ประเทศไทยในช่วงนี้ได้รับอิทธิพลทางอ้อมจากพายุโซนร้อนโกนเซิน ทำให้หลายภูมิภาค หลายพื้นที่ได้รับน้ำฝนกันอย่างชุ่มฉ่ำพอสมควร ถึงขั้นทำให้หลายพื้นที่ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำที่อาจจะล้น แล้วเข้าสู่ท้องไร่ ท้องนาได้ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไรผมขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องเกษตรกรทุกๆ ท่านผ่านพ้นเหตุการณ์ในช่วงนี้ไปได้ด้วยดีครับ ทีนี้เราหันกลับเข้ามาในเขตเมืองกันบ้าง ผู้คนที่ไม่ได้มีอาชีพเกี่ยวกับการเกษตรต่างก็ได้รับอิทธิพลจากพายุนี้เช่นกัน บางคนอาจคิดว่าทำไมไม่ไปตกแถวที่เค้าทำนาก็พอแล้ว จะมาตกทำไมแถวนี้ ถนนหนทางเฉอะแฉะ ทำให้การสัญจรในแต่ละวันติดขัดไปบ้าง จุดนี้ก็เป็นมุมมองที่สะท้อนความคิดของคนที่อยู่ต่างพื้นที่กัน เพราะคนที่อยู่ในเขตพื้นที่การเกษตรอย่างไรก็ต้องการน้ำฝนอยู่ดี
อย่างไรก็ตามแม้ช่วงนี้จะมีฝนตก แต่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ก็มิได้หยุดทำงานแต่อย่างใด หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศยังคงมีการวางแผน เพื่อเตรียมความพร้อมในการทำงานแต่ละวัน เนื่องจากยังมีอีกหลายพื้นที่ ที่อาจจะได้รับน้ำฝนยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ด้วยเหตุนี้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเหล่าเจ้าหน้าที่ตามหน่วยฯ ต่างๆได้ลงพื้นที่เพื่อทำการสำรวจ พื้นที่ในเขตความรับผิดชอบเพื่อรับรู้ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปลูกพืชชนิดใด มีความต้องการน้ำเพิ่มเติมหรือเพียงพอแล้วในช่วงนี้ และที่มาของข้อมูลเหล่านี้นั้นคงจะหนีไม่พ้นเหล่าอาสาสมัครฝนหลวง ที่กระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ที่รับอาสาเป็นส่วนเชื่อมคอยประสานงาน พูดคุยในเรื่องต่างๆระหว่างเกษตรกรในพื้นที่และเจ้าหน้าที่ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อรับรู้ถึงความต้องการของเกษตรกร และหลายครั้งได้ช่วยประชาสัมพันธ์ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ของหน่วยงานให้กับประชาชนทั่วไปได้รับรู้ถึงภารกิจในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร นั้นจะมีการจัดอบรมอาสาสมัครฝนหลวงปีละ 1 ครั้ง ในช่วงปลายปี เพื่อเป็นการเพิ่มจำนวนเหล่าอาสาสมัครฝนหลวงให้กระจายครอบคลุมมากยิ่งขึ้น โดยในแต่ละปีนั้นผู้ที่ถูกคัดเลือกให้เข้ามาอบรมนั้น จะได้รับความรู้ในด้านอุตุนิยมวิทยา ที่เป็นพื้นฐานในเรื่องของเมฆ ว่าเมฆมีกี่ลักษณะ แตกต่างกันอย่างไรเพื่อนำมาใช้ในการสังเกตก้อนเมฆในพื้นที่ และสามารถบอกเหตุการณ์ ณ ขณะนั้นให้แก่เจ้าหน้าที่ได้ รวมถึงการรายงานปริมาณน้ำฝน และการประสานการขอรับบริการน้ำฝน นับว่าเป็นการเพิ่มช่องทางการติดต่อระหว่างเกษตรกรกับกรมฯ อีกทางหนึ่ง อาสาสมัครฝนหลวง ที่เข้ามาทำหน้าที่ตรงนี้นั้น แต่ละท่านไม่ได้รับค่าตอบแทนอะไรเลยนะครับ พวกเขาต่างอาสาเข้ามาทำด้วยใจรัก ให้เป็นเกียรติแก่ตนเองว่าครั้งหนึ่งในชีวิตได้มีโอกาสสนองงาน และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการพระราชดำริฝนหลวง ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ต้องการ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้แก่เกษตรกร ได้รับน้ำอุปโภค บริโภค และใช้ในการเกษตรอย่างเพียงพอ ซึ่งหากเปรียบการทำงานของเหล่าอาสาสมัครฝนหลวงนั้น ไม่ต่างจากการเป็นสายพระเนตร พระกรรณ ของพระองค์
แม้ในวันนี้พวกเราอาจจะไม่มีโอกาสได้ชื่นชมพระบารมีของพระองค์ แต่พระบารมีที่แผ่ไพศาล ปกเกล้าให้แก่เหล่าประชา นั้นยังมีไม่เสื่อมคลาย เหมือนกับว่าพระองค์ยังอยู่กับเราเพียงพระองค์ทรงทอดพระเนตรมองพวกเราอยู่บนท้องฟ้า ที่คอยส่งกระแสน้ำจากพระราชหฤทัยลงมา ผ่านเหล่าอาสาสมัครฝนหลวง หากท่านอ่านมาถึงตรงนี้แล้วขอเชิญร่วมปรบมือให้แก่พวกเขาดังๆ ด้วยกันครับ

#การเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ ถ้าใช้หู ใช้ตา อย่างถูกต้องจึงจะเกิดประโยชน์
เขียนโดย “เมฆเล็กเล็ก”