เปลี่ยนการแสดงผล
#เรื่องเล่าจากคนหน้าห้องตอนที่ 3
1 เมษายน 2564 198 ครั้ง
บอกแล้วว่าเรื่องราวของคนหน้าห้องและคนในห้องมีมากมายเล่าวันเดียวไม่จบ
วันนี้มาเล่ากันต่อเป็นวันที่ 3 คนหน้าห้องอย่างเราต้องมีคุณสมบัติที่ซื่อสัตย์ เพราะคนในห้องมักจะไว้วางใจในเรื่องเงินๆทองๆ ให้เราบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเรื่องข้าวปลาอาหาร การช่วยงาน หรือการเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ หากเราซื่อสัตย์แล้วคนในห้องจะได้ไม่ต้องให้เราคอยทำบัญชีชี้แจงค่าใช้จ่ายต่างๆให้ยุ่งยาก แต่หากใครเจอคนในห้องละเอียดจัดประเภทบาทนึงแทบไม่กระเด็นก็เหนื่อยหน่อยนะ ต้องมาคอยทำบัญชีชี้แจงทุกรายการ
พวกเราทีมคนหน้าห้องยังต้องคอยดูตาม้าตาเรือ ดูจังหวะอารมณ์คนในห้องด้วยว่า อารมณ์เป็นอย่างไร ไม่ใช่คนในห้องอารมณ์กำลังเสียกำลังพีคอยู่เลย ดันให้คนที่คนในห้องไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่มาพบอีก มีหวังระเบิดลงคนที่จะมาพบก่อนที่จะได้คุย แถมอาจจะพาลมาลงพวกเราด้วย แต่ที่สำคัญไม่ควรนัดคนที่คนในห้องไม่ค่อยปลื้มมาพบตอนเช้าเพราะขืนมา แล้วทำให้คนในห้องอารมณ์เสียแต่เช้าคงไม่เหมาะนะ หากเป็นแบบนั้นวันนั้นพวกเราคงต้องภาวนาสวดมนต์บทให้แคล้วคลาดปลอดภัยตลอดทั้งวันกันเลยทีเดียว หรืออาจจะมีการเกี่ยงกันเข้าไปในห้องเวลาถูกเรียก
กลับมาพูดเกี่ยวกับเรื่องการกลั่นกรองงานบ้าง คนหน้าห้องจะต้องมีความละเอียด อ่านเอกสารที่จะนำเสนออย่างรอบคอบ ต้องพอที่จะจำเรื่องได้ถ้าถูกเรียกถาม และที่สำคัญหากเจอคนในห้องประเภทละเอียดเจอที่ผิดแล้ววงมาให้ไปแก้ไขหนังสือมาใหม่ เราก็จะรู้สึกวาบๆในบางที และมักพูดในใจว่า"เราว่าเราดูดีแล้วนะ คนอะไรละเอียดจริง"
อีกอย่างนะ อยากจะบอกคนที่อยากจะเป็นหน้าห้องว่า เรื่องการนินทาคนในห้อง ถ้างดได้ให้งดเลยเชียว แบบว่าอาจจะเคราะห์หามยามซวย คนในห้องแอบได้ยินขึ้นมารับรองมีเสียวแน่ ดั่งสุภาษิตไทยที่ว่า"หน้าต่างมีหู ประตูมีช่อง" และเคยสังเกตหรือไม่ว่า คนที่บอกว่าหูตึง แต่เวลานินทาเขามักจะได้ยิน และคนในห้องมักจะเป็นคนอายุเยอะพูดจาเสียงดังเหมือนคนหูตึง แต่พอนินทาทีไร ไอ้เราก็ว่าพูดเบาๆแล้วนะ ดันได้ยินอีก...
คนหน้าห้องก็ต้องไม่ใช่คนขี้ฟ้องนะจะบอกให้ ขืนเป็นคนขี้ฟ้องแล้วเจอคนในห้องประเภทหูเบาขึ้นมา มีหวังอาจเกิดกรณีช้างสารชนกันหญ้าแพรกแหลกลาญได้เหมือนกันนะ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ดีและเป็นเรื่องจริงก็ควรที่จะหาโอกาสรายงานให้ท่านทราบเพราะจะได้ป้องกันหรือแก้ไขได้ทันท่วงที และต้องไม่เอาเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องไปแพร่งพรายให้คนนอกรู้ ควรทำตนประเภท "ความในไม่นำออก ความนอกไม่นำเข้า"
คนหน้าห้องอย่างพวกเราก็ยังต้องมีความหนักแน่น อดทน ไม่ใช่แค่โดนว่านิดว่าหน่อยก็น้ำตาตก หรือเก็บมาเครียด ไม่งั้นคงต้องน้ำตาตกหรือเครียดจนเป็นบ้าถ้าหากเจอคนในห้องที่ขี้โวยวาย ด่าได้ทุกเรื่อง ไม่ถูกใจสักเรื่อง ก็ถือว่าเป็นกรรมก็แล้วกัน
เรื่องบุคลิกภาพก็มีส่วนสำคัญนะ ไม่ใช่เสื้อผ้าก็ไม่เรียบร้อย หน้าตาก็ไม่เคยเจอแป้งเจอลิปสติกบ้างเลย(กรณีผู้หญิง) ผมเผ้าก็รุงรังไม่เรียบร้อย แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ เพราะว่าจะต้องมีแขกหรือคนมาติดต่องานอยู่บ่อยๆ เดี๋ยวคนในห้องจะขายขี้หน้าเอา ด้วยธรรมชาติของมนุษย์ก็ชอบอะไรที่สบายหูสบายตาใช่มั้ยล่ะ
ตาย!!! แอบมานั่งเล่าอยู่นาน เสียงคนในห้องเรียกออกมาแล้ว ต้องไปก่อนนะ แล้วจะกลับมาเล่าเคล็ดลับของคนหน้าห้องให้ฟังใหม่ หรือว่าไม่อยากฟังกันแล้ว แต่ถ้ายังอยากฟังกันอยู่ ขอความคิดเห็นกันเข้ามาหน่อย ถ้าไม่อยากฟังก็จะได้จบวันนี้เลย...
ภาพและวีดีโอ