เปลี่ยนการแสดงผล
พลังแห่งรักของพ่อคืออนันตกาล #พลังแห่งความรัก
24 กุมภาพันธ์ 2564 207 ครั้ง
#พลังแห่งรักของพ่อคืออนันตกาล

“ที่ของข้าพเจ้าในโลกนี้ คือ การได้อยู่ท่ามกลางประชาชนของข้าพเจ้า นั่นคือ คนไทยทั้งปวง” อมตะวาจา จากพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9
อิฉันเกิดในรัชกาลที่ 9 และตั้งแต่เกิด ทุกยามหายใจเข้า- หายใจออกก็มีแต่ความสุขใจ อิ่มใจที่มีบุญได้เกิดในแผ่นนี้ แผ่นดินที่ในหลวงทรงงานด้วยความวิริยะอุตสาหะตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ คำถามว่า ในความเป็นมนุษย์หนึ่งคน ทั้งชีวิตทุ่มเททำงานหนักและมากขนาดนี้ได้อย่างไร หากไม่มีพลังแห่งรักและปรารถนาดีอย่างไม่สิ้นสุดเป็นแหล่งพลังใจ
ในความเป็นมนุษย์หนึ่งคน เกิดมาและทำอะไรได้มากน้อยเท่าไหร่.. ใครจะวัด วัดจากอะไร ในเมื่อยามเช้าของเรา ตัวเราเองยังต้องต่อสู้กับความขี้เกียจในการตื่นนอน สลัดความเหมื่อยล้าลงจากเตียงอย่างอยากเย็น.. แต่ในยามนั้น เราจะพบว่า ในหลวงรัชกาลที่ 9 พร้อมพระราชินีและเจ้าฟ้าหลายพระองค์ทรงงานอยู่ในพื้นที่ทุรกันดาร เพื่อเสริม เพื่อสร้างปัจจัย 4 เป็นทุนประเทศให้ประชาชนของพระองค์

ในความเป็นมนุด(ขอเขียนแบบนี้)หนึ่งคน นอกจากงานประจำแล้ว คิดแต่เรื่องกิน-เที่ยว แม้จะก้าวเท้าออกจากบ้านก็กลัวร้อน กลัวเหนื่อย ไปต่างจังหวัดพิชิตดอยเล็กๆด้วยรถ ด้วยจักรยาน เดินต่ออีกนิดหน่อยก็ถึงยอดดอย เพียงแค่หนึ่งดอยสองดอย แต่ถ่ายรูปลงเฟสบุ๊ค ลงไลน์ บอกกล่าวเล่าสิบกับเพื่อนฝูง เล่าบรรยากาศความเหนื่อยยากและความสนุก แต่ๆๆ ก่อนหน้านั้นนานนับหลายสิบปี มีล้นเกล้าของเรา ทรงเดินย่ำเกือบทุกพื้นที่ เกือบทุกดอยของประเทศที่ล้วนทุรกันดาร ทั้งร้อน แล้ง เส้นทางแสนขรุขระ นั่งรถกระโดกกระเดกหลังแทบหัก เสี่ยงตกดอย ตกเฮลิคอปเตอร์ มาก่อนหน้าที่พวกเราจะย่ำรอยถึง ทรงงานต่อเนื่องมายาวนานแสนนาน ตลอดพระชนม์ชีพเพื่อเยี่ยมประชาชน แน่นอนขณะนั้นไม่มีไลน์ ไม่มีมือถือ ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกและเดินทางข้ามวัน แต่ทรงไปทุกที่ที่มีทางและไม่มีทาง เพราะทรงใช้ใจ ใช้น้ำพระทัยที่ห่วงราษฎร์เป็นเครื่องนำทาง
ในความเป็นมนุดหนึ่งคน กินอิ่ม นอนหลับ ถวิลหาเตียงนุ่มๆ ใช้น้ำแบบไม่ยั้งคิด ยิ่งน้ำของคนอื่นเปิดทิ้งกันไม่ยั้ง ขยันกินน้ำไม่ดี ที่มีต้นทุนมาจากน้ำดีในราคาที่แพงแสนแพงและโอ่อวด แต่ในหลวงของเรา พระองค์ลงพื้นที่ถิ่นทุรกันดารเพื่อหาแหล่งน้ำ สร้างแหล่งน้ำ ทั้งบนดิน บนฟ้า สร้างแหล่งต้นน้ำคือป่าใหญ่เพื่อให้ประชาชนมีน้ำเพื่อดำรงชีพและทำกิน เพราะทรงตระหนักดีว่า น้ำคือชีวิต

