เปลี่ยนการแสดงผล
"ไทยนี้รักสงบ" เมืองไทยนี้ดี......เรารักเมืองไทย
10 กุมภาพันธ์ 2564 96 ครั้ง

“เมืองไทยนี้ดี......เรารักเมืองไทย”

        “ประเทศไทย รวมเลือดเนื้อเป็นชาติเชื้อไทยฯ” เป็นคำขึ้นต้นของบทเพลงชาติไทยที่หนูได้ร่วมร้องกับเพื่อนๆในทุกๆวัน ก่อนการเข้าเรียนในช่วงเช้า ซึ่งผมยังไม่ทราบถึงความหมายของบทเพลงนั้นเลย ว่ามีความเป็นมาและความสำคัญอย่างไรต่อคนไทย และยังมางงเกี่ยวกับการท่องบทอาขยานในช่วงบ่ายก่อนทำการเข้าห้องเรียนที่เป็นบทอาขยานที่ขึ้นต้นท่องว่า “คนไทยนี้ดี  เป็นพี่เป็นน้อง เมืองไทยเมืองทอง เป็นของคนไทยฯ”ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ทราบความหมายของข้อความที่สื่อออกมาดังกล่าวเช่นกัน ว่าเพราะเหตุใดจึงต้องกำชับให้คนไทยเรารักกันให้มากๆหรือว่าโบร่ำโบราณในอดีตคนไทยเรานั้นไม่เคยรักกันเลยหรืออย่างไร

        จนพอผมได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมาของประเทศไทยตั้งแต่สมัยก่อนจากการเรียนการสอนของครูประจำชั้น และการบอกเล่าของคุณพ่อคุณแม่ จึงรู้ว่าประเทศไทยนั้นมีมาช้านานแล้ว ผ่านยุคผ่านสมัยมาด้วยกันอย่างหลากหลาย ทั้งสมัยสุโขทัย สมัยกรุงศรีอยุธยา สมัยกรุงธนบุรี จวบจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์  ในยุคปัจจุบัน ซึ่งแต่ละยุคแต่ละสมัยนั้นมีเรื่องราวประวัติความเป็นมาต่างๆนาๆมีทั้งขนบธรรมเนียมประเพณี การละเล่น การสู้รบเพื่อรักษาดินแดนของประเทศไทยไว้อย่างมากมาย มีบุคคลสำคัญที่เกิดขึ้นจากการสู้รบเพื่อรักษาดินแดนผืนนี้เอาไว้ ทั้งที่ได้รับความรู้จากผู้คนบอกเล่า และได้รับความรู้จากหนังจากละครทางทีวีต่างๆที่ได้ถ่ายทอดประวัติความเป็นมาให้คนรุ่นหลังได้ทราบถึงชื่อและวีรกรรมบุคคลสำคัญ ตลอดจนขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม และของเล่นของใช้ การละเล่นในสมัยนั้นให้ได้ทราบ อาทิเช่น ภาพยนตร์เรื่องสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สุริโยทัย บางระจัน นายทองดีฟันขาว ละครเรื่องบุพเพสันนิวาส เป็นต้น ทำให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความสำคัญของบุคคลนั้นๆที่ควรกล่าวถึง อีกทั้งยังได้เรียนรู้และสังเกตถึงการแต่งกายของคนสมัยก่อนอีกด้วยว่า ในการแต่งกายสมัยนั้นก็ไม่ได้แต่งการมิดชิดเท่าที่ควร แต่ก็ไม่มีการละลาบละล้วงต่อสุภาพสตรีแต่อย่างใด จึงทำให้ผมสังเกตว่าใน

        สมัยก่อนคนไทยเราจะให้เกียรติซึ่งกันและกันไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย อีกทั้งเกี่ยวกับการพูดจาสมัยแต่ก่อนก็ใช้ภาษาง่ายๆซึ่งดูเหมือนคำหยาบคายในสมัยนี้ แต่พอดูไปแล้วก็ไม่เห็นว่าจะสื่อความหมายเป็นเรื่องไม่ดีแต่อย่างใด อาจเป็นเพราะว่าการกระทำการปฏิบัติตัวของคนสมัยก่อนนั้นเน้นความจริงใจต่อกันและทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำก็เพื่อความรักความสามัคคีที่มีต่อกัน เพื่อที่จะฝ่าฟันศัตรูที่อยู่ในวันข้างหน้า เพื่อรักษาดินแดนของประเทศไทยไว้ให้ลูกหลานจวบจนมาถึงวันนี้นั่นเอง แต่พอมาดูในสังคมยุคสังคมสมัยปัจจุบันจะเห็นได้ว่า จะมีแต่เรื่องราวที่เกี่ยวกับการทะเลาะเบาะแว้งกันบ่อยครั้ง ซึ่งพอย้อนไปดูเมื่อสมัยโบร่ำโบราณแล้วจะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แสดงว่าคนไทยเราได้ลืมเกี่ยวกับความสมัครสมานสามัคคีของคนรุ่นหลังที่ได้สู้รบปรบมือเพื่อรักษาดินแดนนี้ไว้ จะเห็นได้ว่าการแต่งกายจะดูมิดชิดสะอาดสะอ้านขึ้น การพูดจาจะดูสุภาพขึ้นวาจาอ่อนหวานขึ้น แต่สิ่งที่ขาดหายจากสมัยแต่ก่อนนั้นก็คือ ความรัก ความสามัคคี การให้เกียรติและยอมรับซึ่งกันและกัน และการเห็นความสำคัญของประเทศไทยนั่นเอง

        ผมเป็นคนหนึ่งที่อยากให้ประเทศไทยเรามีแต่ความสมัครสมานสามัคคี ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ยอมรับกันและกัน อยู่กันแบบมีรอยยิ้มให้กันและกัน มีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อกันเหมือนเช่นสมัยแต่ก่อน ความสะดวกความเจริญก้าวหน้าอาจจะมีไม่มาก แต่ถ้ามีตามที่ผมวาดฝันคิดไว้ ความสุขคงอยู่ไม่ไกล อยู่ในประเทศไทยของเรานี่เอง

เขียนโดย "เด็กชายแดน"

ภาพและวีดีโอ