เปลี่ยนการแสดงผล
#เจ้ากรรมนายเวร
9 กันยายน 2563 2,725 ครั้ง
#เจ้ากรรมนายเวร
ในชีวิตประจำวันเรามักจะได้ยินเสมอๆกับคำว่า "เจ้ากรรมนายเวร" แล้วทุกท่านคิดว่าการที่เชื่อว่าเจ้ากรรมนายเวรมีจริงจะเป็นเรื่องงมงายหรือไม่?
ตอบได้เลยว่าไม่งมงายอย่างแน่นอน ยิ่งในทางพุทธศาสนาแล้วเราจะเชื่อในเรื่อง"กฎแห่งกรรม" ซึ่งส่งผลต่อเจ้ากรรมนายเวรหรือทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่วนั่นเอง...
มาดูกันว่า"กฎแห่งกรรม"สามารถพิสูจน์ด้ว
ยวิทยาศาสตร์ได้อย่างไร?
ตามหลักกลศาสตร์ของนิวตัน ในกฎข้อสามของการเคลื่อนที่ของนิวตันกล่าวว่า "แรงใดๆย่อมเกิดเป็นคู่เสมอ เมื่อวัตถุที่หนึ่งออกแรงกระทำกับวัตถุที่สอง วัตถุที่สองย่อมออกแรงกระทำกับวัตถุที่หนึ่งในขนาดเท่ากันแต่ทิศทางตรงกันข้ามเสมอ" หรืออาจกล่าวได้ว่า "ทุกแรงกิริยา (action) ย่อมมีแรงปฏิกิริยา (reaction) ซึ่งมีขนาดเท่ากัน แต่มีทิศตรงข้ามกันเสมอ"
ฟังอย่างนี้แล้วค่อยสบายใจขึ้นมาหน่อยใช่มั้ยล่ะ...
เจ้ากรรมนายเวรไม่ใช่จะน่ากลัวเสมอไปอย่างที่คิดเพราะเจ้ากรรมนายเวรของเราขึ้นอยู่กับการกระทำของเราตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ทุกคนจึงมีทั้งเจ้ากรรมนายเวรฝ่ายดีและฝ่ายไม่ดี
หากเป็นฝ่ายดี ก็จะคอยส่งเสริมให้เราเจริญก้าวหน้า อาจจะมาในรูปแบบของครอบครัว คู่ครอง หรือรูปแบบเพื่อน ถ้าเป็นครอบครัวก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่นคอยอุปถัมภ์ค้ำชูเรา ถ้าเป็นคู่ครองก็เป็นคู่ครองที่ดีคอยเกื้อหนุนกัน เรียกว่าคู่แท้ ถ้าเป็นเพื่อนก็เป็นกัลยาณมิตร เป็นมิตรที่ดีที่คอยแนะนำส่งเสริมให้เราเจริญก้าวหน้าในชีวิต
ส่วนฝ่ายไม่ดี ก็จะคอยเบียดเบียนให้เดือดร้อน ทุกข์ยากลำบาก ถ้าเป็นคู่ครองก็จะเป็นคู่กัด ทะเลาะกันทุกวัน แต่ก็ไม่จากกันไปไหน เพราะว่ากรรมนำพาให้อยู่ด้วยกัน ถ้าเป็นครอบครัวก็เป็นครอบครัวที่ไม่มีความอบอุ่น มีแต่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันตลอด คอยแต่จะนำความเดือดร้อนมาให้กันและกัน จนอาจจะบ้านแตกสาแหรกขาด ลูกหลานกระจัดกระจายไปกันหมด ส่วนเพื่อนนั้นก็เหมือนกัน จะคอยอิจฉาริษยาเห็นใครดีเป็นไม่ได้ ต้องคอยเตะตัดขาอยู่เรื่อย หรือคอยใส่ร้ายป้ายสีอยู่ตลอด
แต่ก็เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตที่คนเราย่อมมีทั้งคนรักและคนเกลียดหรือมีเจ้ากรรมนายเวรทั้งฝ่ายดีและฝ่ายไม่ดีซึ่งเป็นผลมาจากการกระทำของเรานั่นเอง
แม้แต่องค์กรก็เช่นเดียวกันหากทำงานที่มีผลกระทบต่อประชาชนทำให้เกิดความเสียหาย เช่นน้ำท่วมพื้นที่ มลพิษต่อชุมชุนแล้ว ประชาชนที่ได้รับผลกระทบย่อมออกมาเรียกร้องสิทธิ์ ออกมาประท้วง ซึ่งจะเป็นโครงการที่เห็นผลกระทบเป็นรูปธรรมทั้งสิ้น เช่น โครงการเหมืองแร่ทองคำ"อัคราไมนิ่ง หรืออัครารีซอร์สเซส” ที่เป็นข่าวอยากครึกโครม แต่หากไม่เป็นรูปธรรมในเรื่องผลกระทบที่พิสูจน์ได้แล้วย่อมไม่ได้รับผลจากการประท้วง เรียกว่าได้มือเปล่ากลับบ้านไป
