เปลี่ยนการแสดงผล
เรื่องเล่าของเจ้า "ซูเปอร์แซนด์วิช"
25 เมษายน 2563 8,359 ครั้ง

เรื่องเล่าของเจ้า "ซูเปอร์แซนด์วิช"
.
หลังจากทานแซนด์วิชเป็นอาหารเช้าวันนี้แล้ว เลยอยากเล่าให้ทุกท่านฟังเกี่ยวกับการโจมตีเมฆด้วยเทคนิคแซนด์วิชและซุปเปอร์แซนด์วิชในตำราฝนหลวงพระราชทานกันครับ

ตามที่เคยเล่าให้ฟังมาก่อนแล้วว่า ขั้นตอนการปฏิบัติการฝนหลวงที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงคิดค้นขึ้นมานั้น มีขั้นตอนหลักๆ 3 ขั้นตอนด้วยกันคือ ก่อกวนหรือก่อเมฆ เลี้ยงให้อ้วน และโจมตี 

การโจมตีเมฆ จะมี 2 รูปแบบด้วยกัน แล้วมันต่างกันอย่างไรลองมาฟังกันครับ

การโจมตีแบบแซนด์วิช จะใช้กับกรณีเมฆอุ่น เมฆอุ่นจะเป็นเมฆที่ลอยอยู่ในระดับ 6000 - 18000 ฟุต และมีอุณหภูมิในเมฆสูงกว่า 0 องศาเซลเซียส โดยใช้เครื่องบินเมฆอุ่น 2 เครื่อง เครื่องบินเมฆอุ่นไม่ต้องเป็นชนิดปรับความดัน หรือเครื่องบินที่ไม่มีเครื่องปรับอากาศ ต้องเปิดหน้าต่างเอานั่นเอง เพราะจะบินที่เพดานบินไม่สูงมาก สามารถใช้สภาพอากาศปกติในเครื่องได้ โดยให้เครื่องหนึ่งโปรยผงโซเดียมคลอไรด์ หรือเกลือแกง ทับยอดเมฆ หรือไหล่เมฆที่ระดับไม่เกิน 10,000 ฟุต ทำด้านเหนือลม อีกเครื่องหนึ่งโปรยผง ยูเรีย ที่ระดับฐานเมฆด้านใต้ลม ให้แนวโปรยทั้งสองทำมุมเยื้องกัน 45 องศา ทำให้เม็ดน้ำในเมฆมีขนาดใหญ่ขึ้น และปริมาณมากขึ้น จนร่วงหล่นลงสู่ฐานเมฆ และตกเป็นฝนในพื้นที่เป้าหมาย

ส่วนการโจมตีแบบซุปเปอร์แซนด์วิชนั้น จะเป็นการโจมตีทั้งเมฆอุ่นและเมฆเย็นพร้อมกันทีเดียว นั่นหมายความว่าในบริเวณที่โจมตี จะต้องมีทั้งเมฆอุ่นและเมฆเย็นอยู่ด้วยกัน แล้วหน้าตาเมฆเย็นเป็นอย่างไรล่ะ

เมฆเย็นจะเป็นเมฆที่ลอยอยู่ตั้งแต่ระดับประมาณ 18,000 ฟุตขึ้นไป และมีอุณหภูมิในเมฆต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส เม็ดน้ำในเมฆเย็นจะเป็นเม็ดน้ำเย็นยิ่งยวด คือ เป็นเม็ดน้ำที่เย็นจัด แต่ยังไม่เป็นน้ำแข็ง การโจมตีเมฆเย็น จะต้องใช้ซิลเวอร์ไอโอไดด์ เพราะผลึกของซิลเวอร์ จะมีรูปร่างคล้ายผลึกน้ำแข็ง เพื่อไปหลอกให้เม็ดน้ำเย็นยิ่งยวดเหล่านั้น มาเกาะทำให้เม็ดน้ำมีขนาดใหญ่ขึ้น และหนักมากขึ้น จนตกลงมากลายเป็นฝน ซึ่งเราใช้วิธีการนี้ในการสลายลูกเห็บด้วยเช่นกัน เครื่องบินที่ใช้ ต้องเป็นเครื่องบินที่ปรับความดันได้ เพราะจะต้องบินขึ้นไปสูงกว่า 20000 ฟุต เหนือยอดเมฆ เพื่อยิงพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์เข้าไปในเมฆ ที่ระดับนั้นอากาศจะเบาบางมาก ทำให้ไม่เพียงพอต่อการหายใจ โดยกรมฝนหลวงจะมีเครื่องประเภทนี้จำนวน 3 เครื่อง เป็นเครื่องบินSuper King Air และกองทัพอากาศสนับสนุนเครื่อง Alpha jet จำนวน 2 เครื่อง สำหรับภารกิจนี้

