เปลี่ยนการแสดงผล
#เรื่องเล่าจากคนหน้าห้องตอนจบ
2 เมษายน 2564 95 ครั้ง
#เรื่องเล่าจากคนหน้าห้องตอนจบ

        หลังจากนั่งเล่าเรื่องคนหน้าห้องให้พวกเราฟังผ่านไป 3 วันแล้ว ตอนนี้เราคงสนิทกันมากขึ้น ไม่ต้องเกร็งที่จะระวังคำพูดที่จะเล่าแล้วมัง งั้นวันนี้เรามาเล่าแบบเจาะลึกถึงพริกถึงขิงกันสักหน่อย

        จากที่ฟังเล่ามาแล้ว ทุกท่านคงมีความเห็นเหมือนกันว่า คนที่จะเป็นหน้าห้องนั้นต้องครบเครื่องจริงๆใช่มั้ยล่ะ ไม่ว่าจะบุคลิกภาพ ความรู้ ความอดทน ความเสียสละ ไหวพริบปฏิภาณ แต่ยังไม่หมดเท่านั้น วันนี้มาฟังกันต่อ...

        คนที่จะเป็นหน้าห้องที่ดียังต้องเป็นฑูตสันถวไมตรีด้วยนะ ต้องมีศิลปะในการพูดกับคนในห้องในกรณีที่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการหรือความคิดของคนในห้อง เพื่อไม่ให้คนในห้องรู้สึกว่าโดนขัดใจหรือกำลังถูกสอน เพราะคนในห้องส่วนใหญ่จะใจแคบ เชื่อมั่นในตนเองสูง ไม่ค่อยฟังเด็กๆ 

        แต่ว่ามั้ยล่ะบางครั้งหนูก็ช่วยราชสีห์ได้นะ อีกอย่างคนหน้าห้องต้องคอยทำหน้าที่ปลอบใจพวกคนที่ถูกคนในห้องหวดด้วย อย่างที่บอกไปตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่ายิ่งสูงยิ่งหนาว ห้องของคนในห้องก็ใหญ่แถมโล่ง เวลาคนที่ถูกเรียกไปหวดก็เหมือนเข้าห้องเย็น หรือห้องดับจิตดีๆนั่นเอง เราต้องปลอบใจกันไปเพื่อให้เข้าใจในการกระทำของเจ้านายเราด้วยเพราะเราเข้าใจเจ้านายเรามากกว่าคนอื่นๆ และจะได้ยังคงความสัมพันธ์กันต่อไปได้โดยเฉพาะกับคนจิตอ่อน

        คนหน้าห้องยังต้องมีความกล้าที่จะตัดสินใจแทนคนในห้องในบางครั้งเนื่องจากคนในห้องอาจจะยุ่งกับการประชุมมากมายในแต่ละวัน บางครั้งอาจจะมีงานด่วนที่สุดของที่สุดเข้ามาจะมัวแต่รอให้คนในห้องกลับมาตัดสินใจเองคงจะไม่ทันยิ่งถ้าต้องมีการจัดเตรียมข้อมูลด้วยแล้ว ควรประสานไปยังหน่วยงานที่ต้องจัดเตรียมข้อมูลนั้นๆ ก็จะช่วยหน่วยงานที่จะต้องจัดเตรียมข้อมูลไม่ต้องมาด่วนฉ.ห. 

