เปลี่ยนการแสดงผล
#จดหมายถึงพ่อ (87)
31 ธันวาคม 2563 139 ครั้ง

#จดหมายถึงพ่อ (87)

     พ่อครับบางช่วงเวลาของชีวิตในวัยเด็กผมจำไม่ได้ครับ แต่ช่วงเวลาที่ผมจำติดตาอยู่จนทุกวันนี้แม้จะผ่านมาหลายสิบปีก็ตาม เป็นเวลาที่ผมรู้สึกอบอุ่นมีความสุขมากที่สุดเลยครับ ถึงแม้เราจะอยู่บ้านหลังเก่าเป็นบ้านเล็กๆที่ขอปลูกในพื้นที่เช่าของตา 
     ทุกเย็นตอนที่ผมเริ่มเข้าโรงเรียนพอกลับถึงบ้านพ่อก็จะกางโต๊ะที่มีพยัญชนะ ก.ไก่-ฮ.นกฮูก แล้วก็ให้ผมเอาแบบฝึกหัดคัดลายมือออกมากางเพื่อจะจับมือผมหัดเขียนหนังสือ พ่อครับตอนที่พ่อกำมือผมที่ผมจับดินสอเตรียมคัดลายมือผมรู้สึกอบอุ่นมากที่สุด มั่นใจที่สุดที่พ่อจะจับมือผมเขียนหนังสือได้ทั้งๆที่ผมเพิ่งเข้าโรงเรียนวันนี้วันแรก ผมรักพ่อครับ
     พ่อครับตอนนั้นผมไม่ทราบเลยครับว่าจริงๆแล้วพ่อเขียนภาษาไทยไม่เป็น และอ่านภาษาไทยไม่ออกแต่ทำไมมันช่างมหัศจรรย์ขนาดนั้นครับพ่อ พ่อทำให้ผมเขียนหนังสือเป็น อ่านหนังสือออกและส่งผมเรียนจนมีโอกาสได้พบกับพ่อของแผ่นดินในวันที่ผมสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี 
     ผมตื่นเต้นมากเลยครับพ่อ ผมอยากจะหยุดเวลาตรงหน้าพระพักตร์ที่พระองค์ทรงพระราชทานปริญญาบัตรให้ ผมรับงานกำปริญญาบัตรที่พระองค์ทรงตั้งพระทัยพระราชทานให้เพื่อรูปภาพของบัณฑิตแต่ละคนจะได้ออกมาสวยงาม เอามาแนบกับอกด้วยความภาคภูมิใจ ตอนนั้นพ่อกับแม่ยังอยู่ในวัยกลางคนมาร่วมแสดงความยินดีกับลูกคนนี้ที่ได้รับพระราชทานปริญญาบัตรจากในหลวงผู้ทรงเป็นที่รักและเทิดทูนของพ่อและแม่ เราถ่ายรูปเป็นที่ระลึกร่วมกันด้วยความสุขและผมรับรู้ได้ว่าทั้งพ่อและแม่มีความสุขมากในวันนี้ที่แสดงออกทางสีหน้าและรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข ผมอยากจะบอกพ่อครับว่าปริญญาบัตรใบนี้ควรเป็นของพ่อครับเพราะพ่อจับมือผมเขียนหนังสือจนผมสามารถเขียนหนังสือได้ อ่านได้ตามเพื่อนได้ทันครับ
     พ่อครับในวันที่ผมรับพระราชทานปริญญาบัตร ในหลวงได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่พวกกระผมความตอนหนึ่งว่า
"ผู้ที่จะสร้างความสำเร็จในการงานและชีวิตได้แน่นอนนั้น ควรมีคุณสมบัติประกอบพร้อมกันอย่างน้อย ๕ ประการ. ประการแรก ควรจะต้องมีความสุจริต ความมีใจจริง ความตั้งใจจริง ความอุตสาหะอดทน และความเมตตาเสียสละเป็นพื้นฐานด้านจิตใจ. ประการที่สอง ควรจะต้องมีวิชาความรู้ที่ถูกต้อง แม่นยำ ชำนาญพร้อมทั้งมีฝีมือหรือความสามารถในเชิงปฏิบัติเป็นเครื่องมือสำหรับประกอบการ. ประการที่สาม ควรจะต้องมีสติ ความยั้งคิด และวิจารณญาณอันถี่ถ้วนรอบคอบ เป็นเครื่องควบคุมกำกับให้ดำเนินงานไปได้โดยถูกต้องเที่ยงตรงตามทิศทาง. ประการที่สี่ จะต้องมีความรอบรู้มีความสามารถประสานงานและประสานประโยชน์กับผู้อื่นอย่างกว้างขวาง เป็นเครื่องส่งเสริมให้ทำงานได้คล่องตัว และก้าวหน้า. และประการที่ห้า ซึ่งสำคัญที่สุด จะต้องมีความฉลาดรู้ในเหตุในผล ในความผิดถูกชั่วดี ในความพอเหมาะพอสม เป็นเครื่องตัดสินและสั่งการปฏิบัติงานทั้งมวลให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ"
     ช่างเป็นคำสอนที่สุดวิเศษที่ผมได้น้อมนำมาปฏิบัติจวบจนทุกวันนี้ วันที่ผมประสบความสำเร็จในชีวิตราชการตามที่พ่อและแม่ได้ฝันไว้ให้ลูกของพ่อและแม่คนใดคนหนึ่งเข้ารับราชการ และถ้าหากวันใดที่พ่อและแม่จากไปขอให้ลูกได้ใส่ชุดข้าราชการให้พ่อและแม่ได้ดูเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ต้องส่งพ่อและแม่ไปสู่สรวงสวรรค์ แต่ผมยังไม่อยากให้ถึงวันนั้นครับเพราะคงเป็นวันที่ผมคงเสียใจ ขาดที่พึ่งทางใจในยามที่ลูกรู้สึกอ่อนแอ ที่ยังต้องคอยได้รับการโอบกอดจากพ่อและแม่ด้วยความอบอุ่นแห่งพลังเปรียบดั่งร่มโพธิ์ร่มไทรของลูกหลานดังปัจจุบัน
      แต่แล้ววันที่ผมต้องแต่งชุดข้าราชการให้เต็มยศให้สมเกียรติที่ได้เข้ามาเป็นข้าของแผ่นดิน ข้าของพระราชาไปร่วมพิธีถวายความอาลัยเมื่อคราวพ่อของแผ่นดินได้เสด็จสู่สวรรคาลัย เสด็จไปสู่สรวงสวรรค์ชั้นฟ้าอย่างไม่มีวันหวนกลับถึงแม้พวกเราไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น
     วันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๕๒ น. เป็นเวลาที่หัวใจของประเทศไทยหยุดเต้นไปชั่วขณะ พวกเราปวงชนชาวไทยขาดสติ สับสนเหมือนเรือที่กำลังจะอัปปางลงกลางทะเล ในวันนั้นผมได้แอบเห็นน้ำตาของพ่อที่เสียใจที่ได้ยินข่าวว่าในหลวงของพ่อที่เคารพรัก เทิดทูนบูชา และพ่อได้พูดย้ำกับผมเหมือนที่เคยสั่งสอนมาตั้งแต่เด็กว่า"ลูกต้องกตัญญูต่อแผ่นดิน ต้องทดแทนบุญคุณของแผ่นดิน แผ่นดินที่มีพระราชาชื่อว่าภูมิพลอดุลยเดชฯ เป็นแผ่นดินที่มีพระคุณต่อพ่อซึ่งเป็นชาวจีนโพ้นทะเลมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารของพระราชาพระองค์นี้เยี่ยงชาวไทยคนหนึ่งนับว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้อีกแล้ว"
     พ่อครับผมสัญญาว่าผมจะเดินตามรอยเท้าพ่อของแผ่นดิน แบบไม่กลัวเหนื่อย ไม่กลัวเจ็บ อย่างที่พระองค์ทรงเคยปฏิบัติเป็นต้นแบบให้พวกกระผมได้รู้ ได้เห็นตลอดเวลาตอนที่พระองค์ทรงมีพระชนม์ชีพ ผมจะสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่านสืบไปครับ

รักพ่อครับ
" เมฆลายมังกร "

ภาพและวีดีโอ