เปลี่ยนการแสดงผล
#จดหมายถึงพ่อ (10)
11 ตุลาคม 2563 138 ครั้ง
#จดหมายถึงพ่อ (10)
หากท่านผ่านมาเห็นจดหมายฉบับนี้เข้า ผู้เขียนอยากขอให้ท่านลองหลับตาข้างขวาก่อนที่จะเริ่มอ่าน และขอให้ท่านลองอ่านจดหมายนี้ด้วยตาซ้ายเพียงข้างเดียวจนจบด้วยจิตใจที่เด็ดเดี่ยวที่จะไม่ลืมตาขึ้นเสียก่อน 
หากจะกล่าวถึงนิยามของคำว่า ‘พ่อ’ นั้น  หลายคนคงนึกถึงผู้ให้กำเนิด ผู้อุปการะเลี้ยงดู อบรมสั่งสอน  ให้เราเป็นคนดี เป็นกำลังใจในวันที่เหนื่อยล้า เราเองก็มีมโนทัศน์เช่นเดียวกับท่าน และ ‘พ่อ’ ที่เรานึกถึงเสมอนั้น  มีถึง 3 คนทีเดียวที่มีส่วนสนับสนุนและผลักดันให้เราก้าวไปสู่จุดหมายทั้งทางตรงและทางอ้อม 
คนที่หนึ่ง คือ พ่อผู้ให้กำเนิด : ถ้าไม่มีพ่อให้เลือดเนื้อมา ป่านนี้ลูกอาจยังต้องล่องลอยอยู่ที่ไหนสักที่ ไม่ได้มีโอกาสมารัวคีย์บอร์ดอยู่แบบนี้แน่ๆ พ่อในความทรงจำของลูกเป็นคนใจดี มุกตลกเยอะ ดุบ้างเป็นบางครั้ง แล้วก็ใจดีเหมือนเดิม ลูกก็เลยไม่ค่อยกลัวเท่าไร  และทุกความสำเร็จแต่ละช่วงของชีวิต ลูกไม่เคยลืมเลยว่ามีพ่อเป็นผู้ช่วยสำคัญเสมอ 
สอง คือ พ่อผู้ชี้ทางธรรม : ตอนที่ลูกเกิด พ่อกับแม่ได้อุ้มลูกตอนที่ยังแบเบาะไปกราบหลวงพ่อที่ พ่อของลูกเป็นลูกศิษย์มาตั้งแต่เด็ก หลวงพ่อได้บอกให้พ่อกับแม่ยกลูกให้เป็นลูกท่าน และได้ฝากให้พ่อกับแม่ช่วยเลี้ยงดูลูกแทน หลวงพ่อบอกว่าทำแบบนี้แล้วจะดี ลูกจะไม่ดื้อ ... ตั้งแต่ลูกจำความได้ แม่ก็มักจะสอนให้สวดมนตร์ นั่งสมาธิเสมอ เริ่มมาจากเทคนิคง่ายๆ คือให้นับ 1 - 10 ในใจ แล้วค่อยๆเพิ่มไปเรื่อยๆ ต่อมาก็ให้ลองเปลี่ยนเป็นภาวนาพุท - โธ แทน โดยบอกว่าหลวงพ่อก็สอนแม่มาอีกที และให้แม่มาสอนลูกต่อ แม้ต่อมาหลวงพ่อจะมรณภาพไปตั้งแต่ลูกอายุ 10 ขวบ แต่แนวทางคำสอนของหลวงพ่อก็เป็นสิ่งที่ลูกยึดถือเสมอมา 
สาม คือ พ่อผู้เป็นแรงบันดาลใจ : พ่อของผู้เขียนคนนี้คือพ่อของแผ่นดิน หรือก็คือในหลวง รัชกาลที่ 9 ของเรานั่นเอง ‘พ่อ’ ตั้งใจทำงานมาตลอดชีวิตของท่าน หลายคนอาจจะลืมไปแล้วหรือไม่เคยทราบเลยว่า  ท่านเคยประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อ พ.ศ. 2491 ที่สวิตเซอร์แลนด์ ทำให้สูญเสียพระเนตรข้างขวา   ซึ่งขณะนั้นท่านมีพระชนมายุราว 20 พรรษา เท่านั้นเอง และนับจากนั้นก็ต้องทรงงานด้วยพระเนตรซ้ายเพียงข้างเดียวมาตลอดตราบจนวันสุดท้าย วันที่ผู้เขียนได้รู้เรื่องนี้ก็ถึงกับอึ้งไปครู่หนึ่งเลย ไม่คิดว่าพ่อจะต้องลำบากมากขนาดนี้ และเรื่องนี้เองที่เป็นแรงบันดาลใจสำคัญของผู้เขียนในยามที่รู้สึกท้อแท้ เวลาที่ผู้เขียนต้องการกำลังใจเพื่อจะทำบางสิ่งบางอย่าง ก็จะนึกถึง ‘พ่อ’ คนนี้ เพราะแม้มีเพียงพระเนตรข้างเดียว ท่านยังมีความอดทนและความพยายามในการสร้างสรรค์โครงการดีๆเพื่อประชาชนได้มากมาย ในขณะที่เรายังมีสองตา ยังมีแรงกาย เราก็ควรขยัน อดทน พยายาม มิใช่หรือ ... เท่านั้นแหละ พลังใจก็มาเกินร้อย ที่ผู้เขียนอยากให้ท่านผู้อ่านลองอ่านจดหมายนี้ด้วยตาข้างเดียวในตอนแรก ก็เพราะอยากให้ทุกท่านเข้าใจว่าการทำงานด้วยตาเพียงข้างเดียวนั้นมีความไม่สะดวกอย่างไร เผื่อวันใดที่รู้สึกท้อ จะได้รู้ว่า ‘พ่อ’ อดทนกว่าเราเยอะเลย เพราะพ่อใช้เพียงตาซ้ายทำงานเพื่อชาติไทยมาตั้งหกสิบกว่าปี ฉะนั้น เราจะท้อไม่ได้แล้วล่ะ จริงไหม ... 
แม้วันนี้พ่อจะไม่อยู่แล้ว แต่พ่อก็ยังเป็นแรงบันดาลใจสำคัญของเราเสมอ พ่อไม่เคยบอกให้พวกเรารักพ่อ แต่บอกให้พวกเราทุกคนรักและสามัคคีกัน ขอให้พ่อวางใจ พวกเราจะรักกันให้มากๆ เหมือนตอนที่พ่อยังอยู่ และเราจะช่วยกันนำพาประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปให้เป็นดังที่พ่อหวัง
เขียนโดย "ฟ้าใส"
ภาพและวีดีโอ