        พูดถึงเรื่องงานด่วนๆ ในระบบงานของราชการไทยยังไม่เคยเห็นเรื่องอะไรจะไม่ด่วน ไม่รู้ว่าเพิ่งจะคิดได้หรือไม่เคยมีการวางแผนการทำงาน เลยต้องมาด่วนที่สุดกันตลอด แล้วทำไมต้องมาด่วนตรงจุดปลายทางเสมอๆ (มีบ่น)

        คนหน้าห้องนอกจากมีหน้าที่กรองงานแล้วยังต้องมีข้อเสนอว่าเห็นสมควรส่งต่อไปหน่วยงานไหนดำเนินการ เรียกว่าเหมือนไกด์ไลน์ให้คนในห้องรู้ แต่แล้วแต่ว่าคนในห้องจะทำตามหรือไม่ ถ้าหากคนในห้องที่ไม่เคยสัมผัสงานในหน่วยงานนี้มาก่อนคงจะต้องเชื่อเพราะพวกเรารู้ภาพรวมว่าแต่ละหน่วยงานในกรมว่ามีหน้าที่รับผิดชอบอะไร

        สุดท้ายคนหน้าห้องยังต้องเข้ากับคนที่บ้านของคนในห้องได้ดีอีกด้วยนะ เพราะมีความจำเป็นต้องเข้านอกออกในบ้านของคนในห้องเหมือนเป็นสมาชิกคนหนึ่งของครอบครัวเลยทีเดียว แต่อย่าดีเกินจนความลับของคนในห้องที่ไม่ควรให้คนหลังบ้านรู้ ก็รู้หมด อาจจะเป็นชนวนระเบิดสังหารหมู่ก็ได้นะ

        ฟังกันมา 4 ตอนรู้สึกอย่างไรกันบ้าง อยากเป็นคนหน้าห้องอย่างพวกเรากันบ้างมั้ย

        ที่จริงแล้วคนหน้าห้องอย่างพวกเราก็ได้รับอะไรดีๆจากคนในห้องไม่ใช่น้อยนะ แต่ก็เหมือนกับการซื้อลอตเตอรี่ ว่าจะถูกรางวัลใหญ่หรือเลขท้ายแต่อย่างไรก็ต้องถูก เพราะคนในห้องส่วนใหญ่จะเป็นคนมีน้ำใจ มีเมตตา สิ่งที่ได้แน่ๆคือการเปอร์เซ็นต์ขึ้นเงินเดือนที่จะได้รับการพิจารณาพิเศษ แต่หวังว่าคนที่อ่านมาถึงตรงนี้คงจะไม่อิจฉาพวกเราที่ได้การพิจารณาพิเศษแบบนี้นะ เพราะต้องแลกกับความเหน็ดเหนื่อยที่เล่ามาให้ฟัง

        พวกเราก็ได้รับการดูแลเรื่องอาหารการกิน เหตุผลหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าคนในห้องต้องการให้พวกเราไม่ต้องไปเสียเวลาในการหาอาหารทานกันเองและจะได้อยู่ห้องทำงานได้ตลอดเวลา เวลาคนโทรมาติดต่องานก็มีคนรับสายที่จะพูดคุยด้วยได้

        ช่วงปีใหม่ก็อาจจะได้รับเงินเป็นของขวัญปีใหม่เล็กๆน้อย ได้ไปจับจ่ายใช้สอยช่วงกลับบ้านต่างจังหวัด หรืออาจจะได้กระเช้าที่มีคนมาอวยพรปีใหม่เจ้านายแล้วท่านแบ่งให้ ก็ต้องขอบพระคุณในน้ำใจที่เอื้อเฟื้อ 

        แต่ถ้าได้กระเช้าของขวัญมาเยอะๆแล้วไม่ได้แบ่งให้ใครเก็บไปกินเอง ใช้เองทั้งหมดอาจจะหมดอายุก่อนก็ได้นะเจ้านาย

        อย่างไรก็ตามการที่จะมาเป็นคนในห้องหรือคนหน้าห้องนั้นฟ้าคงต้อง"ลิขิต"มาแล้ว ในเมื่อ"ลิขิต"มาแล้วเราคงต้องทำให้เต็มหน้าที่ไม่ให้เสียชื่อที่ฟ้า"ลิขิต"มา

เขียนโดย "หลงเมฆ"
#ลิขิตฟ้าหรือจะสู้การกระทำในปัจจุบัน
ภาพและวีดีโอ