#จดหมายถึงพ่อ (14)
“ ความรักของพ่อหลวงอยู่รอบตัวเรา”
  จดหมายน้อยฉบับนี้เขียนถึงพ่อที่อยู่บนฟ้า เพื่อจะบอกให้พ่อได้รับรู้ว่า   4  ปีที่พ่อจากไป ลูกหลานไทยต่างคิดถึง”พระบิดาแห่งฝนหลวง”  ในหลวงของคนไทยทุกคนทั้งในยามที่ฝนตกและในยามที่ฝนไม่ตก  ทั้งยามแดดออกหรือครึ้มเมฆฝน  ทั้งยามน้ำท่วมและยามน้ำแล้ง   และในยามที่ทุกข์ยากที่สุด ภาพของพ่อก็จะเข้ามาเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกๆลุกขึ้นสู้ใหม่  โดยมีตัวอย่างจากความเพียรที่พ่อสอน เป็นธงนำไปสู่ความสำเร็จ 
  “ คนเราทำอะไรต้องมีความเพียร ขอจงมีความเพียรที่บริสุทธิ์ ปัญญาที่เฉียบแหลม กำลังกายที่แข็งแรง” พระราชดำรัสที่ทรงให้ไว้กับคนไทยผ่านบทพระราชนิพนธ์ พระมหาชนก เมื่อปี  2539   ตอกย้ำว่างานทั้งหลายจะสำเร็จได้ด้วยความเพียร  และคำนี้เองลูกเชื่อว่าเป็นธงในใจของทุกคน   โดยเฉพาะคนเล็กๆกลุ่มหนึ่งกำลังทำงานที่ยิ่งใหญ่ คือทีมฝนหลวง ที่หลอมใจเป็นหนึ่งเดียว เพื่อนำพาเครื่องบินมหัศจรรย์บรรทุกสารฝนหลวงหรือเกลือแป้งขึ้นปฏิบัติการทำฝนตามขั้นตอนของศาสตร์พระราชาฝนหลวงอย่างมิรู้เหนื่อย     เพื่อให้ฟ้าโปรยฝนลงมาสร้างความชุ่มชื้นแก่แผ่นดินไทยที่พ่อสร้างไว้ด้วยความรัก 
4 ปีที่พ่อจากไปมีหลายสิ่งที่เกิดขึ้นค่ะ   โดยเฉพาะความปลื้มปีติในหัวอกคนไทย  เมื่อในหลวงรัชกาลที่  10 ท่านทรงประกาศสืบสาน รักษา ต่อยอด งานพระราชดำริ เพื่อให้ดียิ่งๆขึ้น ในส่วนของกิจการของกรมฝนหลวงฯ ลูกได้รับทราบข่าวว่าได้ทรงมีพระเมตตาให้องคมนตรีมาช่วยติดตามงานในกรมฝนหลวงและการบินเกษตรเพื่อทำงานต่างพระเนตรพระกรรณ  ช่วยแก้ไขอุปสรรคปัญหาเพื่อให้สามารถทำงานได้ลุล่วง  และปฏิบัติการทำฝนได้สำเร็จดับทุกข์ปวงประชา   ขณะที่กรมฝนหลวงฯซึ่งเป็นกรมที่ตั้งขึ้นมาด้วยน้ำพระทัยจากความรักของพ่อหลวง ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีในการทำฝนเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุดท่ามกลางความท้าทายจากภาวะโลกร้อน อาทิ  การพัฒนาสารฝนหลวงทางเลือกเพื่อต่อยอดการทำฝนสู้กับภาวะโลกร้อนที่ส่งผลต่อความชื้นสัมพัทธในอากาศที่ต่ำกว่า 60 เปอร์เซ็นต์    การพัฒนาระบบช่วยจำรูปแบบเมฆฝนด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์(เอไอ)    การพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ(ยูเอวี) การพัฒนาการทำฝนหลวงทั้งในเมฆอุ่น เมฆเย็นด้วยจรวดฝนหลวง พลุสารฝนหลวงเป็นต้น ร่วมถึงทำงานเพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางดัดแปรสภาพอากาศด้วยศาสตร์พระราชา โดยร่วมมือกับเครือข่ายทั้งสถาบันการศึกษาและหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานราชการ เอกชน  ร่วมถึงการสร้างเครือข่ายภาคประชาชนในรูปของอาสาสมัครฝนหลวงทั่วประเทศ
  พ่อคะ คนไทยในช่วง  1-2 ปีที่ผ่านมาเจอสารพันภัย หลายเมืองกลายเป็นเมืองในฝุ่นพิษ นอกจากนั้นเรายังเจอปัญหาภัยแล้ง เราเจอน้ำท่วมซ้ำซากเหมือนครั้งที่พ่อยังอยู่กับเราค่ะ  ท่ามกลางความอึดอัดและวิตกสารพัน  พวกเราต่างคิดถึงพ่อ เพราะล้วนตระหนักดีว่า ที่ผ่านมาในยามวิกฤติพ่อจะหาทางออกให้เสมอ และเหมือนใจถึงใจ  ในบางช่วงเวลาที่กังวลเรื่องแล้งหรือฝุ่น  เราจะเห็นเครื่องบินฝนหลวงขึ้นบิน เหมือนนึกถึงพ่อ พ่อก็มา นึกถึงในหลวง  ฝนหลวงก็มา    เครื่องบินขาว-เขียว ดูไร้พิษสง กำลังขึ้นบินโปรยสารฝนหลวงที่ทุกสูตรเกิดขึ้นจากความเพียรและพลังรักที่ยิ่งใหญ่ที่พ่อมีต่อลูกหลานชาวไทย  บินสูงขึ้นๆไปเพื่อสร้างแกนเมฆ  ก่อกวนเมฆ และเลี้ยงเมฆให้อ้วน ก่อนโจมตีให้เมฆกลายเป็นฝน    ในการทำฝนแต่ละครั้งอาจสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง  แต่ลูกหลานไทยสัมผัสได้ถึงพลังของความรักและความปรารถนาดี ที่ต้องการให้ภารกิจของพ่อสำเร็จช่วยบรรเทาความทุกข์ของใจชน ไม่ว่าจะคลายแล้งหรือลดฝุ่น เพราะเชื่อว่าทุกคนล้วนสำนึกในคำที่พ่อฝากไว้คือ “ความทุกข์ของประชาชนรอไม่ได้”
  พ่อคะ  4ปีที่พ่อจากไป คนไทยทุกคนต่างน้อมนำแนวพระราชดำรัส มาเป็นแนวทางในการทำงาน แนวการปฏิบัติตัวในทุกระดับลดหลั่นหนักเบากันไปตามเท่าที่จะสำนึกได้   4 ปีที่พ่อไม่อยู่ จึงเป็นเพียงการจากทางกายเท่านั้น  เพราะในจิตในใจของลูกหลานไทยทุกคน  ลูกมั่นใจว่า ต่างสัมผัสได้ว่า ท่ามกลางแสงแดด แสงจันทร์  อุ่นไอดิน หรือสายฝน  แผ่นดินไทยแห่งนี้ยังอบอวลไปด้วยความรัก ความเมตตาของพ่อหลวงที่มีต่อคนไทยทั้งปวงเป็นนิจนิรันดร์ เพราะความสุขของพ่อคือการได้อยู่ท่ามกลางชาวไทยทั้งปวง.
คิดถึงพ่อทุกวันค่ะ
เขียนโดย “ คิวมูลัส”