เปลี่ยนการแสดงผล
#ความรักของแม่
13 สิงหาคม 2564 144 ครั้ง


คำว่าแม่ในความรู้สึกของผมหมายถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่เป็นผู้ให้และเสียสละ คอยปกป้องดูแลให้ความอบอุ่น คำว่าแม่นั้น มีบริบทที่แตกต่างกันไป ยกตัวอย่างเช่นแม่คงคาก็หมายถึงสิ่งที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ที่เป็นทั้งเส้นทางขนส่งอุปโภคบริโภค แม่ธรณีคอยปกปักรักษาพื้นแผ่นดิน และแม่โพสพคอยดูแลอาหารการกิน สรุปได้ว่าคำว่าแม่นั้นเป็นทุกสิ่งที่มีแต่คำว่าให้ และแม่ในชีวิตผม แม่เกิดในครอบครัวที่ยากจนใช้ชีวิตในเมืองหลวง แม่เป็นพี่คนโตได้รับการศึกษาแค่ประถมสี่ ต้องออกจากการเรียนมาทำงานเพื่อเสียสละให้กับน้อง ๆ แต่แม่ผมไม่เคยรู้สึกเสียใจแม่มีความสุขกับชีวิตมาก ๆ แม่เป็นคนจิตใจดีและคิดบวกตลอดเวลา 
        จนถึงวันที่แม่มีความรักและตัดสินใจแต่งงานกับพ่อ พ่อเป็นพนักงานขับรถยนต์ มีลูกชายด้วยกัน 4 คน ด้วยความที่พ่อเงินเดือนน้อย ทำให้แม่ต้องหารายได้เพิ่มเพื่อช่วยค่าใช้จ่ายให้กับครอบครัว แม่ผมผันตัวเองมาเป็นแม่ค้าส้มตำ และสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น แม่พาผมและพี่อีก 2 คน มาฝากอยู่กับย่าที่ต่างจังหวัดส่วนน้องคนเล็กแม่จะดูแลเอง ตัวผมเองในเวลานั้นไม่เคยเข้าใจแม่ คิดตลอดเวลาทำไมน้องถึงเป็นคนเดียวที่ได้อยู่กับพ่อแม่ได้อยู่ในเมืองหลวง ผมและพี่ ๆ ได้เรียนที่โรงเรียนวัด และช่วงปิดเทอม แม่จะมารับผมและพี่ ๆ เพื่อไปช่วยแม่ขายส้มตำ ต้องตื่นแต่เช้ามืดเพื่อไปตลาดช่วยแม่ถือของ ช่วยแม่เสิร์ฟอาหาร ช่วยแม่ล้างจาน ช่วยแม่เก็บกวาด พอเหนื่อยก็นึกน้อยใจ เพราะเราจนใช่ไหม ปิดเทอมของผมจึงไม่ได้เล่นเหมือนกับเด็กวัยเดียวกัน แต่เมื่อถึงเวลากิน ผมจะลืมความเหนื่อยหมดสิ้นเพราะแม่มักทำเมนูที่ผมชอบ และทุกครั้งแม่จะให้ลูก ๆ กินก่อนเสมอ 
        พอเปิดเทอม ผมกลับมาเรียนที่ต่างจังหวัด ผมจำได้ว่าช่วงชีวิตตอนอยู่ต่างจังหวัด แค่ใครมีรองเท้าแตะใส่ไปเรียนหนังสือถือว่าเท่มากแล้วโครงการอาหารกลางวันไม่ต้องพูดถึงโครงการนมโรงเรียนไม่มีมาให้เห็น ทุกคนต้องนำอาหารมาทานเอง เพื่อน ๆ ส่วนใหญ่ก็จะมีไข่ต้มไข่ทอดหรือปลาทอด แต่อาหารของผมไม่เหมือนใคร แม่จะส่งกุนเชียงปลาหมึกแห้งและหมูหยองมาให้ ณ เวลานั้นผมแค่เข้าใจว่าชีวิตผมเหมาะกับต่างจังหวัดไม่เหมาะกับเมืองหลวง ผมไม่อยากเข้ามาช่วยแม่ขายส้มตำช่วงปิดเทอม 
