เปลี่ยนการแสดงผล
#ใครไม่รู้ฉันต้องรู้
7 สิงหาคม 2563 205 ครั้ง

#ใครไม่รู้ฉันต้องรู้

รายการโก้ลด์เด้นซองเวทีเพลงเพราะในยุคนี้โด่งดังทั้งซีซั่น 1 และ 2 เพราะนักร้องที่ผ่านรอบออดิชั่นเข้ามาแต่ละคนนั้นล้วนเสียงดีๆกันทั้งสิ้น...

แถมรายการนี้มีโปรดิวเซอร์ฝีมือขั้นเทพของเมืองไทยอย่างอาจารย์หนึ่ง ที่ทำดนตรีใหม่ให้เหมาะกับยุคสมัยมากขึ้นกว่ายุคสุนทราภรณ์ โดนใจคนวัยรุ่น หนุ่มสาวได้

คอมเมนเตเตอร์มีกูรูด้านเพลงตัวแม่อย่างแม่เม้าส์ ตัวพ่ออย่างพี่โจ้ และนักร้องหนุ่มรูปหล่อเสียงดี ดีกรีพระเอกอย่างพี่กันต์ ปิดท้ายด้วยดาราเจ้าบทบาทโด่งดังจากละครเรื่องดาวพระศุกร์อย่างพี่กบ เรียกว่าแต่ละท่านล้วนเป็นกูรูด้านการร้องเพลงและการแสดงแถวหน้าของบ้านเรา

ท่านที่เคยดูรายการนี้บางครั้งรู้สึกว่าการตัดสินมันขัดสายตาเรามั้ย?

บางครั้งเราว่าคนที่เราเชียร์เสียงดีกว่า ร้องเพราะกว่า แต่ทำไมตกรอบ แต่มานึกอีกทีคณะกรรมการแต่ละท่านนั้นล้วนเป็นกูรูตัวพ่อตัวแม่ซึ่งมีทั้งความชำนาญและประสบการณ์มาอย่างโชกโชนกว่าจะมาเป็นกูรูด้านนี้ได้ ไอ้เราเองสิบางทียังร้องผิดคีย์บ้าง คร่อมจังหวะบ้าง บ่งบอกถึงความรู้ความชำนาญด้านนี้น้อยมากเพราะฉะนั้นต้องยอมรับในคำตัดสิน

ขอกลับมาที่กรมฝนหลวงฯกันดีกว่า การทำงานที่จะต้องเอาชนะธรรมชาติ และมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศตลอดเวลา อีกทั้งไม่มีมหาวิทยาลัยไหนในโลกที่เปิดสอนวิชาการดัดแปรสภาพหรือการทำฝนโดยตรง มีเพียงตำราฝนหลวงที่ในหลวงรัชกาลที่9 ได้ทรงศึกษา ค้นคว้า ทดลอง ด้วยพระวิริยอุตสาหะ และทรงพระราชทานไว้ให้เป็นมรดกแด่ชาวไทยทั้งปวง

นักวิทยาศาสตร์หรือนักวิชาการ ที่จะเข้ามาเป็นทีมนักล่าเมฆนั้นพื้นฐานจบปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์ หลังจากสอบบรรจุได้แล้ว ยังต้องเข้ารับการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติด้านการดัดแปรสภาพอากาศและหลักสูตรที่เกี่ยวข้องก่อนที่จะส่งออกไปประจำศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงในภูมิภาคต่างๆ พอถึงช่วงปิดฤดูการทำฝนก็ต้องมานั่งถอดบทเรียนกันเพื่อให้องค์ความรู้แตกฉานมากยิ่งขึ้น และจะได้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้นอีกด้วย

ส่วนนักบินที่สอบบรรจุได้ก็ต้องไปฝึกบินกับครูการบินอีกไม่น้อยกว่า 20 ชั่วโมงจึงจะให้ร่วมทีมเป็นนักบินผู้ช่วยนั่งบินประกบกับนักบินหรือครูการบิน คอยพาเหล่านักล่าเมฆขึ้นไปทำศึกกับเหล่าเมฆบนท้องนภาให้ตกมาเป็นฝนช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้...

ในช่วงปิดฤดูการทำฝนในแต่ละปีก็ยังต้องมีหลักสูตรต่างๆอบรมเหล่านักบินทุกคนเพิ่มเติมเช่น หลักสูตรนิรภัยการบิน และการฝึกบินทบทวนในท่าการบินต่างๆโดยเฉพาะท่าการบินฉุกเฉิน ทั้งนี้ต้องเน้นเรื่องความปลอดภัยสูงสุดเป็นหลักเพราะทุกชีวิตของทีมนักล่าเมฆต้องฝากไว้กับพี่ๆนักบิน แต่ฝากเฉพาะช่วงทำงานนะ ช่วงเวลาอื่นพี่ๆนักบินมีคนฝากเยอะอยู่แล้ว

ชาวกรมฝนหลวงฯในสายงานสนับสนุนต่างๆที่อยู่ทัพหลังก็สำคัญไม่น้อยไปกว่าทัพหน้า ต้องทำงานเกี่ยวข้องกับระเบียบ กฎหมาย ต่างๆ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเชี่ยวชาญในกฎ ระเบียบ ที่เกี่ยวข้องกับงานที่ตนปฏิบัติมิฉะนั้นถ้าพลาดท่าเสียทีก็อาจจะก้าวเข้าคุกตารางได้

ในขณะที่ชาวฝนหลวงฯทุกคนยังต้องพร้อมใจกันนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับงานที่ตนปฏิบัติเพื่อก้าวไปสู่การเป็นฝนหลวง 4.0 ตามนโยบายของรัฐบาล

จะเห็นว่าวัฒนธรรมองค์กรของเราตัวที่ 2 คือ E = Expertise "มุ่งสู่ความเป็นเลิศ" เป็นการสนใจใฝ่ศึกษาหาความรู้ มุ่งมั่นพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง สามารถประยุกต์ใช้ความรู้เชิงวิชาการและเทคโนโลยีต่างๆเข้ากับการปฏิบัติงานให้เกิดผลสำเร็จตามเป้าหมายในการเป็นองค์กรชั้นนำในระดับโลกด้านการดัดแปรสภาพอากาศตามศาสตร์พระราชาในปี 2580 ให้ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ต้องทำให้ได้ภายใต้การมุ่งสู่ความเป็นเลิศของพวกเรา

ด้วยความโชคดีที่พวกเรามีต้นแบบในด้านการมุ่งสู่ความเป็นเลิศของพระบิดาแห่งฝนหลวงที่ทรงใช้ระยะเวลาในการศึกษา ค้นคว้า ทดลองโครงการพระราชดำริฝนหลวงถึง 14 ปีและยังทรงศึกษาพัฒนามาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

เขียนโดย "หลงเมฆ"

#พื้นฐานดีการต่อยอดย่อมไปได้ดี
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด ดูน้อยลง



 

 
ภาพและวีดีโอ