เมื่อวันที่ 6 ม.ค.พล.อ.ปัฐมพงศ์ ประถมภัฏ ผู้ช่วยรมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานร่วมพิธีรำลึกพระมหากรุณาธิคุณต่อโครงการพระราชดำริฝนหลวง และเปิดโครงการความร่วมมืออาร์ยกกำลัง3 เพื่อการบริหารจัดการน้ำและป่าต้นน้ำอย่างบูรณาการ เพิ่มพื้นที่ป่าต้นน้ำในโครงการเขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ระหว่างกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กรมชลประทาน และกรมป่าไม้ โดยได้ร่วมกันรำลึกแสดงความไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ยืนสงบนิ่งเป็นเวลา 89 วินาที บริเวณที่ในหลวงได้ทรงบัญชาการปฎิบัติการฝนหลวงสูตรใหม่ครั้งแรกของโลก

พล.อ.ปัฐมพงศ์ กล่าวว่า ตลอดการครองราชย์70ปี ทรงบริหารจัดการน้ำจากบนฟ้าถึงทะเล เช่นโครงการฝนหลวง โครงการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำ คนไทยทุกคนมีหน้าที่เดินตามรอยพ่อ รัฐบาลนำศาสตร์พระราชามาเป็นนโยบายหลัก ซึ่งการทำฝนหลวงช่วยภัยแล้ง สร้างความชุ่มชื้นและเติมน้ำต้นทุนเขื่อนที่มีปริมาณน้ำน้อยซึ่งเขื่อนแก่งกระจาน มีปริมาณน้ำ 51 % ซี่งมีแหล่งท่องเที่ยว หัวหิน ปราณบุรี ต้องใช้น้ำจากที่นี่ได้เริ่มปฎิบัติการทำฝนหลวงเพื่อแก้ไขการขาดแคลนน้ำช่วงฤดูแล้งและงดทำนาปรัง

นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงฯ กล่าวว่า โครงการโปรยเมล็ดพันธุ์พืช ในพื้นที่ป่าต้นน้ำ 1.3 หมื่นไร่ จำนวน 8.9 เมล็ด ซึ่งมีเมล็ดพันธุ์มะค่าโม่ง ยางนา ประดู่ มะขามป้อม มะกอกป่า โดยมีเป้าหมายช่วยพื้นที่รับน้ำ 2.1 พันตารางกิโลเมตร โดยนำขึ้นเครื่องบินทำฝนหลวงโปรยเมล็ดพันธุ์เพื่อทำให้ได้ป่าเร็วขึ้นซึ่งปีหน้าจะมีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมส่งเสริมการเกษตร กรมพัฒนาที่ดิน เข้ามาร่วมด้วย จากปีที่แล้วเริ่มโครงการอาร์สแควส์ ได้เริ่มจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งได้น้ำเข้าเขื่อน 168 ล้านลบ.ม. และเขื่อนแก่งกระจาน ฝนหลวงเติมน้ำได้ 93 ล้านลบ.ม. ทั้งนี้เริ่มต้นทำโครงการนี้เน้นความสำคัญเติมน้ำในเขื่อนอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ที่มา : http://www.dailynews.co.th/politics/547130