เปลี่ยนการแสดงผล
#เกิดแต่ตม
12 พฤษภาคม 2564 2,139 ครั้ง
#เกิดแต่ตม

บัว "ราชินีแห่งไม้น้ำ" เป็นพืชน้ำล้มลุก ที่มีลักษณะลำต้นและหัวอยู่ในดินตมใต้น้ำ โดยจะค่อยๆชูก้านใบและดอกโผล่ออกจากตม มาอยู่ใต้น้ำแล้วค่อยๆโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ แต่ใช่ว่าทุกดอกจะสามารถโผล่พ้นน้ำมาอวดความสวยงามสง่าดุจราชินีได้ทุกดอกไป เพราะบ้างก็เป็นได้แค่เพียงอาหารของเต่าปลาก่อนจะพ้นน้ำ

ความเชื่อเรื่องบัวนั้นมีมาแต่ครั้งโบราณ ชาวอียิปต์โบราณนิยมนับถือบัวเป็นดอกไม้ประจำชาติ และเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ โดยพบได้จากภาพเขียนที่ปรากฏตามผนังของพีระมิด หลุมฝังศพ และอาคารปรักหักพังต่างๆ อีกทั้งยังกำหนดให้ดอกบัวเป็นสัญลักษณ์ของเทพเจ้า Horus แห่งดวงอาทิตย์ โดยถือให้พระองค์ทรงกำเนิดจากดอกบัว เนื่องจากบัวมีการแย้มบานและหุบกลีบที่เกิดขึ้นพร้อมกับการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์นั่นเอง
บัวยังถือเป็นดอกไม้ประจำพระพุทธศาสนา โดยมีตำนานกล่าวว่า หมอชีวกโกมารภัจจ์ ได้ปรุงยาจากดอกบัว ถวายแด่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า แก้อาการอ่อนเพลีย อีกทั้งบัวยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธตั้งแต่ เมื่อพระพุทธเจ้าประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน

ครั้นเมื่อพระพุทธเจ้าประสูติได้มีดอกบัวมารองรับการเดินเจ็ดก้าว หลังจากการตรัสรู้ การเข้าถึงพระธรรมของแต่ละคนไม่เท่ากันจึงเปรียบสติปัญญาของคนเสมือนบัวสี่เหล่าได้แก่ บัวในโคลนตมเปรียบกับบุคคลที่ไร้สติปัญญา บัวใต้น้ำเปรียบกับบุคคลที่มีสติปัญญาน้อย บัวปริ่มน้ำเปรียบกับบุคคลที่มีสติปัญญาดี และบัวพ้นน้ำเปรียบกับบุคคลที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ชาวพุทธจึงนิยมเอาดอกบัวมาบูชาพระด้วยเพราะบัวจะสวยงามและสดชื่นเมื่อเกิดอยู่ในน้ำใสสะอาด และยังอยากบูชาพระพุทธเจ้าด้วยการรำลึกถึงบัว 4 เหล่า คติธรรมเรื่องบัว 4 เหล่านี้นับว่าเป็นจริงเสมอ สามารถพบเจอในชีวิตประจำวันของพวกเรา ไม่ว่าจะในวงการใดหรือแม้แต่ตนเองบางครั้งก็เหมือนบัวในโคลนตมเมื่อยามขาดสติ บางครั้งก็เหมือนบ้วพ้นน้ำเมื่อยามมีสติสัมปชัญญะ ดั่งคำที่ว่า " สติมาปัญญาเกิด"

ในแต่ละองค์กรย่อมมีคนหลายประเภทและคงไม่พ้นประเภทบัวทั้ง 4 เหล่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตรก็เช่นเดียวกันย่อมมีคนในองค์กรประกอบไปด้วยบุคคลที่เปรียบเสมือนบัวทั้ง 4 เหล่า บางคนพร่ำสอนเท่าไหร่ก็ยากที่จะพัฒนา บางคนแค่เพียงแนะนำเล็กน้อยก็สามารถนำไปคิดพัฒนาต่อยอดได้

การปฏิบัติการฝนหลวงในแต่ละวันแต่ละครั้งเราอาจเปรียบผลสัมฤทธิ์ได้กับบัว 4 เหล่าเช่นกัน โดยหากวันใดเราขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงแล้วไม่สามารถบังคับให้เมฆเกิดการพัฒนาเป็นฝนได้ก็เป็นได้เพียงบัวในโคลนตมที่ถูกเต่าปลากัดกินเป็นอาหารหมดสิ้นไปก่อนที่จะได้งอกเงยขึ้นมาให้เชยชม

หากวันใดที่เราสามารถบังคับเมฆให้เกิดการพัฒนาตัวได้เล็กน้อยจนสามารถมีฝนตกลงมาเพียงเล็กน้อย( 0.1-10.0 มม.)ให้ผู้ต้องการน้ำได้มีความหวังแต่ยังห่างไกลพอควรเหมือนบัวที่ยังจมใต้น้ำที่สร้างความหวังอยู่รำไรที่จะได้เชยชม ส่วนวันใดที่พวกเราได้ขึ้นบินทำฝนจนสามารถมีฝนตกในระดับปานกลาง( 10.1-35.0 มม.) ย่อมเปรียบเสมือนบัวที่ปริ่มน้ำได้สร้างความพึงพอใจและความหวังให้กับผู้ได้พบเห็นที่จะได้เห็นดอกบานสร้างความเบิกบานในหัวใจ เหมือนกับผู้ต้องการน้ำพึงพอใจและมีความหวังที่จะรอดพ้นจากภัยแล้ง

แต่หากวันใดที่พวกเราสามารถสร้างฝนได้ปริมาณมากถึงขั้นฝนหนัก( 35.1-90.0 มม.) หรือหนักมาก(90.1 มม.ขึ้นไป) ย่อมสร้างความปิติยินดีให้ทั้งผู้ทำฝนอย่างเราๆและผู้ต้องการฝนอย่างเกษตรกร จึงเปรียบเสมือนบัวที่พ้นน้ำเบ่งบานอวดโฉมต่อผู้คนที่พบเห็นได้มีความสุขใจ นั่นหมายความว่าโอกาสในความสำเร็จในการทำฝนของพวกเราเหล่านักล่าเมฆก็เป็นไปตามหลักการบัว 4 เหล่านั่นเอง

ฉะนั้นหากเราเกิดความท้อกับการทำงานคราใดขอให้นึกถึงบัว 4 เหล่าที่เป็นไปตามธรรมชาติ โอกาสที่จะพลาดพลั้งไม่ได้เกิดพ้นน้ำเพราะเจอปัญหาอุปสรรคระหว่างทางเสียก่อน แต่ขอเพียงเรามีสติพิจารณาสิ่งที่จะเป็นอุปสรรค และพยายามควบคุมหรือหลีกเลี่ยงอุปสรรคเหล่านี้ โอกาสที่จะพ้นน้ำเหมือนบัวที่เกิดจากตมก็เป็นไปได้สูง แล้วเมื่อนั้นเราจะภาคภูมิใจที่สามารถสร้างฟ้าสร้างฝนได้จากที่ไม่มีฟ้าไม่มีฝนให้เหล่าประชาได้ชื่นใจ

เขียนโดย "ฟ้าโปรย"
#สติสร้างปัญญา_ความพยายามสร้างความสำเร็จ
ภาพและวีดีโอ