จนผมจบ ม.3 ผมเลือกเรียนสายอาชีพ และแม่มารับผมให้เข้ามาเรียนในเมืองหลวง และเป็นอีกครั้งที่ไม่เข้าใจว่าแม่จะให้ผมมาเรียนในเมืองหลวงทำไมมันเป็นสังคมที่เร่งรีบซึ่งไม่เหมาะกับตัวผมเลย และจะมีคำพูดจากแม่ บอกผมและพี่ๆ เสมอว่าให้ตั้งใจเรียน พ่อแม่ไม่สมบัติให้นอกจากการศึกษา โตขึ้นจะได้ไม่ลำบากแบบพ่อและแม่ ในวันนั้นผมไม่เข้าใจในคำสอนของแม่ และตัวผมเองก็ไม่ได้เชื่อในสิ่งที่แม่สอน ผมไม่ตั้งใจเรียนอย่างที่แม่หวังและได้สร้างปัญหาให้แม่มากมายจบเกือบจะไม่จบ ปวช. 
        จนวันหนึ่งที่ทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนคือแม่ผมป่วยต้องเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากแม่ใช้ร่างกายหนักมาตลอดชีวิต ผมเห็นแม่ในช่วงเวลาที่แม่เจ็บปวดทรมานจากอาการป่วย และเริ่มเข้าใจทุก ๆ อย่าง ผมมานั่งคิดทบทวน ผมทำพลาดตรงไหน คำสอนของแม่ย้อนมาในสมอง ให้ตั้งใจเรียนนะพ่อแม่ไม่สมบัติให้นอกจากศึกษา จริงทุกประการ ผมไม่เคยรับรู้ความเสียใจความเจ็บปวดที่แม่มี เหงื่อแต่ละหยดพลังกายแต่ละวันที่แม่ตื่นแต่เช้ามืดไปซื้อของมาขายเพื่อให้ได้เงินมาส่งผมเรียน เพราะความคิดขณะนั้นโทษแต่ความจนทำให้ผมเรียนหนังสือแย่โดยไม่หันกลับมามองตัวเอง ผมเข้าใจทุกอย่างที่แม่ทำแม่สอนเพราะความรัก 
        การรักษาตัวของแม่ครั้งนี้ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายมหาศาล จุดเล็กๆนี้เองที่เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมตั้งใจเรียน ผมตั้งใจจะทำความหวังของแม่ให้เป็นจริง ผมทำงานไป เรียนไปจนจบ ปวส. และลงสอบในทุกสนามสอบ ผมใช้เวลาอ่านหนังสือและสอบถึง 10 สนามสอบใช้เวลาเกือบ 4 ปี ทุกครั้งที่ไปสอบแม่จะคอยเป็นกำลังใจให้ผมเสมอ และวันที่ผมสมหวังก็มาถึงผมได้รับราชการ และคงไม่ต้องบอกนะครับว่าแม่ผมจะมีความสุขมากแค่ไหน  
        ทุกครั้งที่มีคนถามแม่ผม แม่ค้าส้มตำคนนี้ว่าลูกชายทำงานอะไร แม่จะตอบดังๆและมีแววตาที่มีความสุขทุกครั้งว่าลูกชายเป็นข้าราชการ เป็นนายช่างไฟฟ้าอยู่กรมฝนหลวงและการบินเกษตร แม่บอกผมว่าสิ่งที่แม่ภูมิใจมากที่สุดไม่ใช่ว่าผมได้รับราชการแต่ท่านภูมิใจในงานที่ผมทำ ทุกครั้งที่มีข่าวการทำฝนหลวง ช่วยเหลือในช่วงวิกฤติต่าง ๆ ไม่ว่าฝนทิ้งช่วงเกิดภัยแล้งเกิดหมอกควัน แม่จะคอยส่งกำลังใจให้ผมและบอกผมเสมอ ฝนตกแน่นอนเพราะเป็นฝนของพ่อ ผมพึ่งเข้าใจว่าความสุขนั้นไม่ได้เกิดขึ้นเพราะรวยหรือจนแต่ความสุขของแม่คือได้เห็นลูกมีอาชีพที่มั่นคงและสามารถดูแลตัวเองและครอบครัวได้ ตัวผมเองจะขอทำหน้าลูกให้ดีที่สุด รักแม่และอยากให้แม่อยู่กับผมและหลานไปนาน ๆนะครับ

เขียนโดย “นายช่างเกเร”

ภาพและวีดีโอ