สาวกอาหารญี่ปุ่นคงรู้จักและชื่นชอบสาหร่ายเป็นอย่างดี เพราะชาวญี่ปุ่นชอบใช้สาหร่ายมาทำอาหาร สาหร่ายมีมากกว่า 145 สายพันธุ์ทั่วโลก แต่มีสาหร่ายอยู่ 5 ประเภทที่นิยมทานกันอย่างแพร่หลาย เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายแล้ว ยังรสชาติดีอีกด้วยได้แก่ Nori, Kombu, Dulse, Wakame, Arame
สาหร่ายเป็นพืชชั้นตํ่าที่มีคลอโรฟิลล์ แต่ไม่มีส่วนที่เป็นราก ลำต้น และใบที่แท้จริง และสามารถเจริญเติบโตได้ใน ลักษณะเดียวกับพืช เนื่องจากมีเม็ดคลอโรฟิลล์ซึ่งทำให้สามารถสังเคราะห์แสงได้ และจะเจริญเติบโตได้ดีในสถานที่ที่มีแสงแดดจัด ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ในนํ้าสูง แร่ธาตุอาหารพอเพียง ประสิทธิภาพในการสังเคราะห์แสงของสาหร่ายสูงมากเมื่อเทียบกับพืชทั่วไป ด้วยเหตุนี้จึงทำให้สาหร่ายเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว บางครั้งเกิดการเติบโตอย่างรวดเร็วมากจนเป็นปรากฎการณ์ที่เรียกว่าสาหร่ายบลูม (Algae bloom)
ในฤดูแล้งปี2560 เกิดปราฏการณ์สาหร่ายบลูมขึ้นในบริเวณลำน้ำโดมใหญ่ ซึ่งเกิดจาก สาหร่ายได้รับอาหารจากการทิ้งน้ำซักล้างจากชุมชน น้ำจากสารเคมีที่ใช้ทำเกษตรกรรม และน้ำเสียจากบ่อบำบัด ประกอบกับมีการปิดเขื่อนลำโดมใหญ่ เนื่องจากมีปริมาณน้ำน้อย ทำให้น้ำนิ่งไม่ไหล จึงทำให้เกิดสาหร่ายบลูมเป็นแพเต็มลำน้ำ
จากผลตรวจวิเคราะห์น้ำ ไม่พบมีสารโลหะหนัก จึงไม่เป็นอันตรายกับคนที่สัมผัส แต่จะรู้สึกคัน เพราะน้ำมีความเป็นกรดสูงจากการสังเคราะห์แสงของสาหร่าย สำหรับแนวทางการแก้ปัญหาจึงต้องมีการปล่อยน้ำมาชะล้างถ่ายเท เพื่อใช้ปรับสภาพน้ำในลำน้ำให้ดีขึ้น แต่ปริมาณน้ำในเขื่อนลำโดมใหญ่มีปริมาณน้ำน้อยมากในเวลานั้น
สำนักชลประทานที่ 7 จ.อุบลราชธานี จึงได้ประสานกรมฝนหลวงให้ช่วยบินปฏิบัติการเพื่อช่วยเติมน้ำให้กับเขื่อนลำโดมใหญ่ และลุ่มรับน้ำลำโดมใหญ่
ทีมล่าเมฆอีสานไม่นิ่งนอนใจในการที่จะช่วยเหลือ จึงได้ใช้หน่วยปฏิบัติการที่อุบลราชธานีขึ้นบินปฏิบัติการเพื่อช่วยเหลือโดยเร่งด่วน นำโดยแม่ทัพหญิงสาวสวยลูกหลานชาวอีสานโดยกำเนิด น.ส.ชุติมา บุษบง เป็นผู้วางแผนจัดการล่าเมฆคราวนี้ ได้ขึ้นบินปฏิบัติการไป 3 วัน ระหว่างวันที่ 23-25 เมษายน 2560 โดยมีกัปตัน ร.อ.อดิศักดิ์ เผด็จพาล และนายอิสสระ ชูอิสสระ ขับเครื่องบินพาทีมล่าเมฆของเราไปทำฝนให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนลำโดมใหญ่ จนสามารถคลี่คลายสถานการณ์สาหร่ายบลูมได้ในระดับหนึ่ง
ในปี 2561 ทีมล่าเมฆอีสานได้ดำเนินช่วยเหลือในการเติมน้ำให้พื้นที่ลุ่มรับน้ำลำโดมใหญ่อีกครั้งหนึ่ง จำนวน 2 วัน โดย น.ส.เบญจวรรณ บุญสอง น.ส.วณิชชา พันธ์ศรี และนายวิทยา อัปมาโถ และทีมนักบินได้แก่ ร.อ.นพพร พันธุ์เพ็งน.ท.เทิดศักดิ์ แก่นแก้ว นายสุเชษฐ พัฒนปัญจกุลและนายเทพศิรินทร์ บำรุงผล ร่วมกันทำฝนจนสามารถคลี่คลายสถานการณ์สาหร่ายบลูมได้อีกครั้งหนึ่ง
โชคดีในปี 2562 และ 2563 ไม่ได้ประสบปัญหาเรื่องสาหร่ายบลูม แต่เราประสบปัญหาเรื่องภัยแล้งรุนแรง และปริมาณน้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำมีปริมาณน้ำน้อยมาก พวกเราชาวฝนหลวงได้เร่งให้การช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั้งในพื้นที่การเกษตรโดยตรง และเติมน้ำให้เขื่อนอย่างเต็มที่ เพราะพวกเราชาวฝนหลวงได้ตั้งปณิธานในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนโดยการสืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการพระราชดำริฝนหลวงสืบไป
