ย้อนไปเมื่อ 24 กันยายน 2562 การประสานการขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพเกิดขึ้นทันที หลังจากได้เบอร์โทรศัพท์ ของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบ แต่ได้รับคำตอบเช่นเดิมว่าระเบียบจะต้องยื่นเรื่องก่อน 1 วัน แต่ก็อ้อนวอนขอร้องว่าเป็นบุคลากร ของกรมฝนหลวง ขอเป็นกรณีพิเศษได้มั้ย ก็ได้คำตอบว่าไม่ได้ครับ ผมไม่มีอำนาจในการตัดสินใจ แต่ความพยายามในเรื่องนี้ ยังไม่ยอมหยุดครับ 
  ในที่สุด ก็ได้รับความกรุณา ยืดหยุ่นให้ส่งเรื่องได้แต่ต้องภายในเวลาก่อนเที่ยง เพราะทางสำนักพระราชวังต้องมีขบวนการจัดเตรียมพิธีอย่างมาก โอ้ว!!! แค่ภายในเวลาก่อนเที่ยง ตอนนี้แปดโมงกว่าเข้าไปแล้ว ทางโรงพยาบาลตำรวจก็แจ้งว่าจะออก ใบชันสูตรศพได้ราวๆ 11 โมง ทางอ.ไทรโยค ก็ยังยืนยันว่า จะต้องใช้ตัวจริงเท่านั้นใช้สำเนาไม่ได้  พวกเราก็เข้าใจครับ เพราะถ้าเป็นการปลอมแปลงเอกสารขึ้นมา ทางเจ้าหน้าที่อำเภอ ที่ออกเรื่องให้    ก็จะต้องรับผิดชอบอย่างหนัก แต่อย่างไรพวกเรา     ก็ต้องพยายามช่วยกันให้ถึงที่สุดก่อน ในเมื่อความหวังยังมีอยู่ ถึงแม้จะน้อยนิด เวลาประมาณ 8 โมงเศษ จึงตัดสินใจเริ่มออกเดินทางไปยังที่เกิดเหตุ เพื่อจะเก็บข้อมูลและสอบถาม    ผู้เห็นเหตุการณ์ เพื่อจะให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าว และผู้บังคับบัญชาอย่างถูกต้อง แต่ก่อนออกจากที่ทำงาน ก็ฝากพี่น้องครอบครัวฝนหลวงที่กรมให้ดำเนินการเป็น 2 แผน 
แผนที่ 1 อธิบดีจะประสานกับทางอำเภอ ขอร้องที่จะใช้เอกสารชันสูตรศพโดยส่งทางแฟกซ์ แล้วจะรีบนำตัวจริงไปแนบให้ภายในวันนั้น
แผนที่ 2 ใช้เฮลิคอปเตอร์ไปส่งใบชันสูตรศพตัวจริง ที่อ.ไทรโยค ในกรณีที่ทางอำเภอไม่ยอมให้ใช้วิธีการส่งแฟกซ์
ในระหว่างเดินทาง อธิบดีจึงได้โทรหา ผอ.รัฐกร ซึ่งเป็น ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคกลาง ที่ดูแลรับผิดชอบหน่วยกาญจนบุรี ให้ลองไปประสานที่อำเภอเพื่อขอส่งเอกสารทางแฟกซ์ และเอาตัวจริงมาแนบภายในวันนี้ โดยอธิบดีเอาตำแหน่งเป็นประกันได้หรือไม่ หลังจากผอ.รัฐกร ไปถึงที่อ.ไทรโยค และได้คุยหารือกับเจ้าหน้าที่ที่ออกใบมรณบัตร ก็ได้ความว่า ตนเองตัดสินใจไม่ได้ ต้องคุยกับปลัดที่รับผิดชอบเรื่องนี้ แต่โชคช่างบังเอิญครับ ปลัดท่านที่รับผิดชอบเรื่องนี้ได้เดินทางลงพื้นที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน ผอ.รัฐกร  ก็โทรมาแจ้งให้อธิบดี ลองขอความอนุเคราะห์กับท่านปลัดดู การเดินทางเข้าพื้นที่เกิดเหตุ ทางจะไม่ค่อยดี ค่อนข้างลำบาก ต้องใช้รถโฟร์วีล และในพื้นที่เกิดเหตุแทบจะไม่มีสัญญานโทรศัพท์ อธิบดีเข้าไปถึงที่เกิดเหตุก่อนที่ปลัดจะมาถึง
  เมื่อเข้าไปถึงจุดที่เครื่องตก ความรู้สึกจิตใจมันหดหู่อย่างมาก เมื่อเห็นหัวเครื่องบินปักจมลงดินไปเมตรกว่า ในดงไร่น้อยหน่าของชาวบ้าน สภาพเครื่องท่อนท้ายพลิกตลบมาด้านหน้า กลายเป็นเศษเหล็กดีๆ สภาพแบบนี้คนที่อยู่ในลำนี้ไม่มีทางรอดแน่นอน แต่ก็จินตนาการว่าก่อนที่เครื่องจะตก ครูน้อยคงจะพยายามที่ช่วยบังคับให้เครื่องร่อนลงอย่างปลอดภัยอย่างเต็มที่ ด้วยความเป็นนักบินมือหนึ่งของกรม เพื่อหวังที่จะได้กลับไปพบกับครอบครัวอันเป็นที่รักพร้อมลูกศิษย์อีกครั้ง แต่สุดท้ายโอกาสที่จะได้พบ ได้สัมผัสกับครอบครัวอันเป็นที่รักอีกก็ได้จบลง...
