เปลี่ยนการแสดงผล
ความฝันและชีวิตจริง
30 กรกฎาคม 2564 179 ครั้ง

“ผมทำงานที่ผมใฝ่ฝันมาตลอดเวลา 15 ปี”
“และแล้วต้องพลัดพรากจากงานที่ผมใฝ่ฝัน”
“เปลี่ยนประสบการณ์อาชีพที่จะทำให้ผมประสบความสำเร็จในอนาคตของผม”

ความฝันของผมตอนครั้งยังเรียนอยู่คือ  ความฝันของฉันในอนาคต ผมอยากเป็น “นักคอมพิวเตอร์ IT”เพราะเป็นอาชีพที่อยู่กับคอมซึ่งเป็นสิ่งที่ฉันรักผมชอบ และฉันสามารถทำได้ดีในด้านนี้ และฉันสามารถให้ความรู้เรื่องพวกนี้แก่คนอื่นๆ ที่เกี่ยวกับไอทีที่ฉันไฝ่ฝันที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ มันก็จะดีและมีผลในชีวิตประจำวันเราสามารถทำงานหาเลี้ยงตนเองและครอบครัวได้อย่างสุจริต หลายคนอาจจะมองว่า อาชีพอื่นก็มีตั้งเยอะแยะ ทำไมถึงไม่อยากจะเป็น ทำไมถึงอยากจะเป็น “นักคอมพิวเตอร์ IT” ผมบอกได้เลยว่าผมรักในการเล่นคอมรักในการที่ได้เห็นงานของตัวเองอยู่บนนั้นแหละประสบผลสำเร็จ สามารถสอนเพื่อนได้ ผมรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำมันให้คุณพ่อคุณแม่เห็นว่าฉันก้อทำได้อย่างคนอื่นเขา ถึงอาชีพนี้จะไม่ใช้อาชีพที่ร่ำรวยเเงินทอง แต่ก็รวยความสุขที่ได้ทำมัน มีความสุขที่ได้เห็นคนอื่นดูผลงานของเราแล้วยิ้ม และเหตุผลเหล่านี้เอง จึงทำให้ผมอยากเป็น“นักคอมพิวเตอร์ IT”
ก้าวที่สำคัญกว่านั้น ผมสอบได้เข้าทำงานในสายงานอาชีพที่ผมไฝ่ฝันคือสายงาน “นักคอมพิวเตอร์ IT” เมื่อ15 ปี ที่แล้วนั้น ผมดีใจสุดๆไม่มีอะไรจะบรรยาย ทำงานในสายอาชีพที่ตอนเด็กๆเราใฝ่ฝันนั้นก็อาจจะไม่จีรังยั่งยืนหรือเป็นอย่างที่เราคิดก็ได้ครับ สุดท้ายผมก็ได้พลัดพรากจากงานที่ผมรักโดยที่มีปัจจัยหลักๆ คือเด็กจบใหม่หรือคนใต้บังคับบัญชาเราไม่ค่อยสู้งานหรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เราบอกและสั่งจนสุดท้าย ทำให้ผมเริ่มเบื่อและอยากพักผ่อนสุดท้ายก็ได้ลาออกมาพักผ่อนที่บ้านต่างจังหวัด 
ก้าวที่ทำให้เราเห็นว่างานที่เราไม่ไฝ่ฝันในวัยเด็กจะทำให้เรามีความสุขและสนุกกับเพื่อนๆ และผู้บังคับบัญชา จากนัก “นักคอมพิวเตอร์ IT” ผ่านประสบการณ์การทำงานมา เกือบ 15 ปี ต้องมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ในตำแหน่งที่ไม่คาดคิดและคาดฝันเลย “นักวิทยาศาสตร์” ทำงานได้แค่ 5 เดือน ทำให้ผมเองมีความสุขมากกว่า 15 ปีที่ผมทำงานมาด้วยซ้ำ คนรุ่นหลังคนรุ่นใหม่กับเรารุ่นเก่าๆ ความคิดและทัศนคติต่างกันมาก และด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ขึ้นเรื่อยๆ นั้นทำให้เด็กรุ่นใหม่ไฟแรงจะไม่ค่อยให้ใจกับคนรุ่นเก่าๆมากนักจนเป็นที่มาของการเปลี่ยนแปลงในสายอาชีพผมครับ
เพราะเพื่อนร่วมงาน หัวหน้า เจ้านาย และสิ่งแวดล้อมรอบข้าง ทำให้เราอบอุ่น ใต้ปีกฝนหลวงได้สอนสั่งผมให้ผมรักและยินดีที่จะเดินตามรอยของพ่อที่ทำให้เราได้มาช่วยเหลือเพื่อนพ้องน้องพี่และพ่อแม่พี่น้องเกษตรกรที่รอเราอยู่ใต้ฟ้า ผมมองท้องฟ้าเจอใต้ปีกของฝนหลวงที่ไรมันทำให้ผมมีพลังและมีแรงที่จะก้าวต่อก้าวผ่านสิ่งต่างๆ ไปให้ได้เหมือนกับที่พ่อได้สอนเราและทำให้เราเห็นถึงใต้ฟ้ายังมีปีกฝนหลวงคอยช่วยเราเสมอ สุดท้ายผมเองหวังว่าจะทำให้บทความนี้ที่ผมเองได้เล่าผ่านในวันนี้เองเป็นประโยชน์ต่อคนรุ่นหลังได้เห็นถึงงานที่เราใฝ่ฝันคาดหวังตั้งแต่เด็กอาจจะไม่ใช่ที่สุดสำหรับเราก็ได้ครับ อาชีพที่เราไม่ได้คาดหวังอะไรเลยอาจจะทำให้เรามีความสุข ขอบคุณครับ

เขียนโดย "Owen คนใต้ฟ้าเดียวกัน"

ภาพและวีดีโอ