เปลี่ยนการแสดงผล
#เล่าเรื่องผ่านภาพประกวดปี 2560
21 มิถุนายน 2563 312 ครั้ง

#เล่าเรื่องผ่านภาพประกวดปี 2560
  ยามเมื่อเห็นเขื่อน เห็นฟ้า เห็นเมฆ และเห็นป่าไม้ จะน้อมรำลึกถึงพ่อหลวงรัชกาลที่ 9  ของปวงชนชาวไทย ซึ่งมีพระนามว่าพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หลังจากมองภาพถ่ายรูปนี้อย่างละเอียดเห็นฝนกำลังตกและอักษรภาษาอังกฤษตัวโตๆสีขาวๆในป่าบนเขาไกลๆนั้นมีคำว่า "BHUMIBOL DAM" ทำให้ยิ่งอยากค้นหาว่า ณ ดินแดนแห่งนี้มีความเป็นมาอย่างไร
จากการสืบค้นข้อมูลต่างๆ พบว่าหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง รัฐบาลไทยมีนโยบายในการเร่งฟื้นฟูและพัฒนาประเทศ  ซึ่งปัจจัยที่สำคัญขั้นพื้นฐานคือ ไฟฟ้า จึงได้มีนโยบายในการสร้างเขื่อนเอนกประสงค์ขึ้นครั้งแรก เพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้า และการชลประทาน 
เขื่อนที่ว่านั้นก็คือเขื่อนภูมิพลหรือเขื่อนยันฮี เป็นเขื่อนที่สร้างจากคอนกรีตทรงโค้งซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย และเป็นเขื่อนคอนกรีตทรงโค้งที่ใหญ่และสูงที่สุดในเอเซียอาคเนย์ และเป็นอันดับ 8 ของโลก สร้างปิดกั้น ลำน้ำปิง ที่ บริเวณเขาแก้ว อำเภอสามเงา จังหวัดตาก ทำให้เป็นอ่างเก็บน้ำสามารถรองรับน้ำได้สูงสุด 13,462 ล้านลูกบาศก์เมตร ดำเนินการก่อสร้างโดยกรมชลประทาน เริ่มดำเนินการก่อสร้างปี 2500 ในยุคที่ ม.ล.ชูชาติ กำภู เป็นอธิบดีกรมชลประทาน และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้เสด็จพระราชดำเนินทรงวางศิลาฤกษ์การก่อสร้าง เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2504 การก่อสร้างแล้วเสร็จและทำรัฐพิธีเปิดเขื่อนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2507 ซึ่งเป็นวันเดียวกับวันประดิษฐานอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยที่เชิงดอยสุเทพ ครูบาศรีวิชัย เป็นนักบุญแห่งล้านนาที่ผู้คนเคารพเลื่อมใสมากมาย ที่เคยมีวาจาสิทธิ์กับหลวงศรีประกาศหลังจากพ้นข้อกล่าวที่ถูกทางคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่กล่าวร้าย ก่อนที่ครูบาศรีวิชัยจะกลับสู่เมืองลำพูนจนกระทั่งวาระสุดท้ายของท่านว่า "ตราบแม่ปิงไม่ไหลย้อนคืนสู่เชียงใหม่ฉันใด ตัวเราก็จักไม่กลับไปเหยียบเชียงใหม่อีกฉันนั้น" แต่สิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นเมื่อเขื่อนภูมิพลได้ถูกสร้างกั้นแม่น้ำปิงทำให้ระดับน้ำในเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นในช่วงที่มีปริมาณน้ำเก็บกักมากขึ้น จึงทำให้น้ำในแม่น้ำปิงได้ไหลเอ่อท้นย้อนกลับไปทางเชียงใหม่ซึ่งเป็นต้นน้ำนั่นเอง และเป็นวันที่ท่านครูบาศรีวิชัยได้กลับเหยียบเชียงใหม่อีกครั้งที่เชิงดอยสุเทพ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์กับเหตุการณ์นี้ที่ได้เกิดขึ้นตรงกับอมตะวาจาของท่านครูบาศรีวิชัยเป็นอย่างยิ่ง การก่อสร้างเขื่อนภูมิพลจำเป็นต้องใช้ปูนซีเมนต์จำนวนมากอย่างต่อเนื่อง เพื่อประหยัดงบประมาณ รัฐบาลจึงมอบหมายให้ม.