กรมฝนหลวงและการบินเกษตร สรุปผลการปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ
นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า ณ ขณะนี้ กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้ปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม 2558 เป็นต้นมา เนื่องจากประเทศไทยเข้าสู่ฤดูหนาว โดยลักษณะอากาศจะมีความชื้นต่ำกว่าเกณฑ์ในการปฏิบัติการ ฝนหลวง จึงได้นำเครื่องบินฝนหลวงทุกลำมาซ่อมบำรุง ตรวจสภาพ ตามแผนประจำปี และปรับแผนปฏิบัติการฝนหลวงเป็นหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงเคลื่อนที่เร็วตามแผนป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ในระยะที่ 1 ซึ่งเป็นการเฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศ เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงตามการร้องขอของศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง โดยมีการเตรียมความพร้อมของบุคลากรด้านการบินและอากาศ จำนวน 2 ชุด ประกอบด้วยเครื่องบินแบบ Casa จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินแบบ Cessna Caravan จำนวน 2 ลำ ประจำการอยู่ที่ สนามบินนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ พร้อมปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2558 เป็นต้นไป หากมีพื้นที่ต้องการความช่วยเหลือ และสภาพอากาศ ความชื้น และความเร็วลมที่จะต้องเอื้ออำนวยการพัฒนาเมฆแล้ว กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะทำการปฏิบัติการฝนหลวงทันที และยังคงหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสงขลา ซึ่งจังหวัดกระบี่จะปิดหน่วยในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2558 เพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ปัญหาหมอกควันจากประเทศอินโดนีเซียที่มีผลกระทบต่อพื้นที่ภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทยหากเริ่มมีปัญหาหมอกควันเกิดขึ้นอีกก็จะเร่งปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันที
สรุปผลปฏิบัติการฝนหลวงของหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง เมื่อวันที่ 1 มีนาคม – 30 ตุลาคม 2558 มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 240 วัน มีวันฝนตกจากการปฏิบัติการ ฝนหลวงคิดเป็นร้อยละ 94.0 ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 6,828 เที่ยวบิน (9,610 : 25 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 6,161.70 ตัน 892 นัด จังหวัดที่มีรายงานฝนตกรวม 74 จังหวัด ประกอบด้วย ศูนย์ฝนหลวงพิเศษ 2 ศูนย์ และศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง 5 ศูนย์ ดังนี้
ศูนย์ฝนหลวงพิเศษ
- ศูนย์ฝนหลวงพิเศษจังหวัดเชียงใหม่ (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่ 29 มิ.ย. - วันที่ 29 ส.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 58 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 304 เที่ยวบิน เที่ยวบิน (529: 00 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 400.6 ตัน
- ศูนย์ฝนหลวงพิเศษจังหวัดนครสวรรค์ (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่ 29 มิ.ย. - วันที่ 29 ส.ค. 2558)มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 58 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 514 เที่ยวบิน (750: 30 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 429.2 ตัน
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ประกอบด้วย 4 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่
1.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม - วันที่ 29 มิ.ย 2558 และ วันที่ 30 ส.ค. - 31 ต.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 144 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 527 เที่ยวบิน (901: 50 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 611.3 ตัน 500 นัด
2.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดตาก (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตากตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย.–วันที่ 31 ต.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 23 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 92 เที่ยวบิน (109: 40ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 64.4 ตัน
3.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่1 มี.ค. - วันที่ 31 ต.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 197 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 877 เที่ยวบิน (1440: 00 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 765.6 ตัน 392 นัด
4.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดแพร่ (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค. - วันที่ 14 ส.ค. 2558 ) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 13 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 46 เที่ยวบิน (53: 10 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 32.2 ตัน
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วย 5 หน่วยปฏิบัติการ ได้แก่
1.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดอุดรธานี (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่19 ส.ค.- วันที่ 31 ต.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 50 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 170 เที่ยวบิน (205 : 15 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 171.3 ตัน
2.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดขอนแก่น (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - วันที่ 18 ส.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 116 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 347 เที่ยวบิน (551 : 35 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 347.1 ตัน
