เปลี่ยนการแสดงผล
#จดหมายถึงพ่อ (51)
26 พฤศจิกายน 2563 238 ครั้ง
#จดหมายถึงพ่อ (51)

12 ตค 63

สวัสดีครับ อาปา

  พรุ่งนี้ก็จะครบ 4 ปีแล้วที่ในหลวง ร9 ที่อาปาเคารพรักและเทิดทูน ได้จากคนไทยทุกคนขึ้นไปอยู่บนฟ้า ตั้งแต่เด็กๆ ผมจำได้ว่า อาปาจะสอนให้เราพี่น้องสามคนได้มีความกตัญญูรู้คุณคนที่ให้ความช่วยเหลือพวกเราเสมอ อาปาเล่าว่า อาปาเป็นคนจีนอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านแต้จิ๋ว มณฑลซัวเถา จีนแผ่นดินใหญ่ที่หนีความลำบากยากเข็ญมาพึ่งใบบุญของแผ่นดินไทย เมืองจีนตอนนั้นลำบากกันมากเหลือเกิน ได้กินแต่เผือกต้มคลุกกินกับข้าว คนจีนรุ่นนั้นเลยหนีมาตายดาบหน้า ข้ามน้ำข้ามทะเลมาอยู่เมืองไทยแทน พอเรือมาเทียบท่าแล้วก็มุ่งหน้ามาหาที่พำนักบ้านอาม่าท่านหนึ่งแถววัดดวงแข หัวลำโพง ตอนที่ผมอยู่ป3 ก็ได้มาเที่ยวกรุงเทพ กับอาปา อาปาก็พาไปกราบอาม่าท่านนี้ก่อนเลยเพื่อให้รู้สำนึกบุญคุณของอาม่าที่ได้ช่วยเหลืออาปาและญาติๆ ได้มีที่พักอาศัย มีข้าวกินตอนที่ยังหางานทำยังไม่ได้ จนกระทั่งอาปาได้งานกุลีแบกผ้าในสำเพ็ง จึงได้มาหาบ้านเช่ารวมอยู่กันญาติๆ แถวสามยอด

  จากนั้นอาปาก็ได้เริ่มเรียนรู้วิชาการทำมาค้าขายรวมถึงการเรียนภาษาไทยเพื่อออกไปค้าขายเอง ในช่วงแรก อาปาได้ดั้นด้นไปค้าขายถึงเบตง แล้วก็ย้อนกลับขึ้นมาทางเหนือ จนกระทั่งมาเจออามาที่เป็นแม่ค้าขายผ้าเหมือนกันในตลาดเมืองเชียงราย และได้ตกหลุมรักกันจนตกลงปลงใจที่จะสร้างครอบครัวกันที่นี่

  สมัยผมยังเด็กๆ อาปาจะเล่าเรื่องความลำบากในประเทศจีนให้ฟังบ่อยมาก และจะสอนให้พวกเราให้รู้สำนึกพระคุณของแผ่นดินไทยและในหลวงที่ให้โอกาสอาปาได้มีชีวิตใหม่ที่เป็นสุข เสียดายที่ตอนนั้นผมยังเด็ก ยังห่วงเล่นอยู่มาก ก็เลยไม่ได้ซักถามเรื่องราวชีวิตของอาปาตอนที่อยู่เมืองจีนสักเท่าไหร่ ในตอนเด็กๆ นั้น อาปาจะปลูกฝังให้พวกเราสามคนรักการอ่านหนังสือโดยการให้เงินพวกเราอาทิตย์ละ 1 บาท ให้ไปซื้อการ์ตูนอ่าน พร้อมกับสั่งหนังสืออย่าง "เด็กก้าวหน้า" มาให้เราอ่านเป็นประจำ ซึ่งเป็นหนังสือที่ดีมาก ทั้งเล่มมีการ์ตูนอยู่หน้าเดียว ส่วนที่เหลือก็เป็นเนื้อหาวิชาการความรู้ต่างๆ หรือ วรรณคดี ถ้าตอนนั้นผมไม่มัวไปอ่านหนังสือที่ตัวเองซื้อเองอย่างเบบี้ หนูจ๋า ผมคงเก่งกว่านี้เยอะ

  เมื่อโตมา อาปาก็อยากให้ผมไปเรียนหมอ แต่ผมก็ขัดใจอาปาที่ไม่ได้เลือกเรียนคณะนี้ เพราะใจชอบทางศิลปะมากกว่า ความรู้สึกผิดบาปเล็กๆ นี้ก็อยู่ในใจผมมาตลอด ผมอยากมาขอโทษอาปาในวันนี้ด้วยที่ไม่ได้เลือกเรียนในคณะที่อาปาอยากให้ผมเรียน แต่อย่างไรก็ดีสิ่งที่ผมได้ทำให้อาปา ก็คิดว่า อาปาคงไม่ผิดหวังเท่าไหร่เนาะ เพราะเห็นอาปาพูดถึงลูกคนนี้กับเพื่อนๆ ด้วยความภาคภูมิใจ อีกสิ่งหนึ่งที่ผมได้ตัดสินใจเองและไม่ได้บอกอาปาก่อนก็คือการตัดสินใจเข้ารับราชการ เพราะกลัวว่า อาปาจะให้ผมไปค้าขายหรือทำงานเอกชนเหมือนลูกคนจีนทั่วไป