สำหรับการทำฝนหลวงนั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าไม่ใช่เรื่องของการเนรมิตรได้ และไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนการควบคุมน้ำโดยปล่อยน้ำออกจากเขื่อน จากแทงค์น้ำ หรือ จากก๊อกน้ำ จึงไม่สามารถที่จะบริการให้เป็นไปตามความต้องการได้อย่างใจที่คิดเหมือนแค่เพียงไปเปิดประตูระบายน้ำ เปิดก๊อกน้ำ
เพราะเหตุที่ว่าการทำฝนหลวงนั้นต้องเริ่มต้นตั้งแต่สร้างเมฆ เลี้ยงเมฆ และโจมตีเมฆให้ตกลงมาเป็นฝนภายใต้เงื่อนไขของสภาพอากาศมากมายที่เราไม่สามารถควบคุมได้สักตัวเดียว ทำให้คนที่คอยฝนแล้วยังไม่ได้ฝนก็อาจจะไม่พึงพอใจอาจจะมีปฏิกริยาไปในลักษณะเจ้ากรรมนายเวรฝ่ายไม่ดี ส่วนคนที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างพึงพอใจก็จะมีปฏิกริยาที่ดีเปรียบเสมือนเจ้ากรรมนายเวรฝ่ายดีหรือเป็นกัลยาณมิตรที่ดีต่อกัน
อย่างไรก็ตามแม้แต่ฝนธรรมชาติเองก็ยังไม่สามารถโปรยปรายได้ทั่วทุกพื้นที่ในแผ่นดินไทยได้มีฝนอย่างทั่วถึง ดังจะได้ยินกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศทุกปีว่าฝนจะทิ้งช่วงระหว่างราวๆเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม หรือจะได้ยินเสมอๆเกี่ยวกับพื้นที่แล้งซ้ำซาก พื้นที่อับฝน แต่ก็ไม่วายที่แม้แต่เทวดาก็ยังถูกด่าว่าทอว่า เทวดาลำเอียงบ้าง ฝนตกไม่ทั่วฟ้าบ้าง ฝนไม่รู้จักไปตกในที่ชาวไร่ชาวนา ชาวบ้านจะขายของก็ลำยาก แล้วอาจตามด้วยคำสบถต่างๆนานาเรียกว่าเข้าไปผูกเวรกับเทวดาเลยทีเดียว
แล้วรู้หรือไม่ว่า  ถึงแม้กรณีที่คนที่ถูกเรากระทำจะอโหสิกรรมให้หรือให้อภัยแล้วก็ตามคือไม่โกรธไม่ผูกใจเจ็บ แต่เรายังต้องได้รับใช้ผลของกรรมที่เราทำไปแล้ว ซึ่งเป็นไปตามกฎแห่งกรรมแต่ไม่ได้เวร
แต่กรณีที่ไม่ยอมอโหสิกรรมคือผูกใจเจ็บ เราจะได้ทั้งเวร ทั้งกรรม บางทีมีโอกาสก็จะหาทางเอาคืนบ้าง มีอคติต่อกันบ้าง ต่างคนต่างสร้างกรรมต่อกัน พอตายไป บางทีคนหนึ่งไปเกิดเป็นคนอีกรอบ อีกคนยังไม่ได้ไปเกิดเป็นคนแต่ไปอยู่ในภพภูมิต่างกัน จิตที่ยังมีความอาฆาตต่อกันนั้น ยังไม่ได้ให้อภัย จึงมีการตามไปแก้แค้น ตามไปเอาคืนอยู่ตลอด จึงวุ่นวาย
เจ้ากรรมนายเวรของเราทุกๆคน มีได้ทุกภพ ไม่ว่าจะเป็นพรหม เทวดา นางฟ้า สัมภเวสี อสุรกาย พญานาค สัตว์เดรัจฉาน หรือแม้แต่มนุษย์ด้วยกันเอง แล้วแต่ภพภูมิ และบ่วงกรรมที่หมุนเวียนไป ทำให้คนบางคนแค่เราเจอหน้าครั้งแรกก็รู้สึกเกลียดไม่ถูกชะตาแล้ว
ทั้งนี้เวรจะหนักหรือเบาก็อยู่ที่แรงอาฆาต แรงพยาบาท เวรเหล่านี้จะหมดได้ก็ต่อเมื่อ ฝ่ายหนึ่งขออโหสิกรรม และอีกฝ่ายก็ให้อภัย เรียกว่ามีการอโหสิกรรมให้กัน เราจึงควรหัดเป็นคนให้อภัยง่ายๆ เราจะได้ไม่ต้องพกไฟแค้น ที่ทำให้เราต้องร้อนรุ่มกลุ้มใจไปตลอดชีวิต และการให้อภัย ย่อมชนะการให้ทั้งปวง การให้อภัยทาน เป็นการให้ทานที่ไม่ต้องลงทุนด้วยวัตถุ แต่เป็นทานอันสูงสุด พระพุทธองค์ตรัสว่า “ใครเป็นผู้มีอภัยทานประจำใจ คนนั้นก็เป็นผู้เข้าถึงปรมัตถบารมี" คือหนทางเข้าถึงซึ่งพระนิพพานในอนาคตนั่นเอง
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"
#หยุดสร้างกรรมต่อผู้อื่นย่อมไม่ได้รับเวรกรรม
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
ภาพและวีดีโอ