3.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสกลนคร (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 10 - 27 ก.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 10 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 36 เที่ยวบิน (34 : 40 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 24.2 ตัน
4.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครราชสีมา (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - วันที่ 31 ต.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 169 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 618 เที่ยวบิน (771 : 50 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 598.8 ตัน
5.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดอุบลราชธานี (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่ 1 มิ.ย. - วันที่ 30 ก.ย. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 66 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 94 เที่ยวบิน (103 : 20 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 187.7 ตัน
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง ประกอบด้วย 3 หน่วย ได้แก่
1.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดนครสวรรค์ (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. - 15 เม.ย. 2558 และ- วันที่ 30 ส.ค.- 31 ต.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 64 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 248 เที่ยวบิน (348 : 00 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 211.7 ตัน
2.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดลพบุรี (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่16 เม.ย. - วันที่ 29 มิ.ย. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 69 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 216 เที่ยวบิน (330 : 00 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 219.1 ตัน
3.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดกาญจนบุรี (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - วันที่ 31 ต.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 165 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 712 เที่ยวบิน (784 : 50 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 497.2 ตัน
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก ประกอบด้วย 3 หน่วย ได้แก่
1.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดระยอง (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.- 29 มิ.ย. 2558 และวันที่ 15 ส.ค. – 10 ต.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 117 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 524 เที่ยวบิน (751 : 05 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 369.9 ตัน
2.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดจันทบุรี (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค. – วันที่ 31 พ.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 68 ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 322 เที่ยวบิน (362 : 22 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 227.7 ตัน
3.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสระแก้ว(เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. – วันที่ 31 ส.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 71 ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 244 เที่ยวบิน (357 : 15 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 204.4 ตัน
ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ประกอบด้วย
หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค.- 10 ก.ค. 2558 และ วันที่ 3 ส.ค. 2558 – 31 ต.ค. 2558) มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 150 ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 685 เที่ยวบิน (844 : 50 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 477.6 ตัน
หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดสงขลา (เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงตั้งแต่วันที่ 1 มี.ค.- 4 มิ.ย. 2558 มีการขึ้นปฏิบัติการฝนหลวงจำนวน 60 วัน ขึ้นปฏิบัติงานจำนวน 124 เที่ยวบิน (188 : 50 ชั่วโมงบิน) ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 162.0 ตัน
สำหรับผลการปฏิบัติการแก้ไขปัญหาหมอกควัน ตั้งแต่เปิดหน่วยในวันที่ 10 ต.ค. – 3 พ.ย. 2558 หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงกระบี่ ขึ้นบิน 10 วัน รวมจำนวน 39 เที่ยวบิน 62.15 ชม. ในพื้นที่เป้าหมาย จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดพัทลุง จังหวัดพังงา จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดภูเก็ต ผลการปฏิบัติการมีฝนตกระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง ใน 7 จังหวัดเป้าหมาย ส่วนหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงสงขลา ขึ้นบิน 6 วัน รวมจำนวน 8 เที่ยวบิน 8 ชม. ในพื้นที่เป้าหมาย จังหวัดสงขลา จังหวัดสตูล จังหวัดพัทลุง จังหวัดยะลา จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส ผลการปฏิบัติการทำให้มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลาง เป็นบางแห่ง ในจังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูล
ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการขอรับบริการฝนหลวงสามารถติดต่อได้ที่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวง ทั้ง 5 ศูนย์ และผ่านทาง website www.royalrain.go.th นอกจากนั้นท่านสามารถติดตามผลการปฏิบัติการฝนหลวงในแต่ละหน่วยได้ทาง application Fonluang+ และเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในส่วนของผลปฏิบัติการฝนหลวงประจำวัน