เปลี่ยนการแสดงผล
กว่าจะมาเป็นนักบินล่าเมฆ
20 พฤษภาคม 2563 2,219 ครั้ง

#กว่าจะมาเป็นนักบินล่าเมฆ
  ในวัยเด็กทุกคนต่างมีความฝัน ความฝันของเด็กผู้หญิงส่วนใหญ่จะอยากเป็นครู เป็นหมอ เป็นพยาบาล ส่วนความฝันของเด็กผู้ชายส่วนใหญ่จะอยากเป็นทหาร ตำรวจ หรือนักบิน ความสนใจในของเล่นก็จะต่างกันระหว่างเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง เด็กผู้ชายมักจะเล่นรถ เครื่องบิน หุ่นยนต์ ยิงปืน หรือแต่งกายแนวพวกอุลตร้าแมน แบทแมน ซุปเปอร์แมน ไอ้มดแดง เล่นต่อสู้กันไปตามประสา บางทีคิดว่าตัวเองเก่งแบบพวกยอดมนุษย์กระโดดจากที่สูงลงมาขาแข้งหักก็มี ส่วนเด็กผู้หญิงมักจะเล่นตุ๊กตา ชุดเครื่องครัว เล่นเป็นแม่บ้านทำอาหาร แต่งกายเป็นเจ้าหญิงบ้าง เดินแบบบ้าง เผลอๆ แอบเอาลิปสติกแม่มาละเลงปากจนลิปสติกหักก็มี แถมยังขโมยรองเท้าส้นสูงของแม่มาใส่เดินอีกต่างหาก ดีที่ไม่ล้มขาหักถ้ารองเท้าของคุณแม่ที่ทั้งส้นสูงและส้นแหลม เด็กบางคนโตขึ้นก็ทำความฝันของตนเองให้เป็นจริง บางคนก็จะเปลี่ยนความฝันเดิมๆไปเพราะพอโตขึ้นก็จะรู้จักตนเองมากขึ้นว่าความชอบของตนเองเป็นอย่างไร และในปัจจุบันไม่มีการแบ่งแยกเพศในเรื่องอาชีพด้วย พี่ๆเพื่อนๆในนี้ ได้สานฝันของตนเองตอนเด็กได้เป็นจริงมั้ยครับ หรือฝันอยากเป็นอะไรตอนเด็กๆเข้ามาเล่าสู่กันฟังบ้างก็ได้นะครับจะได้ร่วมสนุก ร่วมพูดคุยกัน เมื่อสักครู่ที่เราคุยกันว่าความฝันของเด็กผู้ชายส่วนใหญ่มีที่อยากเป็นนักบินด้วย และในความเป็นจริงสำหรับอาชีพนี้ก็มักจะเป็นผู้ชาย มีนักบินหญิงอยู่บ้างเล็กน้อย ในส่วนของกรมฝนหลวงมีนักบินหญิงเพียง 1 คนจากนักบินทั้งหมด 70 กว่าคน แล้วรู้มั้ยครับกว่าจะมาเป็นนักบินฝนหลวงก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ 

