณะของโค้ดตัวเลข ระหว่างประเทศต่างๆ และจัดทำข้อมูลลงในแผนที่ 
  จากนั้นนักอุตุนิยมวิทยาจึงทำการวิเคราะห์ข้อมูล เปรียบเทียบความสัมพันธ์ของแผนที่ต่างๆ พร้อมทั้งใช้ความรู้ ประสบการณ์ และความชำนาญในการพยากรณ์อากาศตามระบบอากาศ ซึ่งมีหลายวิธีด้วยกันเช่น การวิเคราะห์แผนที่อากาศผิวพื้น การวิเคราะห์แผนที่ลมชั้นบน การวิเคราะห์แผนที่อากาศเชิงตัวเลข การเปรียบเทียบข้อมูลทางสถิติด้านภูมิอากาศ  การพยากรณ์อากาศนอกจากศึกษาจากลักษณะอากาศซึ่งเกิดขึ้นในปัจจุบันแล้ว ยังศึกษาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหรือไม่ โดยมีวิธีการคือ วิธีการคงสภาพเดิม วิธีการดูแนวโน้ม วิธีการเปรียบเทียบกับลักษณะอากาศในอดีต ส่วนการพยากรณ์แนวโน้มโอกาสในการทำฝนของกรมฝนหลวงนั้น เราก็ใช้หลักสถิติโดยใช้ข้อมูลต่างๆในระดับความสูงต่างๆของชั้นบรรยากาศ เช่น ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ อุณหภูมิ ความเร็วลม ทิศทางลม ฯลฯ เพื่อมาสร้างแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ แล้วนำข้อมูลที่ตรวจวัดในแต่ละวันโดยใช้บอลลูนตรวจสภาพอากาศในเวลา 07.00 น. ตามหลักสากล มาประมวลโดยแบบจำลองที่ถูกพัฒนาขึ้น และปัจจุบันอยู่ระหว่างการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์(AI) มาร่วมวิเคราะห์เพื่อให้เกิดความแม่นยำมากยิ่งขึ้น
จะเห็นว่าไม่ว่าจะหมอดูหรือนักพยากรณ์ชะตาชีวิต หรือนักอุตุนิยมวิทยาที่ทำหน้าที่พยากรณ์อากาศ ล้วนแต่ต้องมีความชำนาญในสาขาของตน ความน่าเชื่อถือในแต่ละวิธีก็จะแตกต่างกันไป วิธีการที่ใช้หลักสถิติและความน่าจะเป็นน่าจะได้รับความเชื่อถือมากกว่าวิธีการที่ใช้ความรู้สึกและพิสูจน์ไม่ได้เช่น การทรงเจ้าเข้าทรง ที่ถึงแม้เคยเป็นข่าวขึ้นหน้า1 มาหลายครั้งหลายคราในข้อหาลวงโลก แต่คนก็ยังตกเป็นเหยื่อกันมากมายเพราะต้องการหาที่พึ่งทางใจในยามที่เกิดทุกข์ แต่บังเอิญไปเจอคนที่ไม่มีจิตสำนึกที่ดี ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องของเวรกรรม 
ทั้งนี้คนที่กระทำย่อมรู้อยู่แก่ใจ หากมีสติแล้วหยุดการกระทำที่ส่อไปในทางเจตนาที่ไม่ดีโดยมีผลประโยชน์แอบแฝงได้ ก็คงเป็นบุญที่ตนเองจะเลิกสร้างกรรมต่อตนเอง ต่อเพื่อนมนุษย์ และต่อครอบครัวของท่านเองต่อไป...
เขียนโดย "หลงเมฆ"
#หยุดสนใจในการกระทำไม่ดีของผู้อื่นยิ่งทำให้ผู้นั้นไร้ราคา
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
ภาพและวีดีโอ