"แต่เราเชื่อว่าพี่น้องประชาชน ก็คงเข้าใจเรื่องการทำฝนในฤดูแล้งเช่นนี้ การทำฝนไม่ใช่เรื่องง่าย แถมเมฆค่อนข้างที่จะสลายตัวเร็ว"

ตอนที่ผมมาทำงานที่กรมฝนหลวงใหม่ๆ มักจะได้ยิน พี่น้องชาวฝนหลวงพูดว่า นักบินกรมฝนหลวงเนื้อหอม แฟนเยอะ วันนี้ผมหมดข้อสงสัยแล้วครับ หลังจากไหว้วานให้พี่นักบิน ช่วยประสานกับหอบังคับการบิน ที่จะขอบินเข้าใกล้สนามบินมากที่สุด เพื่อช่วยทำฝนให้กทม.

ในที่สุด เราก็ได้รับอนุญาตให้บินได้ใกล้ที่สุดห่างจากสนามบิน 45 ไมล์ ก็ยังดีครับ ถ้าหน่วยทางภาคตะวันออกขึ้นบิน เราก็จะบินเข้ามาได้ถึงแถวๆ อ.บางปะกง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ. ฉะเชิงเทรา และ อ.บ้านนา จ.นครนายก เลยครับ ส่วนถ้าลมเป็นลมทางทิศตะวันตก ก็จะให้ศูนย์ภาคกลางบินมาจากกาญจนบุรี ก็จะบินเข้ามาได้ถึง อ. สามพราน จ.นครปฐม เลยครับ

จะเห็นว่าพี่ๆนักบินเราไม่ได้บินเก่งอย่างเดียว ยังมีรูปเป็นทรัพย์ และมีวาทศิลป์ ทำให้คู่สนทนาด้วยหลงใหลได้เลยนะครับ

นั่นแน่ะอ่านยังไม่ทันจบ!!! รีบไปขยายดูรูปพี่ๆนักบินของผมข้างล่างเลยนะ ถือว่าผมเตือนแล้วนะครับ สาวๆที่อ่านอยู่เนี่ย

การประชุมทางไกล หรือ VDO conference ยังคงดำเนินการเหมือนเดิมทุกวัน ทราบข้อมูลวันนี้ ลมวันนี้ยังเป็นลมตะวันออก เงื่อนไขสภาพอากาศเอื้อต่อการปฏิบัติราวๆ 50% คุณภาพอากาศในเขตกทม.ก็ยังคงค่อนข้าง มีปัญหาต่อสุขภาพประชาชน อย่างไรก็ต้องลองเสี่ยงดู แต่เราเชื่อว่าพี่น้องประชาชน ก็คงเข้าใจเรื่องการทำฝนในฤดูแล้งเช่นนี้ การทำฝนไม่ใช่เรื่องง่าย แถมเมฆค่อนข้างที่จะสลายตัวเร็ว

หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงที่ จ.ระยอง จึงตัดสินใจมีแผนขึ้นบินในการก่อเมฆ ตามแนวจาก อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ไป อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ด้วยเครื่องบิน คาราแวน 3 ลำ บรรทุกสารเกลือแป้ง จำนวน 2 ตัน เช่นเดิม

หลังจากเวลาผ่านไป 1 ชม. เมฆเริ่มก่อตัวและเกาะกลุ่มกันมากขึ้น และลอยไปตามทิศทางลมเช่นเคย ทุกคนก็พยายามลุ้น ทั้งขอความร่วมมือจากพี่น้องอาสาสมัครฝนหลวงในพื้นที่ ช่วยในการถ่ายภาพเมฆ ที่เกิดขึ้นส่งมาให้ทีมงาน เพื่อประเมินสถานการณ์ แต่ถึงอย่างไรเราจะตามเข้าไปเลี้ยงให้อ้วน หรือโจมตี ไม่ได้ เพราะจุดที่เราก่อเมฆถือว่าใกล้ชิด สนามบินที่สุดที่ได้รับอนุญาตแล้ว

หลังจากผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง กลุ่มเมฆเหล่านั้น ก็ค่อยๆเริ่มสลายไป ขณะเดียวกันความหวังของทีมนักล่าเมฆก็สลายไปด้วยเช่นกัน ต่างคอตกหมดสภาพ แล้วในวันรุ่งขึ้นจะรายงานอธิบดีว่าอย่างไรดี แต่อย่างไรก็ตามต่างคนต่างก็ยังให้กำลังใจกันให้สู้กันใหม่

การประชุมทางไกล ก็ยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และเริ่มมีเสียงบ่นกันว่า สภาพอากาศไม่ค่อยเอื้อต่อการปฏิบัติเลย ขณะนั้นทางแอดมินเพจกรม ก็ได้แจ้งมาพอดี

แอดมิน: ท่านอธิบดีค่ะ ตอนนี้มีพี่น้องประชาชนส่งข้อความเข้ามากันมากเลยค่ะ บ้างก็ถามว่าเมื่อไหร่ฝนหลวง จะออกมาช่วยกทม.ไล่ฝุ่น บ้างก็ถามว่าแล้วจะแยกออกได้อย่างไรว่า เป็นฝนที่ฝนหลวงมาช่วย หรือฝนธรรมชาติ มีคำถามอีกเยอะแยะมากมาย หนูไม่รู้จะตอบอย่างไรดีค่ะ

อธิบดี: เฮ้อ!!! ไหนจะต้องหาวิธีทำฝนให้กทม.ให้สำเร็จ ไหนจะต้องพิสูจน์ ให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า เราทำฝนได้จริง และมาช่วยพวกเขาจริง เราจะต้องทำอย่างไรกันดี คนในกทม. ก็มีตั้งหลายล้านคน เพียงแต่ละคนคอมเมนต์มาคนละคำถาม เราคงไม่มีปัญญาตอบแน่ แถมไม่ใช่เฉพาะคนไทยด้วย ยังมีชาวต่างชาติหลายเชื้อชาติด้วย มันช่างกดดันเสียจริง พวกเราชาวฝนหลวง คงต้องมาช่วยกันคิดอย่างเต็มที่แล้วล่ะคราวนี้ว่าจะทำอย่างไรกันดี แต่พวกเราต้องไม่ยอมแพ้ สู้กันต่อไปครับ

แล้วพวกพี่ๆคิดว่าพวกเรา จะทำฝนให้พี่น้องชาว กทม. สำเร็จมั้ยครับ แล้วจะทำอย่างไรให้คนเข้าใจฝนหลวงมากขึ้น พวกพี่ๆมีข้อแนะนำมั้ยครับ เพื่อพวกเราจะได้นำมาแก้ปัญหาต่อไป

#ความพยายามยังได้รับโอกาสเสมอ
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
#โควิด19พวกเราต้องรอด

เขียนโดย "ฟ้าโปรย"