  แต่เมื่อบอกให้อาปารู้ว่า ผมจะมาทำงานรับราชการเพราะว่าอยากทำงานช่วยในหลวง อาปายิ้มแย้มด้วยความยินดีเพราะคงรู้ว่า สิ่งที่อาปาสอนไว้ไม่สูญเปล่าแล้ว มีอยู่คราวหนึ่งที่ผมกลับไปบ้านไปบอกอาปาว่า ผมมีโอกาสที่จะได้ไปทำงานในโครงการก่อสร้างสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม( สะพานภูมิพลปัจจุบัน) ซึ่งเป็นโครงการพระราชดำริของพระองค์ท่านที่จะแก้ไขปัญหาจราจรในกทม และสมุทรปราการ อาปาก็จะถามถึงเสมอว่า ได้ไปทำงานนี้หรือยัง ซึ่งเรื่องนี้ก็กลายเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าเสียใจและเสียดายสำหรับผมและอาปา ที่สุดท้ายผมไม่ได้รับโอกาสเข้าไปร่วมทำงานในโครงการนี้

  จากนั้น อาปาก็ได้จากผมไปเมื่อเช้าวันที่ 5 พฤษภาคม ปี พศ 2546 ผมไม่แน่ใจว่าเป็นไปโดยความบังเอิญหรือตั้งใจ แต่พี่สาวบอกผมว่า อาปารักในหลวงมาก เลยเลือกที่จะไปในวันนี้ นั่นทำให้ผมยิ่งมีความตั้งใจที่จะทำงานถวายพระองค์ท่านมากขึ้น แล้วโอกาสผมก็มาถึง ผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายงานโครงการก่อสร้างถนนเข้าพื้นที่โครงการหลวงให้ผมดูแลเป็นเส้นแรกคือโครงการหลวงห้วยน้ำขุ่น ซึ่งจากการไปสัมผัสกับชาวบ้านที่นั่น เค้าดีใจมากๆ เพราะเค้ารอคอยมากว่า 30 ปีที่จะได้ถนนดีๆ เช่นนี้ จากนั้นก็มีโครงการแบบนี้มาให้ดูแลอีกเรื่อยๆ จนถึงโครงการในพระราชดำริลำดับสุดท้ายของพระองค์ท่านคือโครงการหลวงเลอตอ ที่จังหวัดตากและเชียงใหม่

  ผมอยากจะบอกอาปาในวันนี้ว่า ผมได้ทำงานถวายพระองค์ท่านอย่างที่อาปาอยากจะเห็นแล้ว ถึงแม้จะเป็นเพียงโครงการเล็กๆ แต่ผมก็ทำด้วยความตั้งใจ และประชาชนได้ประโยชน์อย่างที่พระองค์ตั้งพระทัยไว้

  จนกระทั่ง อามาได้จากพวกเราไปหาอาปาเมื่อเดือน กพ ปีที่แล้ว ผมก็ได้ลาออกจากราชการเพื่อกลับมาอยู่บ้านของเรา และมาทำสวนทำนาโดยพึ่งทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ท่านได้มีพระเมตตาชี้แสงสว่างให้คนไทยทั้งปวง

  อาปาคงเห็นแล้วว่า พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์นั้นช่างใหญ่หลวงยิ่งนัก ทั้งรุ่นของอาปาที่ได้เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ได้มีโอกาสเข้ามาทำมาหากิน เลี้ยงชีวิตตัวเองและครอบครัวได้อย่างมีความสุข ไม่ทุกข์ยากลำบากเหมือนตอนที่อยู่บ้านเกิดเมืองนอน และยังทรงนำทางให้คนรุ่นผมได้เห็นทางรอดในยุคที่โลกมีปัญหาด้านเศรษฐกิจและโรคระบาดใหญ่อย่าง COVID-19 แบบที่ประเทศอื่นหลายๆ ประเทศต้องน้อมนำเอาแนวทางของพระองค์ท่านไปปฏิบัติ ผมเชื่อว่า ทางที่ผมได้เลือกแล้วนี้ จะทำให้ผมและครอบครัวอยู่รอดได้ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ หากมิได้พระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมเช่นนี้แล้ว ผมและคนไทยอีกหลายๆ ครอบครัวคงจะลำบากกว่านี้มากนัก

  สุดท้ายนี้ หากอาปาและอามาได้มีโอกาสได้เข้าเฝ้ารับเสด็จฯพระองค์ท่านที่บนฟ้าโน้น รบกวนกราบทูลพระองค์ท่านว่า ลูกคนนี้จะขอจงรักภักดีพระองค์ท่านกว่าชีวิตจะหาไม่ และจะขอเกิดเป็นข้ารองพระบาทพระองค์ท่านทุกชาติไปครับ

รักและคิดถึงอาปาเสมอครับ

เขียนโดย "แอปเปิ้ล"
ภาพและวีดีโอ