เปลี่ยนการแสดงผล
"สวรรค์บ้านนอก" เมืองไทยนี้ดี...เรารักเมืองไทย
4 กุมภาพันธ์ 2564 347 ครั้ง
เมืองไทยนี้ดี...เรารักเมืองไทย
แล่นแตร... แล่นแตร่ แต๊ตูแหล่ตูแล่นแตร
เสียงพิณเคล้าแคน ดังโต้งโตดต่งตะแลลิ้แล่นแตร ที่แสนจะม่วนไพเราะ เอิ้นเรียกให้คนหนุ่มสาว ชาวบ้านมาตุ้มมาโฮมฮ่วมบันเทิงกัน ท่ามกลางบรรยากาศบนเถียงนาที่มีสายลมเอื่อยเย็นพัดผ่าน ยามตะเว็นคล้อยบ่าย ท้องฟ้าจะเป็นลายดอกซ่อน ผู้เฒ่าผู้แก่จะลำกลอนทั้งฟ้อนแอ่วใส่แคนดอกสร้อย มีสาวน้อยหนุ่มน้อยนั่งเบิ่ง
นั่งฟังสำเนียงเสียงเพลงบ้านนา โอ้ มันช่างม่วนแท้หนา เฮฮาสุขสันต์ ในคืนเดือนหงาย เป็นค่ำคืนที่งามแท้งามหว่า ท้องฟ้าผ่องเพ็ญช่างงามเด่นดังเช่นสวรรค์ ผู้บ่าวผู้สาวที่หัวใจเหงาๆ มายืนใจลอยชมจันทร์ แลต่างได้สบตาพาใจไหวหวั่น ยิ่งยามยิ้มพริ้มพรายเหมือนชายชวนเช่นให้เห็นใจอ้าย น้องนางจำต้องยอมพลีมอบจิตไมตรีไว้ผูกพันธะหัวใจให้พี่ชายตอบใจน้องยา แล้วหนุ่มบ้านนาได้ให้คำมั่นสัญญาจะมาหมั้นหมาย หลังเก็บเกี่ยวข้าวปีกลาย หนาวลมเดือนอ้ายแต่งงานสร้างฮักคืนและวันของชาวบ้านเฮาไม่เปล่าดาย ทำมาหากินใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ข้าวปลาอาหารหาได้จากท้องนาและป่าเขา เลาะเลียบตามแคบน้ำแคบหนองก็มีของกินเป็นอาหาร ฤดูฝนเก็บเห็ดในโคก ตกเบ็ดจับปลาหาลูกอ็อดตามถ่งนา เก็บหอยตัวมารที่กัดกกข้าวมาจี่สอยก้อยลาบ ฤดูแล้ง ไปขุดปูหากบมาปิ้งหรือทำแกงอ่อม มีเมนูตำบักหุ่งรสเด็ดทั้งเผ็ดและแซ่บ หน้าหนาวก่อไฟผิงและมีข้าวจี่กินเป็นของว่าง

นี่แหละหนาที่เรียกว่า #สวรรค์บ้านนอก เป็นภาพความทรงจำเมื่อหลายสิบปี แต่หลังๆ มานี้ มักจะเห็นเพียงผู้เฒ่าผู้แก่อาศัยอยู่บ้านนอกกับหลานๆ ส่วนคนหนุ่มสาวและวัยกลางคนที่ยังพอมีเรี่ยวแรง ต้องจรจำลาจากไกลเฮือนเพที่เคยอยู่อู่ที่เคยนอน ปะไฮ่ปะนา (ทิ้งไร่ทั้งนา) ย้ายมาอยู่สู้ชีวิตในเมืองใหญ่เพื่อทำมาหากิน
ส่งเงินกลับไปเลี้ยงดูครอบครัว ด้วยดินฟ้าอากาศไม่เป็นใจ ภัยแล้คุกคาม ทำให้สวรรค์บ้านนอกของเราที่เคยฮุ่งเฮือง และอยู่กันอย่างสุขสบายกลายเป็นถิ่นแห้งแล้งขาดความอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย ปีใดที่แล้งหนักมาก หมู่เฮาลำบากถึงขั้นต้องซื้อข้าวกิน แต่ในความโชคร้ายยังมีความโชคดีที่มีโครงการฝนหลวง อันเป็นความหวังให้แก่คนท้องถิ่นที่ไม่เพียงขอฝนด้วยประเพณีแห่นางแมวและจุดบั้งไฟถวายพระยาแถน

นอกจากฝนหลวงจะช่วยให้ผลผลิตทางการเกษตรรอดพ้นจากภาวะภัยแล้ง ประชาชนมีข้าวปลาอาหารแล้วยังช่วยให้คนส่วนใหญ่ที่อพยพจากถิ่นฐานบ้านเกิด ได้หวนคืนสู่เหย้าและใช้ชีวิตอย่างพร้อมเพรียง ทำมาหากินพัฒนาอาชีพทางการเกษตรให้ก้าวหน้า เติมเต็มความเป็นชุมชนให้คึกคักกลับมามีชีวิตชีวาตามวิถีและประเพณีที่มีเอกลักษณ์เช่นเดิม แม้อีสานบ้านเฮาจะเป็นพื้นที่ค่อนข้างแห้งแล้ง แต่เป็นหนึ่งในภูมิภาคที่สร้างชื่อเสียงและรายได้ให้แก่ประเทศด้วยประเพณี อาหาร สถานที่ท่องเที่ยว และสินค้าที่ขึ้นชื่อ ดั่งคำกล่าวที่บอกว่า บั้งไฟคู่ยโสธร ดอกคูนเมืองขอนเป็นของคู่กัน โขงเจียมคู่ดวงตะวัน สะพานไทยลาวคู่เมืองหนองคาย ผ้าไหมคู่เมืองอีสาน (คิดแล้วนั่นฉันจะคู่ใคร ) อีสานยังกว้างไกล ตามฝันไปตะลอนตะลอน...


#เมืองไทยนี้ดีเรารักเมืองไทย
เขียนโดย โสมจันทร์
ภาพและวีดีโอ