#เลือกที่จะเป็นผู้นำ
วัฒนธรรมองค์กรของชาวกรมฝนหลวงฯ ตัวแรกคือ L = Leadership การใฝ่ใจเป็นผู้นำ...
ผู้นำก็มีหลายสไตล์ แต่ละสไตล์ก็จะมีทั้งจุดแข็ง และจุดอ่อน ซึ่งจะเหมาะกับแต่ละสถานการณ์ แต่ก็มีจุดหมายเดียวกันคือความสำเร็จ เหมือนอย่างวรรณกรรมจีนที่ชื่อ 3 ก๊ก มี 3 ผู้นำ 3 สไตล์ด้วยกัน
ผู้นำคนแรกคือโจโฉ เป็นผู้นำที่รวบรวมคนเก่งไว้ได้มาก และสร้างขุมกำลังได้แข็งแกร่งมากที่สุดในกลุ่มสามก๊กเนื่องจากเป็นคนนับถือปราชญ์ และนิยมชมชอบคนมีฝีมือ โดยไม่คำนึงถึงพื้นเพเก่าซึ่งอาจจะเป็นศัตรูมาก่อน อีกทั้งเป็นคนกล้าได้กล้าเสีย ทำการณ์รวดเร็วและรัดกุม ด้วยเพราะการรับฟังความเห็นของคนอื่นแล้วนำมาตัดสินใจด้วยตนเองอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถึงแม้บางครั้งจะมีความเห็นอยู่ก่อนแล้วก็ยังมีการปรึกษาหารือกับเหล่าเสนาธิการ จึงทำให้เกิดการตัดสินใจที่รอบคอบ
ผู้นำคนต่อมาคือ เล่าปี่ เป็นคนมีลักษณะโอบอ้อมอารี อ่อนน้อมถ่อมตน และเป็นเชื้อสายของกษัตริย์จึงมีภาพลักษณ์ที่ดีได้รับการสนับสนุนจากประชาชนทั่วไป รวมทั้งคนเก่งจำนวนมากเข้ามาสวามิภักดิ์ เช่น จูล่ง ขงเบ้ง บังทอง ฮองตงและม้าเฉียว ถึงแม้จะเป็นก๊กที่มีกำลังทหารและเขตแดนน้อยที่สุด แต่การบริหารของเล่าปี่จะใช้วิธีการมอบอำนาจให้เหล่ากุนซืออย่างเต็มที่โดยตนเองคอยเป็นผู้ประสานงานให้ งานใดที่กุนซือสั่งการไปแล้วจะไม่มีการขัดขวางจึงทำให้ขุนพลให้ความเกรงใจต่อเหล่ากุนซือ จึงถือเป็นก๊กที่มีขุนพลที่เข้มแข็งและที่ปรึกษาชั้นเยี่ยมเหนือกว่าก๊กอื่น
ผู้นำอีกท่านหนึ่งคือซุนกวน เป็นผู้นำที่สืบทอดอำนาจโดยสายเลือดที่เป็นเจ้าเมืองมาตลอดทำให้มีประชาชนรักใคร่สืบเนื่องกันมา มีอาณาเขตที่มีความเป็นปึกแผ่นมั่นคง และเต็มไปด้วยทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์มากกว่าก๊กอื่น ซุนกวนจะนับถือความคิดผู้อื่นเป็นอย่างมากมักจะมีการปรึกษาหารือจากผู้รู้เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจ ลักษณะเด่นของซุนกวนอีกอย่างคือการรู้จักใช้คน ก่อนจะใช้ใครจะต้องมีการตรวจสอบ หรือคัดเลือกด้วยความรอบคอบอย่างมาก หากระแวงแล้วจะไม่ใช้ คนที่ถูกเลือกใช้แล้วซุนกวนจะไม่ระแวงปล่อยให้ทำงานและรับผิดชอบอย่างเต็มที่
ด้วยเหตุนี้ ขุนนางจึงมีขวัญกำลังใจดีมาก และทำงานอย่างเต็มกำลังความสามารถกันทุกคน
3 ผู้นำ 3 สไตล์ แต่มีบางส่วนที่คล้ายคลึงกัน กล่าวคือ การทำงานที่มีการปรึกษาหารือกันตามรูปแบบการบริหารของตน และการแบ่งแยกการทำงานตามตำแหน่งหน้าที่อย่างชัดเจนถึงแม้จะเป็นผู้นำในวรรณกรรมตำราพิชัยสงครามก็ตามอาจจะนำไปประยุกต์ใช้ในหน่วยงานของท่านก็ได้
ในส่วนของกรมฝนหลวงฯ การปฏิบัติการฝนหลวงเปรียบเสมือนกับการทำศึกเช่นเดียวกันแต่เป็นการทำศึกกับธรรมชาติที่ทำให้เกิดภัยแล้ง ภัยพิบัติต่างๆ ความเป็นผู้นำของคนในองค์กรในแต่ละระดับจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ต้องมีความรอบคอบในการตัดสินใจเช่นเดียวกับผู้นำในวรรณกรรม 3 ก๊ก เพราะการทำงานของกรมฝนหลวงฯนั้นมีทั้งความเสี่ยงสูง ความคาดหวังจากประชาชนสูง และค่าลงทุนในการทำฝนในแต่ละครั้งก็มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเช่นเดียวกัน อีกทั้งสภาพอากาศในแต่ละวันก็มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
การทำงานของชาวกรมฝนหลวงฯ นอกจากจะต้องมีองค์ความรู้เฉพาะด้าน มีการทำงานเป็นทีมที่ดี แล้วการเป็นผู้นำก็มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งตามที่กล่าวมาแล้ว โดยมีลักษณะที่สำคัญคือ ความเชื่อมั่นในตนเอง ความสามารถในการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ ความมีวินัย ซื่อสัตย์ รับผิดชอบต่อหน้าที่ ขยันหมั่นเพียร ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค ริเริ่มงานใหม่ๆ และกล้ายืนหยัดทำในสิ่งที่ถูกต้อง
จะเห็นว่าวัฒนธรรมองค์กรด้านการใฝ่ใจเป็นผู้นำ ของกรมฝนหลวงฯ นั้น ก็เป็นลักษณะของผู้นำที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ ที่จะต้องเอาชนะปัญหาอุปสรรครอบด้านโดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำ และประสบภัยพิบัติต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นที่พึ่งของประชาชนได้สืบไป ซึ่งผู้นำที่ยิ่งใหญ่และเป็นต้นแบบที่ดีแก่พวกเราชาวฝนหลวงก็คือพระบิดาแห่งฝนหลวงของปวงชนชาวไทยนั่นเอง
เขียนโดย "หลงเมฆ"
#ผู้นำดีผู้ตามดีผลสัมฤทธิ์ย่อมดี
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด