กรมฝนหลวงและการบินเกษตร สรุปผลการปฏิบัติการฝนหลวงบรรเทาปัญหาหมอกควันในภาคใต้ตอนล่าง
26 ตุลาคม 2558
22,243
ครั้ง
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร สรุปผลการปฏิบัติการฝนหลวง
บรรเทาปัญหาหมอกควันในภาคใต้ตอนล่าง
นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2558 ที่ผ่านมา ภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยกำลังประสบปัญหาหมอกควันที่มีผลมาจากประเทศอินโดนีเซีย ทำให้ พลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้กรมฝนหลวงและการบินเกษตรออกปฏิบัติการขึ้นบินทำฝนหลวง เพื่อให้น้ำฝนเป็นตัวจับและควบรวมกับควันฝุ่นละออง ช่วยทำให้อนุภาคฝุ่นละอองมีน้ำหนักมากไม่สามารถลอยตัวฟุ้งอยู่ในอากาศ และตกลงสู่พื้นดินต่อไป
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ดำเนินการโดยเปิดหน่วยปฏิบัติการ 2 หน่วย ตั้งแต่ วันที่ 10 ตุลาคม 2558 ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงสงขลา โดยความร่วมมือกับกองทัพอากาศ และ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงกระบี่ โดยย้ายหน่วยมาจากจังหวัดระยองซึ่งสถานการณ์น้ำในเขื่อนเริ่มดีขึ้นตามลำดับแล้ว และล่าสุด ได้เปิดฐานบินสำหรับเติมสารฝนหลวงและเติมน้ำมันเพิ่มที่จังหวัดตรัง เพื่อให้เครื่องบินจากทั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงกระบี่ และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงสงขลา สามารถลงเติมสารและเติมน้ำมันระหว่างทางการบินปฏิบัติการ จึงทำให้สามารถย่นระยะเวลาการบินแต่สามารถเพิ่มเที่ยวบิน ชั่วโมงบินและครอบคลุมพื้นที่ได้หลายจังหวัดมากขึ้น
ผลการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ตั้งแต่ตั้งหน่วย-ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 25 ต.ค. 58) หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงกระบี่ ขึ้นบิน 7 วัน รวมจำนวน 30 เที่ยวบิน 47.15 ชม. ในพื้นที่เป้าหมาย จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง จังหวัดพังงา จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดภูเก็ต ผลการปฏิบัติการมีฝนตกระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง กระจาย รวม 42 อำเภอ ใน 7 จังหวัดเป้าหมาย ส่วนหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงสงขลา ขึ้นบิน 4 วัน รวมจำนวน 6 เที่ยวบิน 5.55 ชม. ในพื้นที่เป้าหมาย จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดพัทลุง จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส ผลการปฏิบัติการทำให้มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง เป็นบางแห่งรวม 13 อำเภอ ในจังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูล แต่อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญของการปฏิบัติการ นอกจากขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ความชื้น และความเร็วลมที่จะต้องเอื้ออำนวยการพัฒนาเมฆแล้ว หมอกควันเองก็เป็นอุปสรรคสำคัญเนื่องจากหากทัศนวิสัยไม่เอื้ออำนวยต่อการขึ้นลงของเครื่องบิน หอบังคับการบินก็จะไม่อนุญาตให้ทำการบิน
กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ยังคงให้เปิดหน่วยปฏิบัติการทั้งจังหวัดกระบี่และจังหวัดสงขลา เพื่อพร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือพี่น้องชาวภาคใต้จนกว่าสถานการณ์หมอกควันจะดีขึ้นและไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพแต่การปฏิบัติการเป็นเพียงการช่วยบรรเทาระยะสั้นเท่านั้น ขอให้พี่น้องชาวภาคใต้ดูแลสุขภาพตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัย และขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจากทางภาครัฐ ท่านอธิบดีกล่าวทิ้งท้าย