  วันนี้มาพูดคุยกันครับว่า ถ้าอยากจะเป็นนักบินฝนหลวงจะต้องเตรียมตัวกันอย่างไรบ้าง ขั้นแรกต้องมีความรู้ความชำนาญพื้นฐานด้านการบินครับ โดยจบหลักสูตรนักบินพาณิชย์ตรีจากโรงเรียนการบินเอกชนต่างๆที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย(CAAT)รับรอง ปกติจะมีชั่วโมงบินประมาณ 200 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายในการเรียนประมาณ 2 ล้านบาทเศษ ใช้เวลาเรียนประมาณ 14 เดือน โดยต้องจบปริญญาตรีเป็นพื้นฐานจึงจะเข้าเรียนการบินได้  และต้องผ่านการตรวจเวชศาสตร์จากสถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศ หรือเป็นนักบินในส่วนของภาคราชการที่จบจากโรงเรียนการบินราชการ มาขึ้นทะเบียนกับกรมฝนหลวง เมื่อมีตำแหน่งว่างจะเชิญมาทดสอบความรู้ ความสามารถ ทั้งภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ และสัมภาษณ์ เพื่อประเมินความถนัด (aptitude) ซึ่งประกอบด้วย ทัศนคติ(attitude) ด้านความปลอดภัยในการบิน และ การทำงานเป็นทีม ความรู้(knowledge)ต่างๆทางการบิน ทักษะ(skill) ต่างๆโดยเฉพาะพื้นฐานการควบคุมเครื่อง และเรื่องที่เกี่ยวข้องทางการบินทั้งหมด และประสบการณ์(experience)ที่เกี่ยวข้องกับการบินทั้งหมด หากผ่านการทดสอบภาคทฤษฎี จะได้รับการเข้าสอบภาคปฏิบัติจากเครื่องบินของกรมฝนหลวง โดยการทดสอบภาคปฏิบัติจะพิจารณาทักษะในด้านต่างๆได้แก่ การเตรียมตัวก่อนการขึ้นบิน การวางแผนการบิน การปฏิบัติตามขั้นตอน การใช้อุปกรณ์ต่างๆ การตัดสินใจ การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ตลอดจนการตอบสนองต่อการฟังคำสั่งแต่ที่สำคัญ และอาจทำความตื่นเต้นให้กับคนที่ไม่ได้ผ่านการเรียนด้านการบินมา ขอขึ้นไปสังเกตการณ์บนเครื่องตอนสอบภาคปฏิบัติ ในช่วงการทดสอบการควบคุมเครื่องบิน และการปรับแก้การควบคุมในท่าทางการบินต่างๆ การควบคุมตามสมรรถนะของเครื่องบินที่สามารถทำได้ เช่น การบินที่ความเร็วน้อยสุด การบินแล้วทำให้เครื่องบินหมดแรงยก(stall) จนเครื่องตกลง แล้วแก้ไขให้กลับคืนมา การเลี้ยวปีกลึกที่มีมุมเอียงมาก 45-55 องศา เรียกว่าเหมือนรถยนต์เข้าโค้งด้วยความเร็วเลยทีเดียวแล้วเป็นเครื่องบินจะเร็วขนาดไหนลองนึกภาพตามดูนะครับ ทั้งการปรับแก้กรณีเครื่องบินหมดแรงยกจนเครื่องตกลง กับการเลี้ยวปีกลึกที่มีมุมเอียงมากๆพูดง่ายๆเหมือนบรรยากาศการนั่งเครื่องเล่นในสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ทำนองนั้นเลยทีเดียวครับ ประเภทเรือไวกิ้ง รถไฟเหาะ อะไรทำนองนั้นครับ แบบว่ามีเสียวท้องน้อย ยิ่งคนที่กลัวความสูงอาจจะมีอาการเป้ากางเกงแฉะ หรือเตรียมถุงไปใส่อาหารที่กินก่อนขึ้นไปนำกลับลงมาก็ได้นะครับ รวมทั้งอาจนึกในใจว่าไม่น่าขึ้นมาเลย ถ้ามันปรับแก้ไม่ได้มีหวังคงต้องโหม่งโลกไปกับมันด้วยมั้ย และอาจจะบอกกับตนเองว่าขอแค่มีประสบการณ์ครั้งเดียวในชีวิตพอ หลังจากสอบผ่านภาคปฏิบัติมาแล้วก็เข้าสู่รอบสัมภาษณ์ จะใช้เวลาในการสัมภาษณ์พอสมควรเรียกว่า เขี้ยวก็ว่าได้ เพราะต้องการพิจารณา บุคลิกภาพ ทัศนคติ และสร้างความเข้าใจต่อผู้สมัครให้ทราบว่า การเป็นนักบินฝนหลวงต้องออกทำงานตามหน่วยต่างๆในต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่องอย่างน้อยประมาณ 8 เดือนเต็ม โดยไม่มีวันหยุด เครื่องบินของเราก็ไม่มีเครื่องปรับอากาศเพราะต้องบินทำฝน ชุดก็เป็นชุดหมีสีเขียวขี้ม้าผ้ากันไฟ ไม่ได้ใส่สูทผูกเนคไท เหมือนกัปตันตามสายการบินต่างๆ เรียกว่าคนที่จะมาเป็นนักบินฝนหลวงต้องทำใจ สมัครใจ และเสียสละความสุขส่วนตนในระดับหนึ่งเลยครับเพราะจะมาคิดว่าจะสบายเหมือนนักบินแอร์ไลน์แต่งตัวหล่อๆ ห้องเครื่องก็มีเครื่องอากาศเย็นสบาย พนักงานต้อนรับบนเครื่องก็สาวๆสวยๆมากมาย

  ฟังดูแล้วใครอยากเป็นนักบินฝนหลวง ก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมทั้งความรู้ ความสามารถและเตรียมทั้งกายและใจด้วยที่จะต้องทำงานทนแดดทนความร้อนในต่างจังหวัดเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนครับ แต่จะได้ความสุขอิ่มเอมใจที่หาซื้อไม่ได้กลับมาจากการทำฝนตกให้พี่น้องประชาชนนะครับ
#อาชีพเดียวกันแต่เป้าหมายอาจต่างกัน
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
#โควิด19พวกเราต้องรอด
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"

 


ภาพและวีดีโอ