เปลี่ยนการแสดงผล
#มากหมอไม่มากความ
9 สิงหาคม 2563 126 ครั้ง

#มากหมอไม่มากความ
  จากหลักทรงงานตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร กษัตริย์นักพัฒนา สู่การพัฒนาที่ยั่งยืนและมั่นคง ด้วยศาสตร์ "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"
ศาสตร์พระราชาดังกล่าวเป็นการศึกษาซึ่งกันและกันให้เข้าใจตรงกันเพื่อนำไปสู่การพัฒนาที่ดี เป็นการสื่อสารสองทางทั้งผู้ให้และผู้รับ โดยผู้ให้ต้องมีความเข้าใจความต้องการของผู้รับ เข้าใจสภาพแวดล้อม สภาพภูมิประเทศ ขนบธรรมเนียมประเพณี ตลอดจนปัญหาต่างๆของผู้รับ ในขณะเดียวกันจะต้องทำให้ผู้รับเข้าใจในเจตนาและผลประโยชน์ที่ผู้ให้จะกระทำ
หากมีความเข้าใจซึ่งกันและกันเช่นนี้แล้วการพัฒนาย่อมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและง่ายยิ่งขึ้น
การปฏิบัติการฝนหลวงนั้นเป็นการปฏิบัติการที่มีผู้เกี่ยวข้องมากกว่าหนึ่งคนและเป็นการปฏิบัติการในลักษณะที่เกิดจากการกระทำของผู้ให้ที่มีต่อผู้รับซึ่งต้องมีความเข้าใจซึ่งกันและกัน
การปฏิบัติการฝนหลวงในแต่ละเที่ยวบินนั้นประกอบไปด้วย นักวิทยาศาสตร์ นักบิน ช่างอากาศยาน ช่างสื่อสารอากาศยาน เจ้าหน้าที่บดโปรยสาร ต่างฝ่ายต่างมีหน้าที่ที่รับผิดชอบแตกต่างกัน แต่ทุกคนมีความสำคัญทั้งสิ้นจะขาดผู้ใดผู้หนึ่งไปไม่ได้ และการทำงานต้องเข้าใจเป็นเนื้อเดียวกัน จะให้นักบินใช้โหมดออโต้ไพลอท แล้วมาช่วยโปรยสารก็คงไม่เหมาะใช่มั้ยล่ะ...
นี่เฉพาะแค่การทำงานบนเครื่องลำเดียวกันนะ จริงๆแล้วการทำฝนในแต่ละครั้งไม่ได้บินแค่เครื่องเดียวจะมีการบินเป็นหมู่ ถ้าเครื่องบินขนาดเล็กจะบินไปด้วยกัน 3 ลำ ถ้าเป็นเครื่องบินขนาดกลางจะบินไปด้วยกัน 2 ลำ ถ้าเป็นเครื่องบินขนาดใหญ่จึงจะบินแค่ลำเดียว การวางแผนและประสานงานระหว่างเครื่องบินแต่ละลำจะมีความสำคัญเป็นอย่างมากเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด
แต่การทำฝนนั้นเปรียบเสมือนเราเป็นผู้ให้ ผู้ที่อยู่ใต้ฟ้าจะเป็นผู้รับ ถ้าเราไม่เข้าใจคนใต้ฟ้า ก็คงสนองความต้องการคนเหล่านั้นไม่ได้ บางคนอาจจะต้องการน้ำ บางคนอาจจะไม่ต้องการน้ำเช่น คนที่อยู่ในพื้นที่เก็บเกี่ยว เราทำฝนลงไปก็จะสร้างความเสียหายต่อผลผลิตของบุคคลเหล่านั้นได้ กรมฝนหลวงจึงมีการพัฒนาเกษตรกรในแต่ละตำบลให้เป็นอาสาสมัครฝนหลวงช่วยรายงานข้อมูลภาคพื้นในบริเวณพื้นที่ที่ตนอยู่และใกล้เคียงเพื่อใช้ประกอบการวางแผนการทำฝนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ส่วนงานสายสนับสนุนหรือที่เราเรียกกันว่าพวกแบคออฟฟิศนั้นก็จะมีงานที่ต้องประสานสัมพันธ์กันตั้งแต่ขบวนการที่ได้มาซึ่งงบประมาณ การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง การเบิกจ่ายเงิน ซึ่งจะมีความเกี่ยวข้องกันทั้งเชิงระเบียบ หลักเกณฑ์ต่างๆมากมาย และบางส่วนต้องทำงานในรูปแบบคณะกรรมการ จึงต้องประสานการทำงานร่วมกันเพื่อให้การส่งต่องานเป็นไปอย่างราบรื่น
กรมฝนหลวงฯยังมีงานวิจัยและความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกและต่างประเทศอีกด้วย เพื่อดำเนินการแลกเปลี่ยนข้อมูล พัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตลอดจนการพัฒนาบุคลากร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดัดแปรสภาพอากาศ โดยจะต้องประสานงานกันอย่างใกล้ชิดเพื่อเลือกใช้ศักยภาพและจุดแข็งที่แต่ละหน่วยงานมีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในงานวิจัยทั้งเงื่อนไขของเวลาและงบประมาณ
จะเห็นว่าการปฏิบัติงานของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ในแต่ละด้านไม่สามารถปฏิบัติได้เพียงลำพังตนเอง จะต้องมีการทำงานเป็นหมู่คณะที่เกี่ยวข้องทั้งบุคคลภายในและภายนอก วัฒนธรรมองค์กรอีกด้านหนึ่งของพวกเราชาวฝนหลวงจึงเป็น การร่วมทำงานเป็นทีม (T : Teamwork and Networking) เพื่อร่วมแรง ร่วมใจ ร่วมคิด ร่วมทำ โดยคำนึงถึงภาพรวมขององค์กร การประสานความแตกต่างของบุคคลและกระบวนการปฏิบัติงานให้เกิดการทำงานอย่างบูรณาการบนพื้นฐานของความไว้วางใจและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
การจะบรรลุวิสัยทัศน์ของกรม"กรมฝนหลวงและการบินเกษตรเป็นองค์กรชั้นนำในระดับโลกด้านการดัดแปรสภาพอากาศตามศาสตร์พระราชาภายในปี 2580 นั้นแค่วัฒนธรรมองค์กร 3 ด้านที่ผ่านมาคือ L:Leadership ใฝ่ใจเป็นผู้นำ E:Expertise มุ่งสู่ความเป็นเลิศ T:Teamwork and Networking ร่วมทำงานเป็นทีม ยังไม่เพียงพอยังมีอีก 3 ด้านที่พวกเราให้ความสำคัญ ซึ่งจะได้มาเล่าให้ฟังกันต่อไป
แต่ที่สำคัญ ณ วันนี้พวกเราต้องน้อมนำศาสตร์พระราชา "เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา"มาประยุกต์ใช้กันอย่างเต็มที่เพื่อประชาชนสืบไป...
เขียนโดย "หลงเมฆ"
#เข้าใจได้งานคาใจเสียงาน
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด

ภาพและวีดีโอ