หมอกจางจางและควัน คล้ายกันจนบางที ไม่อาจรู้ อยากจะถามดูว่าเธอเป็นอย่างหมอกหรือควัน

หมอก: ฉันเป็นละอองน้ำเล็ก ๆ ที่เกิดจากการกลั่นตัวของไอน้ำ ในบรรยากาศ ใกล้ผิวโลก ฉันมักทำให้คน เยือกเย็น ชื่นใจ

ควัน: ฉันเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ไม่ว่าจะจากป่า จากพื้นที่การเกษตร จากการเผาขยะกลางแจ้ง จากรถยนต์ จากโรงงานอุตสาหกรรม แต่ในเมืองใหญ่ๆยังจะมีฝุ่นจากการก่อสร้างเพิ่มเติมเข้ามาอีกนะฉันจะบอกให้ พอรวมทั้งฝุ่นและควันผสมโรงกัน ฉันเลยกลายเป็น หมอกควัน ฉันเป็นปิศาจร้ายที่โหดเหี้ยม เลือดเย็น มักทำให้คนเสียน้ำตา ยิ่งคนอ่อนแอฉันยิ่งชอบ เพราะจัดการง่ายดี ก็พวกเด็กๆ ผู้หญิงท้อง คุณลุงคุณป้า และพวกคนป่วยโรคทางเดินหายใจไงเล่า

ฝุ่น: ฉันมีขนาดที่แตกต่างกัน ฉันยิ่งตัวเล็กจะยิ่งร้ายกาจนะ องค์การอนามัยโลกกลัวฉันมาก เลยกำหนดมาตรฐานการตรวจวัดที่ขนาด 10 ไมครอน และ 2.5 ไมครอน แล้ว 2.5 ไมครอนเนี่ยมันเล็กขนาดไหน ลองเทียบกับขนาดของเส้นผมแล้วกัน ฉันเล็กกว่าเส้นผมของพวกคุณถึง 20-30 เท่าเลยนะ บางคนเลยเรียกฉันว่าฝุ่นจิ๋ว ฉันร้ายถึงขนาดทะลุทะลวงเข้าไปในเยื่อปอดได้เลย เข้าไปในกระแสเลือด และยังสามารถส่งผลกระทบไปยังสมองของพวกมนุษย์ได้เลย ยิ่งเด็กๆถ้าสูดดมเข้าไปมากๆ จะทำให้ปอดจะเจริญเติบโตไม่เต็มที่ 

ตึกสูง: ฟังฉันบ้างสิ รู้มั้ยในเมืองใหญ่ๆไม่ได้มีเฉพาะแต่ไอ้ฝุ่นจิ๋วนะ มันยังมีก๊าซพิษอีกหลายอย่าง ที่มาจากควันของรถยนต์ จากโรงงานอุตสาหกรรม และจากการเผากลางแจ้งนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็น คาร์บอนมอนอกไซด์ (CO), ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (SO2), โอโซน (O3), ไนโตรเจนไดออกไซด์ (NO2) รวมทั้งยังมีโลหะหนักปนเปื้อนอยู่ในอากาศที่พวกคุณหายใจอีกด้วย มันรวมกับไอ้ฝุ่นพวกนั้นมากๆเข้า มันยังมาบดบังความงามสง่า ของฉันด้วย มันร้ายกาจจริงๆนะต้องระวังพวกมันให้ดี

แล้วพวกเราจะรู้ได้อย่างว่า เมื่อไหร่เจ้าปิศาจร้ายภัยเงียบพวกนี้ จะออกมาอาละวาดล่ะ แล้วจะต้องป้องกันอย่างไร

ปิศาจร้ายพวกนี้มันออกมาอาละวาดทุกวันโดยล่องลอยในอากาศแบบสัมภเวสี แต่มันจะเก่งกาจในช่วงฤดูแล้งหรือฤดูหนาวนั่นเอง เพราะความกดอากาศสูงหรือลมหนาว จากประเทศจีนจะแผ่ปกคลุมมายังบ้านเรา ทำให้พวกมันลอยได้ไม่สูงนัก เพราะในช่วงนั้นจะมีชั้นอากาศเย็นที่มันหนักกดทับเอาไว้ หรือที่พวกเราเคยได้ยินคำว่าความกดอากาศสูงนั่นเอง ยิ่งลมนิ่งๆด้วยแล้ว ไม่มีการพัดถ่ายเทด้วยแล้ว ก็จะเหมือนกับเราโดนกักตัวอยู่ภายใต้ห้องรมควันดีๆนี่เอง

คนที่จะบอกเรา เตือนเรา ว่าไอ้พวกปิศาจร้ายพวกนี้ มันจะร้ายกาจขนาดไหนในแต่ละวัน ก็คือกรมควบคุมมลพิษ ซึ่งจะทำการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัด ตามจุดต่างๆ และประกาศให้ทราบว่า ค่า PM10 และ PM2.5 แต่ละพื้นที่ มีค่ากี่ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แล้วพิจารณาค่าก๊าซพิษต่างๆด้วยรวมกัน แล้วเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก ว่าจะส่งกระทบต่อร่างกายเราหรือไม่

ปัจจุบันมีการใช้สีในการสื่อความหมาย ว่าคุณภาพอากาศบริเวณที่ตรวจวัด ดีหรือไม่ดี เพื่อให้พวกเราเข้าใจง่ายขึ้น ถ้าสีแดงจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สีส้มจะเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สีเหลืองคุณภาพอากาศปานกลาง สีเขียวคุณภาพอากาศดี สีฟ้าคุณภาพอากาศดีมาก

ฟังมาทั้งหมดแล้ว ถ้าเราไม่สูดดมเอาพวกมันเข้าไปในร่างกายเรา มันก็จะทำอะไรเราไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้าเราจะออกนอกบ้าน เราจะต้องสวมหน้ากากอนามัย ไม่ให้มันเข้าไปในร่างกายเราได้ แต่ต้องใช้หน้ากาก N95 ที่หมอใช้ในการป้องกันเชื้อโรคต่างๆเลยเชียวนะ

มันช่างน่ากลัวขนาดนี้ แล้วจะมีวิธีที่จะจัดการกับมันมั้ย หน้ากาก N95 ก็ขาดตลาดเสียด้วย

ถ้ามีท่านใดคิดออกแล้ว ช่วยคอมเมนต์บอกหน่อยนะครับ 

#ทำอย่างไร ย่อมได้รับอย่างนั้น
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
#โควิด19พวกเราต้องรอด
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"