เปลี่ยนการแสดงผล
ไขภาพการ์ตูนในตำราฝนหลวงพระราชทาน ตอนที่ 1
13 พฤษภาคม 2563 1,277 ครั้ง
ภาพการ์ตูนรายละเอียดขั้นตอนการปฏิบัติการฝนหลวงที่ในหลวงร.9 ทรงประดิษฐ์ด้วยคอมพิวเตอร์ ลงใน 1 หน้ากระดาษ และทรงพระราชทานให้ผู้ปฏิบัติงานยึดเป็นตำราฝนหลวงในปี2542 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นต้นแบบอินโฟกราฟิกในยุคปัจจุบันก็ว่าได้ พระองค์ทรงประดิษฐ์แบ่งออกเป็น 6 แถวใน 6 ขั้นตอนในการปฏิบัติการฝนหลวง และรายละเอียดภาพประกอบได้อิงทั้งศาสนา ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเชื่อ และปรัชญา มาดูกันครับว่าแต่ละแถวมีความหมายอย่างไรกันบ้าง
แถวแรก เริ่มจากนางมณีเมขลา พระองค์ตรัสว่าตั้งนางมณีเมขลาขึ้นมาเป็นหัวหน้าสำนักงานอุตุนิยมวิทยา แห่งเขาไกรลาส หรือ เขาพระสุเมรุ วิเทศะสันนิษฐานว่า เป็นเขาอยู่ในทะเล ซึ่งการปฏิบัติการฝนหลวงจำเป็นต้องใช้ข้อมูลอุตุนิยมวิทยา การที่พระองค์ทรงใช้นางมณีเมขลาเป็นตัวเริ่มต้นนั่นหมายความว่าในการปฏิบัติการฝนหลวงต้องเริ่มจากการพิจารณาข้อมูลอุตุนิยมวิทยานั่นเอง
ถัดมาเป็นพระอินทร์ทรงเกวียนมีโคลาก พระองค์ตรัสว่า พระอินทร์เป็นสักกะเทวราช เป็นราชาของเทวดา เชิญท่านมาอยู่ในตำรานี้ด้วย เพื่อมาช่วยในการทำฝน
ถัดไปเป็นวันที่ 21 มกราคม 2542 เป็นวันที่พระองค์ทรงประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จไปประกอบพระราชกรณียกิจที่จ.เชียงใหม่ ระหว่างเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงสังเกตเห็นกลุ่มเมฆจำนวนมากปกคลุมพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ทรงมั่นพระทัยว่าน่าจะปฏิบัติการฝนหลวงให้เกิดฝนจากกลุ่มเมฆเหล่านั้นได้ จึงมีพระราชกระแสรับสั่งให้ส่งคณะปฏิบัติการฝนหลวงพิเศษเพื่อปฏิบัติการกู้แล้งในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา และภาคเหนือตอนล่างโดยเร่งด่วน โดยตั้งฐานปฏิบัติการที่จ.นครสวรรค์ และ พิษณุโลก
ลำดับสุดท้ายของแถวบน เป็นรูปเครื่องบิน 3 ลำ ที่เป็นตัวแทนในการปฏิบัติการฝนหลวงตามตำราฝนหลวงพระราชทานตามขั้นตอนที่ 1-6 ซึ่งจำเป็นต้องมีเครื่องบินแบบไม่ปรับความดันในการทำฝนเมฆอุ่น และเครื่องบินแบบปรับความดันใช้ในการทำฝนเมฆเย็น ซึ่งจะทำงานได้ทั้งเทคนิค sandwich และ super sandwich
ในแถวล่างของแถวแรก จะเป็นภาพบรรยายการปฏิบัติการฝนหลวงขั้นตอนที่ 1 เป็นการเร่งให้เกิดเมฆ หรือก่อกวน โดยใช้เครื่องบินทำฝนเมฆอุ่น โปรยสารสูตร 1 ผงโซเดียมคลอไรด์ หรือเกลือแป้งที่ระดับประมาณ 7,000 ฟุต หลังจากตรวจสภาพอากาศแล้วพบเงื่อนไขสภาพอากาศ ฟ้าโปร่ง ไม่มีเมฆแต่ต้องมีความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศมากกว่า 60 % ให้เป็นแกนกลั่นตัว(Cloud Condensation Nuclei) หรือ CCN ความชื้นหรือไอน้ำจะถูกดูดซับไปเกาะรอบๆแกนเกลือแล้วรวมตัวกันเป็นเมฆ ในขั้นตอนนี้เมฆจะพัฒนาตัวเป็นเมฆก้อนใหญ่ขึ้น และอาจก่อยอดเมฆสูงขึ้นถึงระดับประมาณ 10,000 ฟุต
