เปลี่ยนการแสดงผล
ความรักจากนึ่งดวงใจ สร้างความรักได้เป็นล้านๆดวง
26 มีนาคม 2564 412 ครั้ง
ธ สถิตในดวงใจตราบนิรันดร์ เป็นประโยคที่ติดเทรนในทุกโซเชียลมากที่สุดและนานที่สุด แม้แต่ในปัจจุบันก็ยังมีการวนมาใช้ประโยคดังกล่าวอยู่เนืองๆ บุคคลที่จะเป็นที่รัก...อยู่ในใจคนมากมายหลายสิบล้านคนนั้นต้องเป็นอะไรที่พิเศษกว่าคนทั่วไปอย่างแน่นอน... พวกเราปวงชนชาวไทยทุกคนย่อมรู้จักบุคคลท่านนั้นดีเป็นอย่างยิ่ง นั่นก็คือ "พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร" ผู้ที่มีแต่การให้ที่ยิ่งใหญ่ตลอดช่วงเวลาที่พระองค์ทรงพระชนม์ชีพ
สิ่งที่พระองค์ทรงให้แก่ปวงชนชาวไทยมากมายนั้นเกิดขึ้นจากเพียงประโยคสั้นๆที่ว่า "ในหลวง อย่าละทิ้งประชาชน” ... และพระองค์ได้ทรงตอบว่า " ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้" เป็นจุดเริ่มต้นของความรักที่มีระหว่างพระราชาและประชาชน จากความรักที่เริ่มต้นหนึ่งดวงของพระราชา ก็เพิ่มขึ้นเป็นสองดวงจากพระราชินี และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆจากพระบรมวงศ์... ความรักของในหลวงรัชกาลที่9 และพระบรมวงศ์ทุกพระองค์นั้นทรงอานุภาพยิ่งนัก สามารถสร้างความรัก ความอบอุ่น และความสงบสุข ร่มเย็นของคนในชาติได้เรื่อยมาจาก... "เบ็ดที่พระราชาทรงหยิบยื่นให้กับเหล่าพสกนิกรของพระองค์"
ตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองราชย์พลังแห่งความรักของพระองค์ได้มีโครงการพระราชดำริน้อยใหญ่เกิดขึ้นมากมายกว่า 4,000 โครงการเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแด่พสกนิกร จนมีคำกล่าวที่ว่า "ไม่มีตารางนิ้วไหนของแผ่นดินสยามที่เหล่าปวงประชาประสบปัญหาความเดือดร้อนแล้ว พระองค์ไม่เสด็จไปเหยียบพื้นที่แห่งนั้น" พระราชกรณียกิจของพระองค์บ่งบอกให้เห็นถึงทรงไม่เลือกปฏิบัติต่อประชาชนของพระองค์ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติไหน นับถือศาสนาใดก็ตาม แค่เพียงอาศัยอยู่ในผืนแผ่นดินไทยล้วนแต่ได้รับพลังจากความรักของพระองค์และพระบรมวงศ์ทุกพระองค์
พลังแห่งความรักที่ยิ่งของพระมหากษัตริย์พระองค์นี้ยังได้แผ่ไพศาลไปยังต่างแดนเพื่อช่วยเหลือชาวโลกที่ประสบปัญหาด้านดิน น้ำ และการเกษตร ในการประยุกต์ใช้เหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เกษตรทฤษฎีใหม่ โครงการแกล้งดิน รวมทั้ง"โครงการพระราชดำริฝนหลวง" พระองค์ทรงใช้ระยะเวลาในการค้นคว้า ทดลอง โครงการฝนหลวงถึง 14 ปี ด้วยทรงพระวิริยอุตสาหะ และพากเพียรดั่งพระมหาชนก เนื่องด้วยความรักที่มีต่อพสกนิกรที่ประสบปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อพืชผลการเกษตรและนำมาซึ่งความยากจน
พลังแห่งความรักนั้นทรงปกเกล้าปกกระหม่อมมายังพวกเราชาวกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ทรงพระราชทานตราสัญญลักษณ์ที่ประกอบไปด้วย พระปรมาภิไธย"ภปร" ภายใต้พระมหาพิชัยมงกุฏ ครอบอยู่เหนือพญานาคมีปีกพ่นน้ำ อันเป็นตราสัญญลักษณ์ที่เป็นมงคลและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่พวกเราชาวฝนหลวงเป็นอย่างยิ่ง เกิดความกล้าหาญและมุ่งมั่นที่จะทำงานอย่างเต็มที่ ถึงแม้บางครั้งจะอยู่ภายใต้ความเสี่ยงที่จะเผชิญกับสภาพอากาศที่แปรปรวน เพื่อสนองพระราชปณิธานของพระบิดาแห่งฝนหลวงในการสร้างเมฆ สร้างฝนให้ปวงชนชาวไทยในยามเผชิญภัยแล้ง...
ครั้นเข้าสู่รัชสมัยรัชกาลที่ 10 พระองค์ทรงสืบทอดความรักสู่ประชาชน ทรงมีพระปฐมบรมราชโองการ "เราจะสืบสานรักษาและต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป" นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ที่พวกเราช่างโชคดีที่ได้รับความรัก ความเมตตา จากในหลวงและพระบรมวงศ์เพื่อความสงบสุข ฉ่ำเย็น ดั่งสายฝนที่ประพรมลงมามิขาดสาย...
พวกเราจะขอจงรักภักดี และขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป...
ธ สถิตในดวงใจตราบนิรันดร์...
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"
ภาพและวีดีโอ