พระองค์ทรงอยู่ในใจของประชาชนทุกๆ คน
เดิมทีผมเป็นเด็กต่างจังหวัด อ.ปากพนัง จ.นครศรีฯ การได้รับรู้รับทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 น้อยมากๆ จะเห็นพระราชกรณียกิจและการทำงาน ก็ต่อเมื่อได้ดูหนังกลางแปลง หรือดูหนังในโรงภาพยนตร์หรือในทีวี ที่มีเพลงสรรเสริญพระบารมีก็เท่านั้น ต่อมาได้มาเรียนหนังสือในกรุงเทพฯ ด้วยความที่เป็นวัยรุ่น สิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับพระองค์แทบจะไม่ได้เรียนรู้เลย ไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่า พระองค์ทรงทำอะไรบ้าง เห็นแต่ในข่าวพระราชสำนักซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานพิธี และก็ไม่ได้ดูอย่างสม่ำเสมอ และตั้งใจดู
จนกระทั่ง ได้ไปเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตอนที่เปิดใหม่ๆ ถึงได้รู้ว่าพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวกับแหล่งน้ำของพระองค์น่าสนใจและเกิดประโยชน์แก่ประชาชน หลังจากนั้นได้ใช้ชีวิตในการทำงานมีครอบครัว การเอาใจใส่หรือสนใจพระราชกรณียกิจของท่านแทบจะน้อยมาก กระทั่งผมกลับมาทำอาชีพเกษตรกร วันนึงทางสำนักงานเกษตรอำเภอ ได้ส่งผมเข้าไปอบรมอาสาสมัครฝนหลวง ในปี 2561 ผมถึงได้ทราบว่า และจำไว้ว่าตอนที่เรียนหนังสือก็ทราบถึงพระราชกรณียกิจและปรีชาสามารถของท่านในการที่จะทำฝนหลวง
ตลอดระยะเวลาที่ผมไปอบรม กิจกรรมของอาสาสมัครฝนหลวงทำให้ผมซาบซึ้งและประทับใจในสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง ทรงตั้งใจทำเพื่อพี่น้องเกษตรกรและปวงชนชาวไทย หลังจากที่ผ่านการอบรม กลับมาถึงบ้านลูกๆ ถามว่าพ่อไปอบรมโครงการอะไร ผมตอบลูกๆว่า โครงการอาสาสมัครฝนหลวงครับ ลูกๆ พูดว่าพ่อไปทำงานให้กับพระเจ้าอยู่หัวใช่มั้ย สิ่งที่ลูกๆ พูดกับผม ทำให้ผมน้ำตาซึม และก็รู้สึกตื้นตันเป็นที่สุด เพราะลูกๆ คิดว่าผมได้เข้าไปร่วมงานและทำงานกับพระองค์ท่านจริงๆ เหมือนที่ลูกๆ ได้เรียนในโรงเรียนเกี่ยวกับฝนหลวง
นี่คือสิ่งหนึ่งที่ผมรู้สึกว่าพระองค์ทรงอยู่ในใจของประชาชนคนไทยทุกๆ วัย แม้กระทั่งเด็กๆ ยังทราบถึงพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน หลังจากนั้นเป็นต้นมา ผมก็เริ่มที่จะค้นคว้าหาข้อมูล พระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน สิ่งหนึ่งที่ผมเจอก็คือ ที่บ้านเกิดของผม อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช พระองค์ทรงสร้างประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิเพื่อป้องกันการรุกตัวของน้ำเค็มไม่ให้ไหลเข้าแม่น้ำปากพนังและลำน้ำสาขาในช่วงฤดูแล้ง และเป็นแหล่งเก็บกักน้ำจืดในช่วงฤดูฝนเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาการขาดแคลนน้ำและส่งน้ำให้กับพื้นที่เพาะปลูกสองฝั่งลำน้ำ ประมาณ 5 แสนกว่าไร่ในฤดูฝน และ 2 แสนกว่าไร่ในฤดูแล้ง ทำให้เกษตรกรลุ่มน้ำปากพนังที่ไม่เคยทำนาปลูกข้าวได้เพราะว่าน้ำกร่อยและเค็ม กลับมาทำนาปลูกข้าวรวมถึงกิจกรรมต่างๆ ในภาคเกษตรได้และมีน้ำใช้ในช่วงหน้าแล้ง
ทุกๆ ครั้งที่มีโอกาสได้กลับบ้านเกิดที่ปากพนัง ผมจะเล่าให้ลูกฟัง ให้ลูกได้รู้ว่า เมื่อก่อนจะมีช่วงน้ำขึ้นน้ำลง และน้ำทะเลหนุน ทำให้น้ำในลำคลองมีความกร่อยและเค็ม ไม่สามารถทำการเกษตรได้ จนกระทั่งพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้ทรงสร้างประตูระบายน้ำขึ้น ทำให้พี่น้องเกษตรกรมีความสุข ยิ้มแย้มแจ่มใส สามารถกลับมาทำการเกษตรได้ และมีอีกหลายๆ โครงการที่เกี่ยวกับแหล่งน้ำ เขื่อน ฝาย ฯลฯ รวมถึงโครงการปฏิบัติการฝนหลวง ที่ผมได้มีส่วนร่วมในการเป็นอาสาสมัครฝนหลวง
เขียนโดย พสิษฐ์ สุขสวัสดิ์