พลังแห่งความรัก
        ความรักทำให้โลกน่าอยู่ ผมมีโอกาสบ่อยครั้ง ได้นั่งไตร่ตรองและพิจารณาตนเองและผู้อื่นอยู่เสมอ ในหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิต การประกอบอาชีพการงานของตนเอง การเสียสละเพื่อสังคม ซึ่งบางอย่างผมมองว่าเป็นสิ่งที่สร้างความยากลำบาก เหนื่อยล้าให้กับเราไม่น้อย  มีเพื่อนบ้านครอบครัวหนึ่งต้องตื่นตั้งแต่ตีสองเพื่อออกไปกรีดยางพารา กลับมาถึงบ้านตอนหกโมงเช้าต้องหุงหาอาหารให้กับสมาชิกในครอบครัว และออกไปทำงานประจำจนถึงเวลาห้าโมงเย็น กลับมาถึงบ้านก็ต้องดูแลแปลงผัก สัตว์เลี้ยงต่างๆ ภายในบ้าน กว่าที่จะได้นอนก็เกือบสี่ทุ่มเป็นอยู่อย่างนี้ทุกวัน โดยไม่มีวันหยุดพักผ่อน และอีกครอบครัวหนึ่งสามีต้องไปทำงานในที่ใกลๆ ไปอยู่คราวหนึ่งก็นานหลายเดือน หรือบางครั้งก็เป็นปี เวลามาเยี่ยมบ้านแต่ละทีก็อยู่ได้แค่ 4-5 วันเท่านั้นเมื่ออยู่ห่างกันความห่วงหาอาทรก็เกิดขึ้นอย่างน่าเห็นอกเห็นใจเป็นที่สุด สิ่งที่ผมยกตัวอย่างขึ้นมาเล่าให้ฟังนี้ ไม่ใช่สิ่งที่เกิดใหม่ หรือ เพิ่งเคยมี หรือมีแต่เฉพาะในบางท้องถิ่น หากแต่เกิดขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วโลก มนุษย์เราล้วนเลือกทำบางสิ่งที่เห็นว่าสำคัญ โดยไม่ยอมย่อท้อต่อความยากลำบากหรือแม้แต่การเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงภัยอันตราย อันอาจทำให้ถึงแก่ชีวิต แต่ก็ยังทำเพื่อให้ภารกิจหน้าที่ของตนเองสำเร็จลุล่วงไป อันแสดงให้เห็นว่าต้องมีอะไรสักอย่างที่มีคุณค่าเพียงพอให้เราทุกคนทำในสิ่งเหล่านี้ เพราะคงไม่มีใครยอมทำอะไรหากเห็นว่าไม่มีความสำคัญเป็นแน่แท้

        ซึ่งที่เป็นแรงขับให้เราท่านทั้งหลายประกอบกิจการงานต่างๆ อยู่ในทุกวันนี้ คือ “ความรัก” จากตัวอย่างข้างต้น จะเห็นว่าเป็นเพราะความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก หวังให้ลูกได้มีชีวิตที่ดี มีความสุข จึงยอมทำงานที่เห็นว่าเหนื่อยยาก เพื่อให้ลูกอันเป็นที่รัก ได้มีความสุขอยู่ดีกินดี และมีอนาคตที่ดีต่อไป อันเป็นการเข้าใจได้ว่า เมื่อใดที่เรารักสิ่งใด เราย่อมมีความปรารถนาดีต่อสิ่งที่เรารัก  ดังที่ว่า ความรักทำให้โลกน่าอยู่และเป็นสิ่งจำเป็น อย่างน้อยที่สุด เราต้องเรียนรู้ที่จะรักตัวเอง อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญที่สุดในการมีความรัก แต่เมื่อเรามองออกไป เราก็จะเห็นผู้คนที่ทำหน้าที่การงานด้วยความเสียสละและบางครั้ง ไม่มีค่าตอบแทน หรือมีก็เพียงน้อยนิด ซึ่งเทียบไม่ได้กับหน้าที่ ที่ต้องอาศัยความเสียสละ อดทน เหนื่อยยาก เสี่ยงภัย ซึ่งเรามักเรียกว่า ถ้าใจไม่รักจริงๆ ทำไม่ได้อย่างแน่นอน ซึ่งเราสามารถพบเห็นได้ทั่วไปในหลายหน่วยงาน องค์กรเอกชน มูลนิธิ หรือในชุมชน งานบางอย่างลำบากตรากตรำและเสี่ยงภัยอันตราย และหลายๆครั้ง ก็ทำเพื่อคนอื่นที่ตนไม่รู้จัก และยิ่งไปกว่านั้น คือ คนที่ได้รับการช่วยเหลือ ไม่รู้ด้วยซ้ำไปว่ามีใครช่วยเหลือตนเองอยู่ แต่ที่ทุกคนลงมือทำก็เพราะความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ ปรารถนาให้เพื่อนมนุษย์ ได้มีความสุข อันนี้เป็นความรักที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง ซึ่งทำให้โลกน่าอยู่ ดูแล้วรู้สึกว่ามีความหวังกับโลกใบนี้ว่าต้องดีขึ้นกว่าเดิม

        เนื่องในวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์นี้ เป็นวันแห่งความรัก เป็นจึงอยากเชิญชวนทุกท่านได้แสดงออกถึงความรักและให้กำลังใจต่อทุกคนที่ทำหน้าที่การงาน ภารกิจต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อเพื่อนมนุษย์และโลกใบนี้ ให้คนในสังคมรู้สึกถึง ความรัก ความปรารถนาดีต่อกัน จะเป็นพลังแห่งความรักในการขับเคลื่อนให้โลกของเราน่าอยู่ยิ่งๆขึ้นไป เพราะทุกคนในสังคมล้วนมีความรักและความปราถนาดีต่อกัน

เขียนโดย "นนทวัชร์ "