#เล่าเรื่องผ่านภาพประกวด
  ช้างเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีลำตัวขนาดใหญ่แต่ขาและเท้าค่อนข้างเล็ก เวลาก้าวเดินช้างจึงจะต้องเดินด้วยความสุขุมที่จะก้าวพลาดไม่ได้ เลยดูสง่างามมากๆ เวลาช้างย่างก้าวเดิน จนคนโบราณเปรียบเทียบกุลสตรีไทยต้องเดินให้เหมือนดั่งนางพญาช้างเดิน 
  ช้างมีความผูกพันกับชีวิตคนไทยมาตลอด โดยการนำมาฝึกเพื่อใช้งาน ตั้งแต่การลากซุงในป่าในอดีตที่ยังไม่มีถนน และรถยนต์เข้าถึง ใช้เป็นพาหนะเดินทาง ตลอดจนช้างยังเป็นสัตว์คู่บุญบารมีของพระมหากษัตริย์ที่ร่วมรบเคียงบ่า เคียงไหล่กับบรรพบุรุษในการปกป้องรักษาเอกราชมาให้ลูกหลานจวบจนปัจจุบันนี้ เช่น สงครามยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราชาของพม่า ช้างจะต่อสู้กันโดยการใช้งาคู่งามที่แข็งแรงเข้าชนกัน การทำยุตถหัตถีนั้นถ้าช้างตัวไหนใช้งางัดช้างฝ่ายตรงข้ามให้เสียหลักได้ก็จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียเปรียบ เหมือนตอนที่ช้างของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชถูกช้างของพระมหาอุปราชาใช้งาเสยใต้คางจนช้างของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชแหงนหน้าขึ้น พระมหาอุปราชาได้จังหวะจึงเงื้อพระแสงของ้าวเพื่อที่จะฟัน แต่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงหลบได้ พระแสงของ้าวเลยแค่เฉี่ยวพระมาลา(หมวก)ขาดไปเสี้ยวหนึ่ง ต่อจากนั้นช้างของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชตั้งหลักได้ จึงใช้งาเสยช้างพระมหาอุปราชาหงายหลังและในจังหวะนั้นเองสมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ใช้พระแสงของ้าวฟันที่พระอังสะ(บ่า)ขวาของพระมหาอุปราชาจนขาดสะพายแล่งเสียชีวิตบนหลังช้าง การยุทธหัตถีในครั้งนั้นสมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงทรงได้รับชัยชนะด้วยช้างคู่พระบารมี
  ปัจจุบันช้างยังถูกนำมาใช้ประโยชน์มากมายเพราะช้างมีความฉลาด น่ารัก และสง่างามจากผู้พบเห็น สามารถฝึกให้ทำตามคำสั่งของมนุษย์ได้  ตามสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งจึงมีการจัดแสดงโชว์ช้างในการทำตามคำสั่งต่างๆ ซึ่งจะสร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก แม้แต่ภาพยนต์อินเดียในอดีตที่โด่งดังเป็นอย่างมากในเรื่องช้างเพื่อนแก้ว แสดงให้เห็นถึงความฉลาด ความน่ารักของช้างที่ผูกพันกับมนุษย์ ไม่ทราบว่าทันดูกันหรือไม่ครับ ขนาดช้างผูกพันกับคนมาขนาดนี้ น่ารักขนาดนี้ แต่ก็ยังมีคนที่ใจร้ายที่อยู่รอบๆ ป่าสร้างรั้วไฟฟ้า จนได้ยินข่าวช้างป่าถูกไฟฟ้าช๊อตตายบ่อยๆ น่าจะมีวิธีแก้ปัญหาเรื่องการไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกันได้ดีกว่านี้
  คราวนี้ลองมาฟังความอเมซซิ่งของช้างกับชาวเขาเผ่ากระเหรี่ยงปกากญอที่บ้านนาเกียน อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่กันหน่อยครับ  ชาวเขาที่นี่ทำนาขั้นบันได ซึ่งเป็นพื้นที่ค่อนข้างลาดชันและดินค่อนข้างแข็ง จึงได้ฝึกช้างมาใช้ไถนาแทนวัว ควาย และเครื่องจักรซึ่งเป็นที่เดียวในประเทศไทย ถือว่าเป็นสถานที่unseen เลยครับ ถ้ามีโอกาสอย่าลืมไปแวะเที่ยวชมกันนะครับ  ในบริเวณนั้นยังสามารถแวะเยี่ยมชมสถานีเรดาร์ของกรมฝนหลวงได้ด้วยนะครับ ซึ่งมีศาลาที่ประทับและต้นแมกคาเดเมียทรงปลูกของในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชินีในหลวงรัชกาลที่ 9 ให้เยี่ยมชมและเรียนรู้ถึงการทำงานของเรดาร์อีกด้วย ที่สำคัญสามารถแวะชิมกาแฟขี้ช้างอันลือชื่อของ อ.อมก๋อย ได้ด้วยนะครับ ได้ยินมาว่าเด็ดกว่ากาแฟขี้ชะมดเสียอีก แต่สงสารพี่ช้างจังครับคงต้องโดนสั่งให้ขี้บ่อยๆ
  ในปี2558 กรมฝนหลวงและการบินเกษตรได้เริ่มมีโครงการประกวดภาพถ่าย เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ทำการศึกษาเพื่อเกิดความเข้าใจในโครงการพระราชดำริฝนหลวงแล้วถ่ายทอดสื่อสารความรู้สึกเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริฝนหลวงผ่านทางรูปถ่าย 
นายสุกฤษฎิ์ หิรัญสารพงศ์ ได้ส่งภาพชื่อ ไถนา โดยมีแนวคิดว่า "น้ำพระทัยจากพ่อหลวงให้ความสุขแก่ประชาชนดั่งภาพ" สถานที่ถ่ายทำบริเวณ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นภาพถ่ายที่สวยงามมาก และมีความหมายลึกซึ้ง ทำให้คนทั่วไปได้ทราบถึงโครงการพระราชดำริฝนหลวง และวิถีชีวิตของชนเผ่ากระเหรี่ยงปกากญอในพื้นที่อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่อีกด้วย 
  ต้องขอบคุณคุณสุกฤษฎิ์มากๆ ที่สื่อสารเรื่องราวโครงการพระราชดำริฝนหลวงผ่านภาพถ่ายได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยความเข้าใจจริง และคงเป็นความโชคดีของลูกหลานคุณสุกฤษฎิ์ที่จะได้รับฟังเรื่องราวโครงการฝนหลวงของในหลวงรัชกาลที่ 9 จากปากคุณสุกฤษฎิ์เอง แล้วพวกพี่ๆน้องๆเพื่อนๆทุกท่านเห็นภาพนี้แล้วมีความคิดเห็นกันอย่างไรกันบ้างครับ พิมพ์ข้อความมาคุยกันบ้างนะครับเพื่อภาพเหล่านี้จะยิ่งมีความหมายมากขึ้นครับ
  จากภาพที่ผู้ส่งเข้าประกวดนั้นจะเห็นว่าฝนจากน้ำพระราชหฤทัยของในหลวงรัชกาลที่ 9 ไม่เคยเหือดแห้ง ได้โปรยปรายไปทั่วทุกพื้นที่ในแผ่นดินไทยตลอดเวลา โดยไม่มีการเลือกเชื้อชาติ ศาสนา เพราะทุกคนล้วนเป็นปวงชนชาวไทยภายใต้ร่มพระบารมีของพระองค์...
#ยิ่งใหญ่ยิ่งต้องเดินด้วยความสุขุมเยี่ยงช้างเดิน
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"