เปลี่ยนการแสดงผล
#เรื่องเล่าจากคนหน้าห้องตอนที่ 2
31 มีนาคม 2564 157 ครั้ง
เมื่อวานฟังเรื่องคนหน้าห้อง มีวิธีคิด วิธีทำงานอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จที่ดีกันไปบ้างแล้ว วันนี้มาฟังกันต่อดีกว่า เพราะมีเรื่องราวที่ชวนฟังอยู่มากมาย เอ้า!!! มาฟังกันต่อเลย
คุณสมบัติของคนหน้าห้องที่ดีข้อแรกก็คือ มาก่อนกลับทีหลัง...
ข้อต่อไปคือ จะต้องรู้ใจคนในห้องเป็นอย่างดี ประเภทที่ว่ามองตาก็รู้ใจ แถมจะต้องไม่เป็นคนปากโป้ง สามารถที่จะช่วยเก็บความลับของคนในห้องได้ เพราะคนในห้องมักจะไว้ใจคนหน้าห้อง ในบางครั้งจึงจะมีการบ่นหรือสั่งการหรือคุยโทรศัพท์เรื่องสำคัญในขณะที่กำลังพูดคุยเรื่องงานอยู่กับคนหน้าห้องพอดีก็ได้ แต่ในทางที่ดีเวลาคนในห้องพูดสายทางโทรศัพท์ คนหน้าห้องอย่างเราควรที่จะขออนุญาตออกจากห้องมาก่อน หลังจากคนในห้องวางสายแล้วจึงค่อยกลับเข้าไปใหม่ หากอยู่ในระหว่างเดินทางที่นั่งรถคันเดียวกันก็ช่วยไม่ได้ ถ้าเรื่องสำคัญมาก คนในห้องก็ควรบอกทางต้นสายไปว่า"ขณะนี้ไม่สะดวก ขออนุญาตโทรกลับ ก็ว่ากันไป" (ขึ้นกับวิจารณญานของคนในห้องแล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าสอน)
ข้อต่อมาคงจะเป็นข้อสำคัญมากพอสมควรที่คนหน้าห้องต้องมีคือ ไหวพริบปฏิภาณที่ดีเพื่อจะช่วยคนในห้องเอาตัวรอด ก็คือเรื่องการกรองคนที่จะเข้าหาคนในห้อง ไม่ใช่ว่าใครอยากจะนัดหรืออยากจะเข้าพบคนในห้องก็ให้เข้าพบได้หมดไม่มีการกรองเลย หากเจอกรณีพวกเตารีด จะมาขอเงินสนับสนุนโน่น นี่ นั่น มีหวังคนในห้องต้องหมดเนื้อหมดตัวแน่ๆ
อีกทั้งคนในห้องและคนหน้าห้องต้องไม่หวาดระแวงซึ่งกันและกัน ต้องเชื่อใจกัน แต่ตั้งแต่เจ้าโควิด-19 แพร่ระบาดอาจทำให้ต่างฝ่าย ต่างมีความระแวงกันบ้าง เพราะเจ้าโควิด-19 มันไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า และช่วงเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน หมายถึง อยู่ที่ทำงานด้วยกัน (อย่าคิดมากไปเรื่องอื่น) ต่างคนต่างไปทำอะไรที่ไหนมาบ้างก็ไม่รู้ ไปรับเชื้อมาบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้ จะให้ปฏิบัติตัวแบบไม่มีการเว้นระยะห่างทางสังคม(social distancing) ก็คงไม่ไหวนะเจ้านาย
ตามมาด้วยเวลาไปราชการต่างจังหวัด คนหน้าห้องที่ดีก็ควรดูแลเรื่องการเช็คอินตั๋วเครื่องบินให้คนในห้อง หากมีการโหลดกระเป๋าเมื่อถึงสนามบินปลายทางก็ควรที่จะขนกระเป๋าให้ด้วย พอถึงโรงแรมที่พักก็ควรที่จะต้องเช็คอินโรงแรม และนำกระเป๋าไปส่งให้เรียบร้อย แล้วควรถามคนในห้องว่า จะลงไปรับประทานอาหารเช้ากี่โมงเพื่อตนเองจะได้ลงไปรอก่อน อย่างน้อยเวลาคนในห้องลงมารับประทานอาหารเช้า เราก็จัดเตรียมน้ำดื่มให้ มันก็ดูเป็นการดูแลและแสดงการมีน้ำใจที่ดีต่อกัน
เวลาคนในห้องจะไปเข้าร่วมพิธีต่างๆก็ควรไปประสานดูจุดที่นั่งของคนในห้องให้เรียบร้อย แล้วนำมาแจ้งให้ทราบ เมื่อถึงเวลาก็พาคนในห้องไปนั่งตามที่นั่งที่กำหนดไว้ไม่ใช่ให้คนในห้องไปเที่ยวเดินหาที่นั่งเองมันจะดูไม่งาม
อีกอย่างคนหน้าห้องนั้นจะต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เพราะมีความจำเป็นที่จะต้องติดต่อประสานงานกับคนมากมายทั้งในเรื่องเอกสารต่างๆที่มานำเสนอ หรือ การประสานข้อมูลที่จะนำมาให้คนในห้อง แต่ก็อย่ามีมนุษยสัมพันธ์ดีจนเกินไป ต้อนรับทุกคน ปล่อยให้เข้าพบคนในห้องได้ตลอดเวลาแม้แต่เวลารับประทานอาหาร แบบนี้จะเรียกว่าดีกับทุกคน รักทุกคน ยกเว้นคนในห้อง...
เล่ามาสองวันแล้วก็ยังป็นแต่เรื่องคนหน้าห้องจะต้องดีอย่างโน้น อย่างนี้ แต่ยังไม่ค่อยมีเรื่องคนในห้องสักเท่าไหร่ และที่เล่ามาทั้งหมดนี้ คนที่ไม่ใช่หน้าห้องหรือคนในห้องก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นะ มันจะเป็นเสน่ห์สำหรับตนเอง และไม่แน่สักวันนึง เราอาจจะเป็นคนในห้องก็ได้ จะได้ตั้งหลักทัน
อ้าว!!! เผลอแป๊บเดียวคนในห้องกลับบ้านไปอีกแล้ว เราก็ขอกลับบ้างดีกว่า แล้วพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่นะ
สวัสดี...
เขียนโดย "หลงเมฆ"
ภาพและวีดีโอ