เปลี่ยนการแสดงผล
#สามวันในภูเก็ต
7 เมษายน 2564 136 ครั้ง
สามวันกับการทำงานและการเรียนรู้ในจังหวัดภูเก็ต ทำให้ระลึกถึงหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นอย่างยิ่ง...
3 ห่วง 2 เงื่อนไข... "พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกัน" บนเงื่อนไข "ความรู้" และ "คุณธรรม"
ทำไมระลึกถึง"หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง"
เพราะที่ภูเก็ตมีความหลากหลายทางอาชีพ แต่ส่วนใหญ่รายได้หลักมาจากการท่องเที่ยว แต่ในวันนี้การท่องเที่ยวซบเซาเป็นอย่างมากจากผลกระทบของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ทำให้จากเดิมที่หาดป่าตองเคยเนื่องแน่นไปด้วยนักท่องเที่ยว กลายเป็นหาดที่ขาวสะอาดเวิ้งว้างแทบไม่มีนักท่องเที่ยว หากมีนักท่องเที่ยวพลัดหลงเข้ามาแม่ค้าที่ตั้งตาคอยขายของต่างดีใจมีความหวังที่จะได้รายได้ในวันนี้ไปจุนเจือครอบครัว จากเดิมที่เคยมีรายได้หลักหมื่นบาทต่อวันกลายเป็นรายได้หลักร้อยบาทต่อวันหรือบางวันอาจจะไม่ได้เลย
ไม่เพียงแต่แม่ค้าที่คอยมาเดินขายของให้นักท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ แต่ผู้คนที่เกี่ยวข้องกับอาชีพการท่องเที่ยว ตั้งแต่โรงแรม สถานบันเทิง อาชีพบริการ ร้านอาหาร ต่างได้รับผลกระทบไปด้วย
ถึงแม้จะมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันน้อยมาก แต่ผู้ประกอบการโรงแรมหลายๆรายก็ยังคงจ้างพนักงานเพราะด้วยความเห็นใจและมีน้ำใจต่อกันที่เคยสุขกันมายุคที่ภูเก็ตเฟื่องฟูก่อนที่จะเจอกับปัญหาโควิด-19 ในเมื่อยามทุกข์จึงไม่ทอดทิ้งกัน แต่มีการลดเงินเดือนลงเพื่อความอยู่รอดทั้งสองฝ่าย พนักงานก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ด้วยความเข้าใจที่ว่าผู้ประกอบการต้องขาดรายได้ขาดทุนต่อวันเป็นจำนวนมาก ถือเป็นความร่วมมือที่ดีต่อกัน
ชาวเกาะภูเก็ตไม่ได้มีเพียงอาชีพด้านการท่องเที่ยวเท่านั้น ยังมีอาชีพพื้นฐานของคนไทยนั่นคืออาชีพเกษตรกรรมอีกด้วย
จากการลงพื้นที่เยี่ยมเยียนพี่น้องอาสาสมัครฝนหลวงและเกษตรกรชาวภูเก็ต ณ ศูนย์เรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงบ้านม่าหนิก ได้พบกับนายศุภโรจน์ ทองยศ ซึ่งทำหน้าที่ประธานศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงแห่งนี้ และเป็นประธานอาสาสมัครฝนหลวงจังหวัดภูเก็ต อาสาสมัครฝนหลวงและเกษตรกรในพื้นที่ให้ข้อมูลแก่พวกเราว่าตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้จังหวัดภูเก็ตเงียบเหงามากแต่ทุกคนยังต้องอยู่ต้องกิน พืชผลทางการเกษตรจึงยังคงมีความต้องการของตลาด เรียกได้ว่าอาชีพทางการเกษตรไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
อีกทั้งเกษตรกรที่นี่ยังรวมตัวกันแปรรูป"ม่าหนิก"หรือกระเจี๊ยบเขียว เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ด้วย"ม่าหนิก" มีคุณสมบัติเป็นคอลลาเจนธรรมชาติคล้ายเจลหอยทากแต่มีความปลอดภัยกว่า มีสรรพคุณทำให้ผิวพรรณสดใสเต่งตึงสวยงามตลอดเวลา เป็นสินค้าที่กำลังมาแรง ที่ชาวบ้านม่าหนิกผลิตขายไม่ทันกับความต้องการ
สามวันกับการทำงานและการเรียนรู้จากเหตุการณ์จริงในภูเก็ต ทำให้เกิดสติเตือนตนเองว่าชีวิตคนเราต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานแห่งความพอเพียง ความมีเหตุมีผล บริหารความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้ย่อมสร้างความสงบสุขให้กับชีวิตตนเอง และเข้าใจผู้อื่น มีความเห็นอกเห็นใจกัน เกื้อกูลต่อกัน สร้างพลังและกำลังใจให้แก่กันสมกับคำที่ว่า "มีสุขร่วมสุข มีทุกข์ร่วมเสพ" เพื่อฝ่าฝันปัญหาอุปสรรคที่เผชิญอยู่ด้วยการจับมือกันให้แน่นๆแล้วก้าวข้ามไปด้วยกันให้ได้
ขอบคุณภูเก็ตสำหรับสามวันแห่งการเรียนรู้ให้เกิดสติ
ฉันรักเธอภูเก็ตและขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

 

 

 

 

 

 

ภาพและวีดีโอ