  เมื่อสังเกตบริเวณห้องนักบินได้พบตัวเรือนนาฬิกาที่ตกอยู่ ซึ่งน่าจะเป็นของนักบินซันนี่ เพราะเป็นนาฬิกาสไตล์วัยรุ่น เข็มนาฬิกาก็ได้หยุดเดินอย่างนิ่งสนิท ราวกับรู้ว่าเจ้าของก็ได้หยุดหายใจไปด้วยแล้ว...  วินาทีนั้นความหดหู่ใจ ความรู้สึกวังเวง เกิดขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ทำอะไรไม่ถูก ได้เพียงแต่พร้อมใจกันยืนสงบนิ่งไว้อาลัย และแผ่เมตตาให้ดวงวิญญานของทั้งสองท่าน ที่เป็นตำนานของวีรบุรุษนักล่าเมฆของพวกเรา ได้ไปสู่สุคติ สู่ภพภูมิที่ดีด้วยเทอญ... ผ่านไปสักครู่ ก็มีคนชี้ให้อธิบดีดูปลัด คนที่รับผิดชอบเรื่องออกใบมรณบัตร ที่เพิ่งเข้ามาถึงพื้นที่ อธิบดีก็เดินตรงดิ่งเข้าไปหาปลัดสาวท่านนั้น แล้วยกมือไหว้สวัสดี และแนะนำตัวเองว่าเป็นอธิบดีกรมฝนหลวง แล้วก็บอกขอความอนุเคราะห์ เรื่องการออกใบมรณบัตร โดยขอส่งแฟกซ์ใบชันสูตรศพมาก่อน แล้วจะเอาตัวจริงมาแนบภายในวันนี้ ด้วยเหตุผลที่จำเป็น เพื่อขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพได้ทัน โดยจะต้องส่งสำนักพระราชวังภายในก่อนเที่ยงวันนี้ โดยอธิบดีขอเอาตำแหน่งเป็นประกัน และแล้วท่านปลัด ก็พยายามเดินหามุมที่มีคลื่นโทรศัพท์ โชคดีที่มีมุมที่มีสัญญานเพียงขีดสองขีดเท่านั้นในบางช่วง แต่ก็สามารถโทรได้ ท่านปลัดสาวท่านนั้น ก็โทรหาลูกน้องให้ดำเนินการให้ตามข้อตกลง ที่อธิบดีได้พูดคุยด้วย 
  ในความโชคร้าย ที่พวกเราสูญเสียคนที่เรารักไป ก็ยังมีความโชคดี ที่วันนี้อะไรก็ลงตัวไปหมด ที่ได้พบแต่คนดีๆที่เข้าใจ และร่วมช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทำให้กำลังใจเริ่มเกิดขึ้น ความหวังที่จะให้พี่ชายครอบครัวฝนหลวงของเราได้รับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ มันมีความเป็นไปได้สูงขึ้นแล้ว  
ขณะที่พี่ๆน้องๆในกรม ก็รีบช่วยกันดำเนินการจัดเตรียมพิธีศพที่วัดบ้าง น้องบางคนก็ต้องวิ่งเอาใบชันสูตรศพตัวจริงมาส่งที่ อ.ไทรโยค พี่น้องบางคน ก็ยังพยายามอยากให้พี่ชายและน้องชายของพวกเรา ได้รับอนุญาตใช้ธงชาติคลุมศพ โดยจะต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงมหาดไทย ในวันนั้นทุกคน ต้องแบ่งงานกันทำ กันอย่างเต็มที่ด้วยความฉุกละหุก 
  พิธีรดน้ำศพหรือพิธีน้ำหลวงอาบศพ จะเกิดขึ้นในตอนเย็น ทำให้การเก็บข้อมูลในพื้นที่ การสัมภาษณ์คนที่เห็นเหตุการณ์ จึงจะต้องรีบดำเนินการให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อจะได้รีบกลับไปให้ทันการร่วมพิธี โดยหวังว่าจะได้เห็นพิธีน้ำหลวงอาบศพ และได้เห็นธงชาติคลุมศพ เพื่อให้สมเกียรติ กับพี่ชายอันเป็นที่รักของครอบครัวฝนหลวงของเรา ที่ทุ่มเทการทำงานมาทั้งชีวิตเพื่อช่วยเหลือประชาชนไม่ให้ขาดแคลนน้ำโดยไม่เคยบ่นเหนื่อย หรือย่อท้อสักครั้งให้เคยได้ยิน ให้เคยได้เห็น... ในขณะที่ทุกๆท่านในที่นี้ พร้อมนักข่าวคงรอฟังสาเหตุที่เครื่องบินของกรมฝนหลวง เกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้ กันอย่างแน่นอน พรุ่งนี้จะมาเล่าให้ฟังต่อครับ...
#ความศรัทธาในตนเองเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
#SaveThailand
#SaveRainmakingTeam
#Saveบุคลากรทางการแพทย์
#แล้งนี้ต้องรอด
#โควิด19พวกเราต้องรอด
.
เขียนโดย "ฟ้าโปรย"