เปลี่ยนการแสดงผล
จำนวนผู้เยี่ยมชมเว็บไซด์
วันนี้
3422
เดือนนี้
51637
เมื่อวาน
3523
เดือนที่แล้ว
38688
#เสียงของป่า
24 ตุลาคม 2564 433 ครั้ง

#เสียงของป่า 
ป่าและสัตว์ป่าที่ไม่สามารถบอกให้มนุษย์ได้รับรู้ตรงๆได้ 

#ป่า : พวกมนุษย์บุกรุก เข้ามาตัดพี่น้องฉันเป็นจำนวนมาก เพื่อเอาพื้นที่ ไปทำถนน ไปทำอ่างเก็บน้ำ ไปทำการเกษตร จุดไฟเผาพวกฉันบ้าง เพื่อต้องการได้อาหารแค่เล็กน้อย บางครั้งยังมาล่าพวกพี่น้องของฉันไปเป็นอาหารอีก ทำให้พวกพี่น้องของฉันที่คอยอาศัยความสมบูรณ์ และความร่มเย็นของฉันเป็นที่อยู่อาศัย และแหล่งอาหาร เกิดความเดือดร้อน
สักครู่ก็แอบมาได้ยิน ครอบครัวช้างที่เป็นเหมือนตัวแทนสัตว์ป่าทั้งหลาย กำลังพูดคุยกันอยู่

#ลูกช้าง: วันก่อนหนูออกไปเดินเล่นในบ้านหลังใหญ่ของพวกเรา เห็นแม่นกกำลังนั่งร้องไห้อยู่ หนูเลยเข้าไปถามว่าร้องไห้ทำไม

#แม่นก: ก็ไอ้พวกมนุษย์ใจร้ายมันมาตัดต้นไม้ ต้นที่ฉันวางไข่ไว้ อุตส่าห์ฟักมาตั้งนาน พวกลูกๆฉันเกือบจะได้ลืมตามาดูโลกแล้ว ตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้วทั้งลูก และบ้านของฉัน ฮือฮือ

#แม่ช้าง: ไอ้พวกนี้มันช่างใจร้ายจริงๆ มันเห็นแก่ได้ มันไม่รู้เหรอว่าต้นไม้ ช่วยสร้างความชุ่มชื้น ทำให้ฝนตก มีน้ำให้พวกมันใช้ แถมยังช่วยสร้างออกซิเจนทำให้อากาศดี ถ้าแม่เจอพวกมันนะ จะเหยียบให้จมดินไปเลย

#พ่อช้าง: พ่อเห็นด้วยเลยแม่ ไอ้พวกนี้มันเห็นแก่ได้ มันไม่รู้เหรอว่า ต้นไม้เปรียบเสมือนเขื่อนธรรมชาติดีๆเลย ช่วยชะลอน้ำฝนที่ตกลงมา ไม่ให้ไหลทิ้งไปโดยเร็ว พวกเราก็จะมีน้ำตามลำธารให้อาบ ดื่ม กินกันตลอดอย่างต่อเนื่อง และความชุ่มชื้นก็จะยังคงอยู่ ทำให้มีแหล่งอาหารของพวกเรา

#พ่อช้าง: เออ!!แม่จำได้มั้ยที่วันก่อน ที่พ่อพาพวกเราไปหาอาหารชายป่า ที่เราเคยไปเมื่อตอนที่เจ้าหนูยังไม่เกิด ก็ไปเจอทางที่ไม่ใช่ทางดิน แบบที่พวกเราเคยเดิน มาขวางกั้นอยู่ ทำให้เรางง สับสนกันอยู่นาน แถมยังมีตัวอะไรก็ไม่ รูปร่างเหลี่ยมๆ สีก็แปลกๆ แถมเสียงร้องของมัน ก็แปลกหูไม่เคยได้ยิน เสียงร้องมันดังปริ๋นๆๆ ฟังแล้วไม่ใช่เสียงพวกเราเลย พ่อก็เดินเข้าไปใกล้ๆมัน มันยังร้องขู่ปริ๋นๆๆ พ่อก็เลยใช้งาคู่ใหญ่ของพ่อจัดการงัดมัน หงายท้องยอมแพ้ไปเลย

