เปลี่ยนการแสดงผล
#จดหมายถึงพ่อ (83)
27 ธันวาคม 2563 157 ครั้ง
#จดหมายถึงพ่อ (83)

         “ฟี่ ป๊ะเสียแล้ว” เสียงปลายสายโทรศัพท์จากน้องชายของฉันที่แจ้งข่าวร้ายปนเสียงสะอื้นที่ฉันไม่อยากได้ยิน มันเป็นความรู้สึกที่ฉันกลัวมาตลอดและไม่ได้ตั้งตัวว่ามันจะมาเร็วขนาดนี้ ทันทีที่ฉันได้ยินข่าวร้ายนี้ฉันเข้าใจความรู้สึกที่เขาพูดกันว่าเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงมาในทันที และมันยิ่งตอกย้ำความรู้สึกนั้นให้ลึกลงกว่าเดิมเพราะฉันต้องเดินทางกลับบ้านในทันทีโดยต้องเดินทางข้ามผ่านถึง 2 จังหวัดด้วยรถโดยสารประจำทางที่เราไม่สามารถกำหนดระยะเวลาในการเดินทางได้บวกกับพายุฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างหนักซึ่งเป็นอุปสรรคในการเดินทางราวกับฉากในละครน้ำเน่า และฉันก็เป็นบุคคลสุดท้ายที่ทุกคนรอคอยการกลับมา สิ่งที่ฉันเห็นก็คือผู้ชายที่รักและดูแลฉันมาตลอดต้องนอนแน่นิ่งอย่างสงบไม่พูดอะไรกับฉันอีกแล้ว ฉันทำอะไรไม่ได้อีกแล้วนอกจากกอดร่างที่ไร้วิญญาณและความรู้สึกนั้นเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่ทุกคนจะช่วยกันจัดการศพตามหลักศาสนา นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ฉันอยากเล่าเรื่องราวผ่านจดหมายถึงพ่อ 
          ฉันเกิดและเติบโตในครอบครัวเกษตรกรระดับรากหญ้า มีแค่ทีดินเพียงเล็กน้อยและภูมิปัญญาที่ถูกถ่ายทอดมาจากบรรพบุรุษที่เป็นฐานความรู้ให้พ่อและแม่ของฉันได้ทำมาหากินเพื่อเลี้ยงครอบครัวและส่งเสริมให้ลูก ๆ ทุกคนได้มีอนาคตที่ดี ด้วยการสนับสนุนการศึกษาตามความสามารถที่ท่านทั้งสองจะทำได้ จนกระทั่งวันนี้ที่ฉันได้รับราชการครูตามความหวังของพ่อ  แต่พ่อก็เห็นฉันใส่ชุดสีแผ่นดินเพียงไม่นานก็ต้องจากฉันและทุกคนไปหลังจากที่ท่านต้องต่อสู้กับโรคต่าง ๆ ที่รุมเร้ามาอย่างยาวนานนับ 10 ปี ทิ้งไว้เพียงความทรงจำและคำสอนที่หล่อเลี้ยงให้ฉันได้ทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุดโดยไม่เบียนตนเองและผู้อื่น
          การจากไปของพ่อตัวเองทำให้ฉันนึกถึงการจากไปของพ่อของแผ่นดิน ถึงแม้ว่าท่านทั้งสองจะอยู่ในสถานะที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เพราะความยิ่งใหญ่ทั้งกายและใจของพ่อของแผ่นดินนั้นไม่มีใครเทียบเทียมได้ แต่ทว่าความรู้สึกอย่างหนึ่งที่จากไปแล้วเหมือนกันก็คือความเป็นพ่อ การสูญเสียพ่อผู้ซึ่งเคยดูแลให้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจอยู่เสมอที่มีท่าน
         ฉันพึงระลึกถึงบุคคลทั้งสองเสมอ เพราะท่านทั้งสองนั้นได้ทิ้งตัวอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตไว้มากมาย และเป็นเสมือนแสงสว่างนำทางชีวิตให้กับฉัน ในฐานะลูกและครูฉันจะทำหน้าที่ของฉันให้ดีที่สุด เป็นการตอบแทนพระคุณของท่านทั้งสอง จะพยายามอย่างเต็มที่เต็มความสามารถในการที่จะปลูกฝังนักเรียนของฉันที่เปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์ต้นไม้ ซึ่งอาจจะเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ไร้ซึ่งความแข็งแรง ขาดการดูแลเอาใจใส่อย่างถูกต้อง และต้องเติบโตท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้ายลงทุกวัน แต่นั่นก็เป็นความท้าทายสำหรับฉันผู้รับบทบาทเป็นผู้ปลูกฝังและดูแลเมล็ดพันธุ์เหล่านี้ให้เติบโตไปเป็นต้นไม้ที่สมบูรณ์เท่าที่กำลังกายและแรงใจของฉันจะมี เพื่ออนาคตของแผ่นดินนี้ที่จะเจริญด้วยตัวของพวกเขา พวกเขาซึ่งเปรียบเสมือนต้นไม้นานาพันธุ์ที่จะต้องช่วยกันสร้างประโยชน์ ความงามและความสงบร่มเย็นให้กับผืนแผ่นดินนี้สืบไป...

เขียนโดย "ฤดูฝน"
ภาพและวีดีโอ