การโจมตีแบบซุปเปอร์แซนด์วิช จึงต้องใช้เครื่องบินเมฆอุ่น 2 ลำเปรียบเสมือนขนมปัง 2 แผ่นแรก โจมตีเมฆอุ่น ที่เหมือนไส้ในขนมปัง และใช้เครื่องบินเมฆเย็นอีก 1 ลำ เปรียบเสมือนขนมปังแผ่นที่ 3 โจมตีเมฆเย็น ที่เหมือนไส้ชั้นที่ 2 ของแซนวิชนั่นเอง ขึ้นทำงานพร้อมกัน และจะต้องมีการทำงานเป็นทีมอย่างดีเพื่อความปลอดภัย

เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2563 ที่ผ่านมา หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่เชียงใหม่ ได้ติดตามสภาพอากาศแล้วพบว่า เงื่อนไขของสภาพอากาศค่อนข้างเอื้อต่อการทำฝน ทีมทำฝนเมฆอุ่นประกอบด้วย 2 หนุ่มน้อยหน้ามนได้แก่ นายนุกูล แสนหมื่นแก้ว และนายรัชชานนท์ รักชีพ จึงได้ขึ้นก่อเมฆเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะที่ทีมทำฝนเมฆเย็น ประกอบด้วยสาวสวยเมืองเหนือ หนึ่งเดียวในหน่วยเชียงใหม่ น.ส. สุมามาศ ไชยวงศ์ และหนุ่มผิวสีหมึก นายสรจักร ปลั่งดี ได้ติดตามข้อมูลจากเรดาร์ตรวจสภาพอากาศ พบกลุ่มเมฆบริเวณ อ.แม่แตง เข้าเงื่อนไขเมฆเย็น จึงได้สั่งการให้นักบินทีมกองทัพอากาศใช้เครื่องบินแอลฟ่าเจ็ท ไปยิงพลุซิลเวอร์ไอโอไดด์ใส่เมฆเย็น พร้อมกับทีมนักทำฝนเมฆอุ่นขึ้นโจมตี กลุ่มเมฆที่ได้ไปก่อเอาไว้ด้วยพร้อมกัน ในพื้นที่นั้น ทำให้มีฝนตกลงมาได้ 6 มิลลิเมตร ซึ่งถือว่าเป็นปริมาณมากในพื้นที่ภาคเหนือในช่วงฤดูแบบนี้ ที่ได้คลายทุกข์ทั้งในเรื่องหมอกควัน และภัยแล้งแก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่นั้น

ทั้งทีมเมฆอุ่นและเมฆเย็นวันนั้น ต่างร้องไชโย และยิ้มกันอย่างมีความสุขมาก ที่ปฏิบัติการได้สำเร็จตามเป้าหมาย เพราะน้อยครั้งที่จะมีโอกาสใช้เทคนิคซุปเปอร์แซนด์วิชของพระองค์ท่าน
 
นับได้ว่าเป็นทีมนักล่าเมฆรุ่นใหม่ ที่ได้สืบสานและรักษา ศาสตร์ตำราฝนหลวงพระราชทาน ในการใช้เทคนิคซุปเปอร์แซนด์วิช โจมตีทั้งเมฆอุ่น และเมฆเย็นลงมาเป็นฝนพร้อมกัน ได้อย่างอย่างน่าชื่นชม 

เทคนิคซุปเปอร์แซนด์วิชนี้เป็นเทคนิคใหม่ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ซึ่งได้มีการจดสิทธิบัตร และได้รับการถวายรางวัลในระดับโลกเพราะด้วยพระปรีชาสามารถของพระราชาผู้ยิ่งใหญ่พระองค์นี้
#ทุกเพศ_ทุกวัย_สามารถร่วมสืบสานความดี
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
#โควิด19พวกเราต้องรอด
.
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"

 

 

ภาพและวีดีโอ