ความฝันเด็กผู้ชายอย่างเรา คือการได้เป็น"นักบิน"
22 กรกฎาคม 2564
501
ครั้ง
ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ ขอสู้ศึกทุกเมื่อไม่หวั่นไหว
ขอทนทุกข์รุกโรมโหมกายใจ ขอฝ่าฟันผองภัยด้วยใจทะนง
จะแน่วแน่แก้ไขในสิ่งผิด จะรักชาติจนชีวิตเป็นผุยผง
จะยอมตายหมายให้เกียรติดำรง จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมา
นี่คือส่วนหนึ่งของเนื้อเพลงพระราชนิพนธ์ ความฝันอันสูงสุด
ตั้งแต่กระผมเติบโตมาและจำความได้ สมัยก่อนเมื่อพบเจอกับญาติๆและคนรู้จัก มักจะได้ยินคำถามอยู่เป็นประจำ “โตขึ้นอยากเป็นอะไร?” ด้วยความเป็นเด็ก แรกๆก็ไม่ได้ตอบ โตมาสักนิดพอเจอคำถามนี้ก็จะตอบแบบเด็กผู้ชายทั่วๆไป ทหาร ตำรวจ
วันหนึ่งคุณแม่พาไปเที่ยวงานวันเด็กที่สนามบินเกษตร มีเครื่องบินมาจอดและบินโชว์ เด็กผู้ชายอย่างเรา เริ่มมีความฝันของอาชีพที่เปลี่ยนไปจากเดิม นั่นคืออยากเป็น “นักบิน” จะได้ขับเครื่องบินขึ้นบนฟ้า บินไปที่ไหนๆก็ได้ที่อยากไป มีอิสระ ซึ่งคือความคิดของเด็กๆนั่นเอง ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เห็นเครื่องบิน บินผ่าน ก็จะให้ความสนใจเป็นพิเศษ
มองขึ้นไปบนฟ้า เห็นเครื่องบิน 2 ลำบินคู่กัน มีควันขาวๆออกจากท้ายเครื่องบินทั้ง 2 ลำ ร้องเรียกพ่อมาดู พ่อบอกว่า เครื่องบินทำฝน ด้วยความเป็นเด็กก็ไม่รู้ว่าเครื่องบินทำฝนได้อย่างไร?
ขึ้นชั้น ป.2 มีเรียนวิชาหนึ่ง ครูสอนและอธิบายเรื่องโครงการพระราชดำริฝนหลวง ก็เลยถึงบางอ้อ ที่พ่อเคยบอกเรื่องเครื่องบินทำฝน
ทุกครั้งที่เห็นเครื่องบินฝนหลวง สิ่งที่นึกถึงตลอดคือพ่อหลวง พ่อที่ไม่เคยทอดทิ้งราษฎร พ่อที่นำปัญหาหลายๆอย่างมาแก้ไขและพระราชทานเป็นแนวทาง เพื่อประโยชน์สุข แห่งอาณาประชาราษฎร์
ภารกิจต่างๆนั้น จะไม่สำเร็จไปได้ หากขาดฟันเฟืองในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า ด้วยเจ้าหน้าที่ทุกท่าน ทุกตำแหน่ง ที่จะรักษาและพัฒนา เพราะทุกหน้าที่มีความสำคัญกับการขับเคลื่อนงาน แต่หากพูดถึงอาชีพในฝันที่ฉันรัก ทุกวันนี้อาชีพในฝันของกระผมก็คือ นักบิน แต่ไม่ใช่นักบินที่คิดจะบินไปไหนๆก็ได้แบบความคิดเด็กๆในตอนนั้น หากแต่จะต้องเป็นนักบินที่ปฏิบัติงานสืบสานให้พระองค์ท่าน เพื่อประโยชน์ของพื้นแผ่นดินไทย อย่างเช่นนักบินของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรนั่นเอง
เขียนโดย "เอกวุธ"