ล.ชูชาติ กำภู จัดตั้งโรงงานปูนซีเมนต์ขึ้น จึงกำเนิดบริษัท ชลประทานซีเมนต์ จำกัด ตั้งแต่ยุคนั้นเป็นต้นมา จนในปี2546 บริษัทชลประทานซีเมนต์ จำกัดได้ผนวกรวมกับบริษัทปูนซีเมนต์เอเชีย จำกัด(มหาชน) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งทางธุรกิจ และมีโรงงานผลิตอยู่ที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ และ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ในปัจจุบัน 
ตั้งแต่นั้นมาการชลประทานของประเทศไทยได้มีวิวัฒนาการเรื่อยมา ซึ่งม.ล.ชูชาติ กำภู เป็นผู้วางรากฐานด้านการชลประทานของไทย และสร้างคุณูปการด้านการชลประทานอย่างมากมายจนได้รับสมญานามว่า "บิดาแห่งชลกร"
  เขื่อนภูมิพลถือเป็น 1 ใน 4 เขื่อนหลักที่สำคัญต่อการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ทั้งการช่วยบรรเทาปัญหาการเกิดอุทกภัย ภัยแล้ง การช่วยเหลือด้านการอุปโภคบริโภค การอุตสาหกรรม และการรักษาระบบนิเวศน์ อย่างไรก็ตามในบางปีปริมาณน้ำในเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้อยไม่เพียงพอต่อการใช้งาน กรมชลประทานจึงมีแผนการผันน้ำจากแม่น้ำยวมมาเติมเขื่อนภูมิพล อย่างไรก็ตามกรมชลประทานและการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นผู้ดูแลเขื่อนภูมิพลแห่งนี้ ได้มีการประสานขอให้กรมฝนหลวงฯปฏิบัติการเติมน้ำให้กับเขื่อนภูมิพลเกือบทุกปี
  ในขณะที่พวกเราทีมนักล่าเมฆทุกคนมีความสุขใจเป็นอย่างยิ่งในการเดินตามรอยพ่อหลวงในการทำฝนของพ่อเพื่อเติมน้ำให้เขื่อนของพ่อในการช่วยเหลือพี่น้องชาวไทยทุกคนได้มีกระแสไฟฟ้าได้ใช้งาน ป่าไม้มีความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์ และพี่น้องเกษตรกรในลุ่มเจ้าพระยามีน้ำเพียงพอต่อการเพาะปลูก ซึ่งจะหาประเทศใดในโลกที่จะมีองค์พระมหากษัตริย์ที่ทรงห่วงใยคอยบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้กับประชาชนได้เสมือนองค์พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยไม่ได้อีกแล้ว...
...ภาพถ่ายทำให้น้อมรำลึกถึงพ่อ...
ขอขอบคุณ นายสุกฤษฎิ์ หิรัญสารพงศ์ ผู้ชนะเลิศโครงการประกวดภาพถ่ายปี 2560 
ชื่อผลงาน: ฝนเทียมในเขื่อนของพ่อ 
สถานที่: เขื่อนภูมิพล จ.ตาก
แนวคิด: "โครงการฝนหลวงจากน้ำพระทัยของพ่อหลวงไทย ทำให้พสกนิกรชาวไทย มีน้ำกิน มีน้ำใช้ ตลอดปี"
#ภัยแก้ได้ด้วยมนุษย์แต่บางทีมนุษย์ก็นำภัยเข้าตัว
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"

ภาพและวีดีโอ