แถวที่ 2 เป็นการบรรยายการปฏิบัติการฝนหลวงขั้นที่ 2 เป็นการเร่งการเจริญเติบโตของเมฆ หรือ เลี้ยงให้อ้วน หลังจากมีเมฆที่ก่อไว้แล้วหรือเมฆที่เกิดตามธรรมชาติ ฐานเมฆอยู่ที่ระดับประมาณ 7,000 ฟุตและยอดเมฆประมาณ 10,000 ฟุต ใช้เครื่องบินทำฝนเมฆอุ่นโปรยสารสูตร 6 ผงแคลเซียมคลอไรด์ เข้าไปในกลุ่มเมฆที่ระดับ 8,000 ฟุต หรือ สูงกว่าฐานเมฆ 1,000 ฟุต เมื่อแคลเซียมคลอไรด์ทำปฏิกริยากับน้ำจะคายความร้อนออกมา รวมกับพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์ตามธรรมชาติจะเร่งหรือเสริมแรงยกตัวของมวลอากาศภายในเมฆยกตัวขึ้น เร่งกิจกรรมการกลั่นตัวของไอน้ำ และการรวมตัวกันของเม็ดน้ำภายในเมฆที่เกิดจากการชนกัน ทำให้เมฆมีความหนาแน่นมากขึ้นเพิ่มขนาดเมฆใหญ่ขึ้นและก่อยอดสูงขึ้นถึงระดับ 15,000 ฟุต ได้เร็วกว่าที่จะปล่อยให้พัฒนาตัวขึ้นเองตามธรรมชาติ ก่อนที่เมฆจะลอยเลยพื้นที่เป้าหมายที่ต้องการให้ฝนตก และเรียกเมฆลักษณะนี้ว่าเมฆอุ่น โดยจะมีอุณหภูมิในก้อนเมฆมากกว่า 0 องศาเซลเซียส ขบวนการยกตัวขึ้นและจมลงของมวลอากาศ ทำให้เกิดการกลั่นตัวของไอน้ำและการรวมตัวของเม็ดน้ำยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่องแบบปฏิกริยาลูกโซ่ จนบางครั้งทำให้เมฆเกิดการพัฒนาตัว ยอดเมฆสูงขึ้นถึงระดับกว่า 20,000 ฟุต ซึ่งจะกลายเป็นเมฆเย็น ในส่วนเมฆระดับตั้งแต่ 18,000 ฟุต ขึ้นไปและอุณหภูมิในก้อนเมฆต่ำกว่า 0 องศา และเรียกเม็ดน้ำเหล่านั้นว่าเม็ดน้ำเย็นยิ่งยวด(Super Cooled Vapour) และมีโอกาสพัฒนาตัวไปเป็นลูกเห็บได้ในกรณีที่มีแรงลมช่วยยกตัวให้สูงขึ้นอีกอย่างรวดเร็ว
แถวที่ 3 ขั้นตอนโจมตี เป็นการเร่งหรือบังคับให้เกิดฝน หลังจากที่เมฆอุ่นเจริญเติบโตขึ้นจนเริ่มแก่ตัวจัด ฐานเมฆลดระดับต่ำลงประมาณ 1,000 ฟุต และเคลื่อนตัวใกล้เข้าสู่พื้นที่เป้าหมาย โดยใช้เครื่องบินเมฆอุ่น 2 ลำ บินปฏิบัติการพร้อมกัน ลำที่1 โปรยสารสูตร1 ผงโซเดียมคลอไรด์ หรือเกลือแป้ง ที่ระดับไม่เกิน 10,000 ฟุต ทับยอดเมฆ หรือ ไหล่เมฆทางด้านเหนือลม อีกลำหนึ่งโปรยผงยูเรีย (Urea) ที่ระดับฐานเมฆใต้ลมให้แนวโปรยทั้งสองทำมุมเยื้องกัน 45 องศา เมฆจะทวีความหนาแน่นของเม็ดน้ำขนาดใหญ่ และปริมาณมากขึ้น ร่วงหล่นลงสู่ฐานเมฆทำให้ฐานเมฆหนาแน่นจนใกล้ตกเป็นใน หรือเริ่มตกเป็นฝนแต่ยังไม่ถึงพื้นดิน หรือตกถึงพื้นดินแต่ปริมาณยังน้อย และเรียกการเทคนิคโจมตีแบบนี้ว่า sandwich
จากภาพการ์ตูนทรงประดิษฐ์ใน 3 แถวแรกนั้นเป็นขั้นตอนการปฏิบัติการฝนหลวงสำหรับเมฆอุ่นใน 3 ขั้นตอนได้แก่ ก่อกวน เลี้ยงให้อ้วน โจมตี ที่พวกเราคุ้นเคยได้ยินอยู่เป็นประจำไงครับ ส่วนอีก 3 แถวถัดมา แต่ละภาพมีความหมายอย่างไร จะมาเล่าให้ฟังกันใหม่นะครับ
ถ้าใครใจร้อนลองคิดดูสิครับว่า ภาพแถวล่างสุดแต่ละภาพมีความหมายอย่างไรบ้าง ลองส่งข้อความคอมเมนต์เข้ามา แล้วพรุ่งนี้มาฟังคำเฉลยกันนะครับ...
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"

ภาพและวีดีโอ