เปลี่ยนการแสดงผล
"รักษ์" เมืองไทยนี้ดี......เรารักเมืองไทย
7 กุมภาพันธ์ 2564 300 ครั้ง
#เมืองไทยนี้ดีเรารักเมืองไทย
เมืองไทยเรานี้ แสนดีหนักหนา ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ทำมาหากิน แผ่นดินของเรา ปลูกเรือนสร้างเหย้า อยู่ร่วมกันไป....” ข้อความที่เกริ่นนำตอนต้น เป็นเนื้อเพลงสมัยเก่าที่คนยุคนี้อาจไม่รู้จัก แต่รับประกันได้เลยว่า คนที่มีประสบการณ์ในชีวิตสูง อายุอานามขึ้นต้นด้วยเลข ๔ ขึ้นไป ต้องเคยได้ยินได้ฟังมาบ้าง ไม่มากก็น้อย ท่วงทำนองของเนื้อเพลงไม่มีอะไรมาก ใช้ข้อความสั้น ๆ ไม่กี่ประโยค ร้องซ้ำไปวนมา แต่สื่อความหมายโดยมีนัยสำคัญซ่อนอยู่หลายเรื่อง ทั้งในเรื่องของความอุดมสมบูรณ์ ความสงบสุขของบ้านเมือง ความสมัครสมานสามัคคีของคนในชาติ ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ เมื่อรวมกันเป็นเนื้อเพลงจึงสื่อให้เห็นถึงความน่าอยู่ของเมืองไทย ประเทศที่คนทั้งโลกต่างชื่นชมว่ามีความงดงามทั้งด้านศิลปวัฒนธรรมและความวิจิตรสวยงามของธรรมชาติ ไม่เพียงเท่านั้น 

นอกเหนือจากความงามทางกายภาพที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาแล้ว คนไทยยังมีลักษณะโดดเด่นบางอย่างที่น่าชื่นชม เช่น ความใจดี มีน้ำใจ ชอบช่วยเหลือผู้อื่น เห็นได้ชัดจากหลายกรณีในยามที่ประเทศเกิดวิกฤติ ไม่ว่าจะเกิดพายุ ดินโคลนถล่ม น้ำท่วม โรคระบาด ฯลฯ ทุกคนจะออกมาช่วยเหลือกันแบบไม่แบ่งสีไม่แยกข้าง แต่ที่สำคัญที่สุด พวกเราคนไทยทุกคนต่างรับรู้ได้ว่า ที่ประเทศไทยเราสงบสุข ร่มเย็น เป็นเมืองน่าอยู่อย่างเช่นทุกวันนี้ เกิดจากการทรงงานอย่างหนักของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ เรามีพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงพระปรีชาสามารถด้านการรบ ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา มาจนถึงกรุงรัตนโกสินทร์ จนทำให้เรามีที่อยู่อาศัยอย่างเช่นทุกวันนี้ เรามีพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงพระปรีชาสามารถด้านการค้าและการทูต ที่นำพาประเทศเล็ก ๆ อย่างประเทศไทยไปเจริญสัมพันธไมตรีจนเป็นที่รู้จักในต่างแดน ในนามเรียกขานว่าประเทศสยาม เรามีพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงพระปรีชาสามารถด้านการปกครอง ที่ทรงปฏิรูประบบล้าหลังของประเทศหลาย ๆ เรื่องให้มีความทันสมัย ทั้งระบบคมนาคม ระบบสาธารณูปโภค และระบบสาธารณสุข และสิ่งสุดท้ายที่สำคัญ เรามีพระมหากษัตริย์ไทยที่ทรงพระปรีชาสามารถด้านการพัฒนา ที่ทรงรอบรู้ตั้งแต่เรื่องบนฟ้า ป่า น้ำ ธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์ และทรงเป็นนักพัฒนาและนักวิจัยโดยสัญชาติญาณ

ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี ของการครองราชย์ (๒๔๘๙ – ๒๕๕๙) ทรงเสียสละความสุขส่วนพระองค์ ริเริ่มโครงการพัฒนาในประเทศไทย ๔ พันกว่าโครงการ เป็นบทพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าที่จะหาถ้อยคำใดมาบรรยาย พระองค์ท่านทรงสอนและย้ำเตือนกับพวกเราเสมอว่า โลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา พวกเราต้องตามให้ทันและรักษาสมดุลของทุกเรื่องให้ดี และเครื่องมือที่จะรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการดำเนินการตามวิถีแห่งความพอเพียง คือความพอประมาณ ความมีเหตุผล และต้องสร้างภูมิคุ้มกันในตัวเอง ควบคู่ไปกับการศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม และการมีคุณธรรมประจำใจ มีสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ตนเอง และผู้อื่น 

วันนี้ประเทศไทยเดินทางมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญหลายเรื่อง ทุกความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทำให้อดถามตัวเองไม่ได้ว่าเราจะเปลี่ยนคล้อยตามโลกโดยที่ไม่มองความเป็นไปในอดีตเลย หรือเราจะเปลี่ยนเพื่อก้าวให้ทันโลกแต่ยังคงเอกลักษณ์ของตัวเองไว้ รักษาสมดุลของทุกเรื่องให้อยู่ภายใต้วิถีของความพอเพียงในแบบที่พวกเราเป็น สุดท้ายก็ได้คำตอบว่า ขอเลือกอย่างหลัง เพราะเราคือคนไทย เมืองไทยมีอะไรดี ๆ อีกเยอะที่เราต้องรักษาไว้ 
#เมืองไทยนี้ดีเรารักเมืองไทย
เขียนโดย ธุลีดิน
ภาพและวีดีโอ