เปลี่ยนการแสดงผล
รวมกันเราอยู่ แยกหมู่เราตาย
12 เมษายน 2564 284 ครั้ง
พลังแห่งความร่วมมือ
          สวัสดีแฟนเพจ facebook ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตรทุกท่าน หลังจากเป็นผู้ติดตามเพจมานาน วันนี้ได้มีโอกาสมาทักทายในฐานะผู้เขียนบ้าง เราเองเป็นแฟนคลับตัวยงของนักเขียนทุกท่านเลยล่ะ และเมื่อช่วงต้นปีได้มีโอกาสอ่านบทความที่กล่าวถึงฝีมือเก่งกาจในการรักษาคนไข้ของ หมอจังกึม จากซีรีย์เกาหลีที่โด่งดังเรื่อง แดจังกึม จอมนางแห่งวังหลวง ซึ่งเราก็ชอบและติดซี่รี่ย์เรื่องนี้งอมแงมเหมือนกัน

        ครั้งนี้ จึงขอร่วมแชร์อีกประเด็นสำคัญที่ยังไม่ได้กล่าวถึงและเป็นแก่นหลักของเรื่องที่สะท้อนอย่างชัดเจน ซึ่งเรื่องราวของ ซอจังกึม ทุกท่านอาจจะจำได้ว่า เธอเป็นเด็กอาภัพตั้งแต่เล็กและต่อสู้ชีวิตจนได้เข้ามาเป็นนางกำนัลประจำห้องเครื่อง (ห้องครัว) ในราชสำนัก และภายหลังได้มีโอกาสเป็นหมอหญิง ซึ่งพระเจ้าจุงจง พระราชาในราชวงศ์โชซอน โปรดฝีมือการรักษา จึงมีรับสั่งให้เป็นหมอส่วนพระองค์ ซึ่งในยุคนั้นถือว่าข้ามหน้าข้ามตาหมอผู้ชายไม่น้อยทีเดียว

         หมอจังกึมเป็นตัวละครที่มีพรสวรรค์ ตั้งใจเรียนรู้ กล้าหาญ ไม่ย่อท้อต่อปัญหาต่าง ๆ ใช้สติปัญญาในการคิดค้นยาและวิธีการรักษาคนไข้ด้วยเทคนิคทางการแพทย์ใหม่ๆ ที่ทันสมัยมากขึ้น อีกทั้งต้องต่อกรกับศัตรูที่มีอยู่มากมายในราชสำนัก จนในที่สุด เธอได้รับเกียรติและยกย่องให้เป็นขุนนางระดับสูงของโชซอน เรื่องราวของเธอจึงกลายเป็นตำนานที่ได้รับการจารึกไว้ในประวัติศาสตร์แห่งชาติเกาหลี...

         จะเห็นว่าปมดราม่าที่ตัวละครเผชิญสามารถเป็นข้อคิดได้อย่างดีว่า ไม่มีความสำเร็จใดที่ได้มาอย่างง่ายดายหรือไขว่คว้าได้เพียงชั่วข้ามคืน ล้วนต้องใช้ ความพยายามและอดทน อย่างไม่ย่อท้อเพื่อเอาชนะอุปสรรคขวากหนามและปัญหาเสมอ..ฉันใดฉันนั้น...

          ตลอดระยะเวลา 14 ปี นับแต่การจุดประกายมโนทัศน์ในการหาหนทางที่จะบังคับเมฆให้ตกเป็นฝนในพื้นที่แห้งแล้งเมื่อปี พ.ศ. 2498 ในหลวง ร.9 ทรงเสียสละทุ่มเทพระวรกาย และพระสติปัญญาในการคิดค้น ศึกษา และวิจัยด้วยพระทัยที่มุ่งมั่น จวบจนตำนานแห่งฝนหลวง เริ่มประจักษ์ชัดขึ้นเมื่อการทำฝนได้รับการทดลองและพิสูจน์ความเป็นไปได้ เมื่อปี พ.ศ. 2512 กระทั่งพัฒนามาเป็นตำราฝนหลวง ประกอบด้วย 6 ขั้นตอน
อันเป็นสุดยอดเทคโนโลยีที่ได้พระราชทานให้เป็นแนวปฏิบัติไว้สำหรับสู้รบและปราบภัยแล้ง สืบเนื่องมา

           การปฏิบัติการทำฝน เป็นการทำงานกับสภาพอากาศที่ยากจะควบคุมและมีความท้าทายอย่างมาก
ซึ่งการทำฝนให้มีประสิทธิภาพและหวังประสิทธิผล จำเป็นต้องอาศัยตัวแปรของสภาพอากาศที่มีความชื้นสัมพัทธ์ ความเร็วลม และการยกตัวของอากาศที่เหมาะสมประกอบกัน ในแต่ละวัน ทีมทำฝนต้องเฝ้ารอ สังเกตการณ์ และติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดและอดทนเสมอ 

          เมื่อสภาพอากาศเข้าเงื่อนไขที่จะสามารถขั้นบินได้แล้ว การทำฝนยังจำเป็นต้องอาศัย การทำงานเป็นทีมที่ใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านของแต่ละฝ่ายร่วมกัน เช่น นักวิชาการที่วางแผนบิน นักบิน ช่างเครื่อง มือโปรยเป็นต้น ภารกิจยิ่งใหญ่นี้มีหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องมากมายจนไม่สามารถอธิบายได้หมดอย่างละเอียด เรียกได้ว่าการมี Teamwork ที่ดีย่อมส่งผลให้การทำงานมีโอกาสประสบความสำเร็จไปเกินครึ่ง

         แล้วนอกจากความร่วมมือที่ดีภายในหน่วยงานแล้ว การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน ย่อมสร้างผลสำเร็จได้มากขึ้น ทั้งการปฏิบัติการทำฝนที่ได้รับการสนับสนุนอากาศยานจากเหล่าทัพทำให้สามารถทำฝนได้ทั่วถึงพื้นที่ของประเทศ รวมทั้งการวิจัยและพัฒนา ซึ่งในปัจจุบัน
มี 9 โครงการความร่วมมือที่ครอบคลุมด้านเทคนิคและสารทางเลือก การบริหารจัดการสารฝนหลวง แบบจำลองการคาดการณ์สภาพอากาศและประเมินสถานการณ์น้ำ เพื่อให้การทำงานเกิดประสิทธิภาพสูงสุด

         สุดท้ายนี้ เราขอฝากข้อคิดไว้ซักเล็กน้อยว่า รวมกันเราอยู่...แยกหมู่เราตาย เป็นอมตะคำคมที่ใช้ได้ดีกับทุกยุคสมัย นอกจากความพยายามอย่างอดทนดังหมอจังกึมแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากคือ #พลังแห่งความร่วมมือ ที่จะช่วยให้พวกเราฝ่าฟันทุกวิกฤตและบรรลุเป้าหมายได้ เช่นเดียวกับการทำงานเป็นทีมที่ดีของพี่น้องฝนหลวง จะช่วยให้พวกเราก้าวข้ามอุปสรรค โดยไม่ย่อท้อและมุ่งมั่นพัฒนา เพื่อเป้าหมายร่วมกันในการนำฝนจากฟ้ามาชุบชีวาประชาชนต่อไป

เขียนโดย "แฟนคลับตัวเล็กเล็ก"
ภาพและวีดีโอ