เปลี่ยนการแสดงผล
#เพียงหนึ่งพลังที่ประกายแสง
15 เมษายน 2564 155 ครั้ง
“เราต่างพึ่งพาซึ่งกันและกัน” อาจเป็นคำที่ใครหลายคนได้ยินจนชิน นั่นเป็นเพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก ทุกสรรพสิ่งต่างเอนอิงพึ่งพา ต้นไม้ให้อากาศที่บริสุทธิ์แก่สัตว์ป่า ส่วนมูลของสัตว์ป่าก็เป็นแร่ธาตุให้กับต้นไม้ แม้ตายไปก็ยังเป็นประโยชน์ให้กับผืนดิน ฉันใดฉันนั้นมนุษย์ก็ไม่อาจอยู่ได้เพียงลำพังบนโลกเช่นกัน ขึ้นชื่อว่า “มนุษย์” ย่อมต้องอยู่กันเป็นกลุ่มเป็นหมู่ หรือเรียกการอยู่รวมกันนี้ว่า “สังคม” ในสังคมของมนุษย์นอกจากการสื่อสารที่เป็นสิ่งสำคัญแล้ว การช่วยเหลือเกื้อกูลก็เป็นคุณธรรมอย่างหนึ่งที่สำคัญในการอยู่ร่วมกันของมนุษย์ และการช่วยเหลือเกื้อกูลกันนี้จะแปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความร่วมมือ ประสบการณ์อย่างหนึ่งที่ดิฉันเคยมีส่วนร่วมในพลังแห่งความร่วมมือนี้คือ การเป็นอาสาสมัครเพื่อเป็นพี่เลี้ยงให้กับผู้พิการทางสายตาในโครงการ “English Camp” ที่โรงเรียนสำหรับผู้พิการทางสายตาแห่งหนึ่งในจังหวัดสงขลา และได้ค้นพบพลังจากน้อง ๆ ในตอนแรกดิฉันยอมรับว่าดิฉันนึกถึงเพียงความสนุกสนานเท่านั้น

 

เรานัดพบกันที่ห้องสมุดประชาชน ดิฉันและเพื่อน ๆ จึงได้พบกับน้อง ๆ และคุณครู คุณครูบอกกับเราว่า “น้อง ๆ บางคนพิการทางสายตาก็จริงแต่ยังสามารถเดินเองได้ แต่จะมีบางคนที่พิการซ้ำซ้อนให้ฝากให้พวกเราดูแลด้วยนะ” พวกเราทำความรู้จัก แนะนำตัวกันแล้วทำกิจกรรมด้วยกัน ซึ่งเป็นกิจกรรมเรียนรู้ภาษาอังกฤษที่ห้องสมุด ดิฉันเห็นรอยยิ้ม การตอบคำถามของน้อง ๆ ก็ตื้นตันใจถึงความพยายาม และมานะในการเรียนรู้ของน้อง ๆ เมื่อเสร็จเรียบร้อยพวกเราก็นั่งรถบัสกันไปที่ทะเล มีพ่อค้าแม่ค้าใจดีแจกว่าวให้กับน้อง ๆ ได้เล่นกันอย่างสนุกสนาน กระทั่งดิฉันและเพื่อนพาน้องคนหนึ่งออกมาเดินเล่นที่หาดทราย มือของดิฉันประสานกับมือของน้อง และก้าวอย่างช้า ๆ เพื่อความปลอดภัย ในบางครั้งฉันก็รู้สึกเช่นกันว่า น้องเดินเร็วกว่าฉันและเพื่อนเสียอีก

 

เราทั้งสามมาหยุดตรงหาดทราย ลมชายหาดปะทะหน้าพวกเรา กลิ่นความสดชื่นของทะเลพลอยทำให้รู้สึกเบิกบาน และแล้วก็มีคำพูดหนึ่งก็ปรากฏขึ้น เป็นคำพูดที่ประทับอยู่ภายในหัวใจจนตอนนี้ดิฉันยังนึกถึงถ้อยคำเหล่านั้นได้อยู่ นั่นก็คือ “พี่ครับทะเลเป็นยังไงหรือครับ สวยไหม พี่อธิบายให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ผมมองไม่เห็น” นาทีนั้นทำให้ดิฉันได้ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า เราที่มีร่างกายครบสมบูรณ์ มีโอกาส ทำไมเราไม่สร้างคุณค่าหรือสิ่งดีงามให้ปรากฏแก่สังคมเราบ้าง มีผู้คนอีกมากมายที่ลำบากและต้องการความช่วยเหลือ แทนที่เราจะเอาเวลาทำสิ่งซึ่งไร้ประโยชน์ สู้เอาเวลาเหล่านั้นมาทำคุณประโยชน์ให้กับตัวเองและเพื่อนมนุษย์ด้วยกันไม่ดีกว่าหรือ สร้างสรรค์สังคมให้น่าอยู่ไม่ดีกว่าหรือ

 

จนถึงวันนี้ดิฉันติดหนี้บุญคุณของน้อง ๆ เหล่านั้น ผู้ทำให้ดิฉันตาสว่างและมีพลังในการทำความดี จึงอยากจะเผยแพร่บทความนี้สู่สาธารณะเพื่อเชิญชวนคนไทยทุกคนมารวมพลังกันทำความดี แม้เพียงเป็นความดีเล็กน้อย แต่เชื่อหรือไม่ว่าความดีเพียงเล็กน้อย หากเราเริ่มต้นทำ จากหนึ่งคนทำ เป็นสองคน จากสองชักชวนกันมาเป็นสาม จากสามเป็นสี่ และจากสี่เป็นสิง เป็นร้อยและจะกลายเป็นล้าน ๆ คนทำความดีจาก หนึ่งความดีเท่านั้น ก็สามารถสร้าง “ปรากฏการณ์แสงแห่งความดีส่องสว่างให้แก่โลกได้”
เขียนโดย "นกน้อยทำรังแต่พอตัว"
ภาพและวีดีโอ