#จดหมายถึงพ่อ (81)

หากมีใครถามว่าในโลกนี้ จะมีกษัตริย์พระองค์ไหนที่รักและห่วงใยประชาชนเสมือนพ่อที่รักและหวังดีต่อลูก ข้าพเจ้าจะตอบอย่างไม่ลังเลใจเลยว่า คือ องค์พระมหากษัตริย์แห่งสยามประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๙ พระผู้ทรงสละความสุขส่วนพระองค์และทรงงานอย่างหนักเพื่อพสกนิกรไทย ได้อยู่ดีกินดี ปกครองไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ด้วยทศพิศราชธรรม ดังปฐมราชโองการของพระองค์ที่ว่า ”เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม”
         ”อันที่มืดมิดย่อมสว่างด้วยแสงแห่งดวงประทีปฉันใด ประเทศไทยย่อมเจริญรุ่งเรืองได้ด้วย  พระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์ราชันฉันนั้น” นับตั้งแต่ที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙เสด็จขึ้นเถลิงถวัลสิริราชสมบัติพระองค์ก็ทรงใส่พระราชหฤทัยในความเป็นอยู่ของราษฎร พระองค์มีพระราชปณิธานอันแรงกล้าที่จะช่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่อาณาประชาราษฎร์อย่าง “เข้าใจ เข้าถึง แล้วจึงพัฒนา” โดยทรงตระหนักว่า ความทุกข์ของพสกนิกร ก็เปรียบเสมือนความทุกข์ของพระองค์เองเช่นกัน พระองค์จึงทรงประกอบ พระราชกรณียกิจนานัปการเพื่อประโยชน์สุขของเหล่าทวยราษฎร์  ทรงมีแนวพระราชดำริในการฟื้นฟูป่า โดยการ “ปลูกป่าในใจคน” คือให้ราษฎรตระหนักถึงประโยชน์ของป่าและอยู่ร่วมกับป่าอย่างพึ่งพาอาศัยกัน  และพระองค์ทรงตระหนักว่า “น้ำคือชีวิต” จึงทรงมุ่งมั่นและทุ่มเทพระวรกายในการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องน้ำทุกแหล่ง เมื่อพสกนิกรประสบปัญหาภัยแล้ง ก็ทรงคิดค้นเทคโนโลยีฝนหลวงหรือการทำฝนเทียม เพื่อให้ราษฎรมีน้ำไว้ใช้ในการเกษตร ทำให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ทูลเกล้า  ถวายพระราชสมัญญานามแด่พระองค์ ว่า “พระบิดาแห่งฝนหลวง”
           ด้านการศึกษา พระองค์ได้มีพระบรมราโชบายมากมาย ที่จะส่งเสริมให้เหล่าทวยราษฎร์ได้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษา เพราะถ้าราษฎรมีการศึกษาที่ดีแล้ว ย่อมส่งผลต่อกรพัฒนาประเทศชาติสืบไป ดังคำกล่าวที่ว่า “การศึกษาสร้างคน คนสร้างชาติ’’ จึงทรงจัดตั้งโครงการการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรครูในชนบท ให้นักเรียนในชนบทที่ห่างไกลได้รับการศึกษาที่ดีเทียม เท่ากับนักเรียนในเมืองพระองค์ได้รับการถวายพระราชสมัญญานามจากกระทรวงศึกษาธิการว่า                      พระผู้ทรงเป็นครูแห่งแผ่นดินโดยแท้
  เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ที่ทรงเป็นดั่งร่มโพธิ์ร่มไทรใหญ่ให้เหล่าพสกนิกรไทยได้พึ่งพระบารมี จากการที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจมากมายอันเป็นประโยชน์มหาศาลแก่ทวยราษฎร์ ถึงเวลาแล้วที่ประชาชนชาวไทยทุกคนควรหันมาร่วมมือผสานใจกันเดินตามรอยพ่อหลวง ด้วยการน้อมนำพระราชกรณียกิจ และพระบรมราโชวาทของพระองค์มาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน เพื่อพัฒนาตนเอง สังคม ประเทศชาติ และได้นำความเจริญสู่สังคมโลกสืบไป

เขียนโดย "กวินนรี"