ด้วยพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ของพวกเรา จึงทรงอนุญาต และเลือกเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งมีสภาพภูมิประเทศ สภาพลุ่มน้ำ และภูมิอากาศ คล้ายสภาพลุ่มน้ำในสิงคโปร์ เป็นที่สาธิตในการทำฝนครั้งนั้น
และที่สำคัญพระองค์ทรงอำนวยการสาธิตฝนเทียมสูตรใหม่ครั้งแรกของโลกด้วยพระองค์เอง ให้นักวิทยาศาสตร์ชาวสิงคโปร์ดู
หลังจากการขึ้นบินปฏิบัติการแล้วประมาณ 5 ชั่วโมง ราวกับมีปาฏิหาริย์ ฝนได้ตกลงตามเป้าหมายอย่างแม่นยำสร้างความอัศจรรย์ใจ ให้แก่นักวิทยาศาสตร์ชาวสิงคโปร์ และพสกนิกรที่มาคอยเฝ้ารับเสด็จในครั้งนั้นเป็นอย่างยิ่ง
ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ทรงพระเจริญ ...ดังกังวานก้องไกลไปทั่วทุกสารทิศ
ต่อมาพระองค์ท่านให้เรียกว่าฝนหลวง เพราะเป็นฝนจริง ไม่มีอันตราย สามารถใช้อุปโภค บริโภค ได้เช่นเดียวกับฝนธรรมชาติ
การทำฝนหลวงนั้นถือว่าเป็นวิทยาศาสตร์ขั้นสูง จึงไม่สามารถเรียนรู้ แค่เพียงทฤษฎี แล้วจะปฏิบัติได้ แต่ยังมีความจำเป็น ที่จะต้องฝึกปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความชำนาญ ที่จะเอาชนะธรรมชาติในเรื่องสภาพอากาศ ที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
หากประเทศใด ต้องการที่จะน้อมนำ เทคนิคการทำฝนฉบับของพระองค์ท่าน ไปประยุกต์ใช้ยังประเทศตน จีงจำเป็นต้องเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ จากผู้เขี่ยวชาญเสียก่อน
ดั่งพระธรรมอันเป็นมรดกอันยิ่งใหญ่ ในการดับทุกข์ที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ และมอบไว้ให้แก่ชาวโลก ก็ต้องมี ครูบาอาจารย์ หรือพระสงฆ์ คอยชี้นำไม่ให้คาดเคลื่อนในการปฏิบัติ
ทราบกันอย่างนี้แล้ว เทคนิคการทำฝนหลวง แบบฉบับบของพระองค์ท่าน ถือเป็นมรดกโลกที่สำคัญ ที่เราจะต้องร่วมกัน สืบสาน รักษา ต่อยอด ตราบจนชั่วนิรันดร์ ให้สมกับน้ำพระราชหฤทัยจากเทวดาที่เคยมาเดินดินกว่า 80 ปี พระองค์นั้น ที่หลั่งไหลมาสู่ พี่น้องปวงชนชาวไทย และชาวโลก ที่มิเคยเหือดหายไปจากแผ่นดิน...
#อยากรู้ให้จริง_ยิ่งต้องปฏิบัติ
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
#โควิด19พวกเราต้องรอด
เขียนโดย ฟ้าโปรย
![](/Images/NEWS%20IT/2563/0463/9/NewFolder/43.jpg)
![](/Images/NEWS%20IT/2563/0463/9/NewFolder/44.jpg)
![](/Images/NEWS%20IT/2563/0463/9/NewFolder/46.jpg)