#ลูกช้าง: วันก่อนหนูไปเที่ยวบ้านลุงช้างมา แกเล่าให้ฟังว่าเพิ่งเสียลูกชายไป เพราะว่าอาหารในบ้านหลังใหญ่ของพวกเรามันไม่มี มันแห้งแล้งมากปีนี้ ลุงเลยพาครอบครัวไปหาอาหาร ไกลขึ้น ไปเจอสวนกล้วย สวนทุเรียน ลูกชายลุงคงหิวจัดรีบวิ่ง ไปจะกินกล้วย เจอเส้นๆอะไรก็ไม่รู้ ไปถูกมันเข้าตัวชา ก้าวขาไม่ออก ในที่สุดก็ล้มตายตรงนั้นเลย ดีที่พวกลุงรอดมาได้

#พ่อช้าง: ไอ้ที่ดินแถวนั้นเนี่ย จริงๆเมื่อก่อนเป็นที่อยู่ของบรรพบุรุษเรา ตั้งแต่สมัยปู่ทวดของเอ็งเลย แล้วไอ้พวกมนุษย์ใจร้ายนั่นแหละ มันก็บุกรุกเข้ามา พวกเราเลยต้องอพยพเข้ามาอยู่ตรงนี้กัน

#แม่ช้าง: พ่อ ช่วงนี้มันร้อนจังเลย น้ำในลำธารก็ไม่ค่อยมีจะกินแล้ว อาหารก็หายากจัง จะทำไงดี

#ลูกช้าง: วันก่อนหนูเห็นเหมือนนก สีขาวลายเขียว บินมาแถวๆบ้านเรานะ เห็นมีอะไรสีขาวๆพุ่งๆออกมาจากทางหางด้วย 

#พ่อช้าง: พ่อก็เคยเห็นและปูเอ็งเคยเล่าให้ฟังว่ามีพระราชาเสกฟ้า เสกฝน ได้ คงสั่งให้มาช่วยพวกเราแน่ๆหลังจากเห็นสีขาวๆพุ่งจากหางมันสักพักฝนก็เทลงมาใหญ่เลย

ฝนที่ตกลงมานั้น เพราะด้วยพระปรีชาสามารถ และพระเมตตา ของในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงได้ทรงคิดค้นโครงการฝนหลวงขึ้นเพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลาย ตลอดจนป่าไม้ และรักษาระบบนิเวศน์ให้คงความสมดุล สมบูรณ์ โดยมีในหลวงรัชกาลที่ 10 ได้ทรง สืบ สาน รักษา ต่อยอด และทรงสนพระทัยในการขับเคลื่อนโครงการพัชรสุธาคชานุรักษ์ เขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดในภาคตะวันออก เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์ทั้งหลาย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ หาที่สุดมิได้

หน่วยงานฝนหลวง จึงได้ติดตามสภาพอากาศทุกวันโดยไม่มีวันหยุดราชการ เพื่อพร้อมที่จะขึ้นบินทันทีในสภาพอากาศ ที่เอื้อต่อการปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้ผืนป่า เพื่อแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ การเกษตร และเติมน้ำให้เขื่อน ตลอดจน ช่วยดับไฟป่า...

#ลูกช้าง: แม่ แม่ พ่อ พ่อ ออกมาดูนี่เร็ว ฝนตกลงมาใหญ่เลย มาเล่นน้ำกัน แบบนี้อีกไม่นานในลำธาร คงมีน้ำกลับมาเหมือนเดิม ต้นไม้งอกงามขึ้น พร้อมอาหารที่เราคุ้นเคย คงมีเหมือนเดิมแน่ๆเลย คงเป็นเพราะฝนของพระราชาองค์นั้นแน่เลยครับ

#พ่อแม่ช้าง : ใช่แล้วลูก

ทันใดนั้นครอบครัวช้างต่างก้มหมอบลง แล้วชูงวงขึ้น เปล่งเสียงร้องออกไป ราวกับคำว่า ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ

#มีป่ามีฝน คนตัดป่า ป่าขาดน้ำ คนขาดฝน

บทความส่วนหนึ่งจาก "ร้อยเรื่องราวฝนหลวง"
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"

อ่านฉบับเต็มได้ที่
https://www.facebook.com/Drraa.pr/videos/1071449449906721/

ภาพและวีดีโอ