ในความเป็นมนุดหนึ่งคน ยิ่งคนกรุงเทพฯเมืองคอนกรีต คำถามคือ ใน 1 วัน หรือ 1 สัปดาห์ มีโอกาสเยียบดิน จับดิน พินิจพิจารณาดูดินหรือไม่ บางคนยากที่แยกชนิดดินด้วยซ้ำไป มิพักจะจำแนกได้ว่าดินดีหรือดินเลว และหากดินไม่ดีจะมีทางพัฒนาดินให้ดีขึ้นได้อย่างไร หลายคนอาจไม่เชื่อว่าดินไม่ดีทำให้กลับดีขึ้นมาได้ หากคุณเป็นคนไม่เคยเยียบดิน ไฉนเลยจะซาบซึ้งกับศาสตร์เหล่านี้ แต่...มีหนึ่งบุรุษที่ยิ่งใหญ่ ย่างพระบาทเยียบดินทั่วแผ่นดินไทย ทรงพลิกฟื้นดินเลวให้เป็นดินดีในหลายพื้นที่จนมีตำราแกล้งดิน การรักษาการพังทลายของดินด้วยหญ้าแฝก การพลิกป่าเสื่อมโทรมไร้ต้นไม้จนกลายเป็นห้วยฮ้องไคร้ที่ลือนามกระฉ่อนโลกเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านดินคู่ขนานไปกับศูนย์พัฒนาและพื้นฟูดินหลายสิบแห่งทั่วประเทศจนได้รางวัลนักวิทยาศาสตร์ด้านดินของโลกและองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้วันที่ 5 ธันวาคม เป็นวันดินโลกเพื่อให้คนในโลกตระหนักถึงพระอัจฉริยะภาพของพระองค์และร่วมกันหันมาพัฒนาปรับปรุงดินและรักษ์ดินที่เป็นแผ่นดินแม่ของแต่ละประเทศ

Siam Bioscience นี่ก็อีกหนึ่งตัวอย่างที่ล้นเกล้ารัชกาลที่ 9 ทรงดำริตั้งไว้ให้ คำถามว่า ทำไมทรงพระปรีชา ทรงมีพระเมตตาและมีสายพระเนตรยาวไกล คำตอบหลายคนอาจตอบว่า ทรงเป็นเหมือนเทพ ทรงมีพลังจิต ฯลฯ แต่ในมุมของอิฉันเห็นว่า พระองค์ทรงมองด้วยสายตาของพ่อ ที่เล็งเห็นว่าอะไรที่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิตมนุษย์ และในระยะยาวโรงงานผลิตยาและวัคซีนที่มาจากความรักของพระองค์แห่งนี้ จะเป็นอนาคตอีกหน้าหนึ่งของประเทศไทยฝากไว้ดูแลลูกหลานไทย ให้เป็นไทในด้านยา
ระหว่างทางของความเป็นมนุดหนึ่งคนในแผ่นดินนี้ ทุกคนล้วนออกแบบชีวิตของคนเอง ดีบ้าง ทุกข์บ้างก็ตามประสามนุด อิฉันเองก็สุขใจกับชีวิตที่ออกแบบเอง มีโอกาสทำงานช่วยส่วนรวมบ้างก็ไม่รอช้า อะไรช่วยได้ก็ช่วยทั้งทางตรงและทางอ้อม เพราะทุกคนล้วนพี่น้องกัน การเบาะแว้งเห็นไม่ตรงกันเป็นเรื่องปกติ แต่อิฉันยึดถือว่า แตกต่างแต่ไม่แตกแยกเป็นหลักในการทำงาน การคบเพื่อน ระหว่างทางจะร้อนบ้าง หนาวบ้าง อดบ้าง อิ่มบ้าง สุขทุกข์มากน้อยตามจังหวะชีวิต แต่ก็แปลกอิฉันกลับรู้สึกอุ่นใจ สุขใจตลอดเวลาที่อยู่ในแผ่นดินนี้ นั่นก็เพราะใจของอิฉันตระหนักรู้ดีว่า แผ่นดินที่บรมสุขแห่งนึ้คือแผ่นดินแม่ เป็นมาตุภูมิที่พ่อและแม่ทุ่มเทสรรค์สร้างด้วยพลังแห่งรักของสองพระองค์ และอิฉันก็หวังว่าคนไทยทุกคนจะเห็นพลังแห่งรักที่ยิ่งใหญ่นี้และใช้เป็นธงนำทางในการใช้ชีวิตของทุกๆวัน และช่วยกันรักษ์น้ำ รักษ์ดิน และร่วมกันพัฒนามาตุภูมิของเราให้เจริญงอกงามยิ่งๆขึ้นไป

เขียนโดย "คิวมูโลนิมบัส"
ภาพและวีดีโอ