เปลี่ยนการแสดงผล
#สถาปนิก #รักที่ออกแบบไม่ได้
22 มิถุนายน 2564 156 ครั้ง
#สถาปนิก #รักที่ออกแบบไม่ได้

เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 25 ปีที่แล้ว นานมากๆ ตอนนั้นผู้เขียนเป็นเด็กมัธยมต้น เดินทางจากบ้านนอก มาเรียนโรงเรียนประจำจังหวัด ก็เริ่มมีความชอบดู การออกแบบตึก อาคาร บ้านเรือน การตกแต่งภายในอาคาร แล้วก็คิดว่าคนที่ออกแบบแล้วสร้างตึก อาคารสวยๆ เหล่านี้ เค้ามีอาชีพอะไร แล้วต้องเรียนอะไรกันน๊า.. ก็เลยไปค้นดูเลยรู้ว่า คือ อาชีพสถาปนิก นั่นเอง ว้าว! ขนาดชื่อยังเท่ห์เลย แล้วก็ไปดูสถาปนิก แต่ละคนก็ดูเท่ห์มากมาก ทั้งการแต่งตัว ดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร ออกแนวอินดี้ๆ  ดูสร้างสรรค์ มีอิสระ และที่สำคัญดูมีความสุข ไม่มีกรอบระเบียบอะไรมากมาย อันนี้ชอบเลยครับ เพราะผู้เขียนถูกสอนให้อยู่ในกรอบและระเบียบตลอดเวลา ด้วยความที่คุณพ่อคุณแม่เป็นคุณครูทั้งสองท่าน แต่ผู้เขียนก็ชอบออกนอกกรอบอยู่เรื่อยๆ หล่ะครับ  พอมาถึงตรงนี้แล้ว ก็เริ่มหลงรักอาชีพนี้แล้วหล่ะครับ   ตั้งแต่นั้นมาก็ตั้งใจว่าจบ ม. 6  แล้วก็จะไปเอนทรานส์เพื่อเรียนคณะสถาปัตย์ให้ได้เลย ถ้าได้เรียนที่มหาลัยศิลปากรนี่ คงจะมีความสุขสุดๆ 

    แต่ความเป็นจริงกับความฝัน มันเป็นคนหล่ะเรื่องแล้วสิครับ  ความรักที่ออกแบบไม่ได้ เริ่มเกิดขึ้น ไม่เหมือนอาชีพสถาปนิกที่ออกแบบทุกอย่างได้ การเดินตามความฝันไม่ได้ง่ายเหมือนที่คิดไว้อีกต่อไปแล้ว  เพราะตอนผู้เขียนกำลังจะเรียนจบ ม. 6 ก็มีประกาศของมหาลัยตั้งใหม่แห่งหนึ่งในจังหวัด ว่าผู้เขียนได้โควต้าเรียนต่อ เป็นรุ่นที่ 1 สายวิทยาศาสตร์ โดยไม่ต้องสอบ เพราะมีเกรดเฉลี่ยสะสมผ่านเกณฑ์ ที่จะเรียนต่อได้ ประมาณว่าเรียนเก่งว่างั้น เอาหล่ะสิครับ จะเอายังไงดี ตอนนั้นท่องอยู่คำเดียวเลย สละสิทธิ์ ๆ  แต่พลังแห่งความฝัน ก็สู้พลังโลกแห่งความเป็นจริงไม่ได้ บวกกับพลังของคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นคนส่งค่าเล่าเรียน  ก็เลยต้องเรียนสายวิทยาศาสตร์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งปริญญาตรีและปริญญาโท...

    พอถึงเวลานี้ในปัจจุบัน ถ้ามองย้อนกลับไปผู้เขียนก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจหรือผิดหวังที่ไม่ได้ทำตามความฝัน เพราะเวลาและวารีไปแล้วไม่เคยหวนคืน แต่ในทางกลับกัน ต้องขอขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ ครูบาอาจารย์ ที่ส่งเสริมและให้คำแนะนำ รวมถึงให้โอกาสต่างๆ มากมาย กับเด็กบ้านนอกคอกนาคนนึง จนผู้เขียนเรียนจบ รับราชการ มีหน้าที่ในการทำงานของแผ่นดินและรับใช้ประชาชน ถึงแม้ต้องทำงานภายใต้กฎระเบียบมากมาย แต่ก็มีความสุขที่ได้ทำงาน สร้างครอบครัว มีความมั่นคงในอาชีพเพื่อสร้างรากฐานให้กับคนรุ่นลูก และรุ่นต่อๆ ไป ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นสถาปนิกที่มีอิสระ แต่ก็มีความคิดกับหัวใจที่โบยบิน มีอิสระ พร้อมทำงานช่วยเหลือประชาชนและประเทศชาติ ไม่ทางใดก็ทางนึง ทั้งทางตรงและทางอ้อม เหมือนข้าราชการของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ที่ทำงานไม่มีวันหยุด เพื่อทำฝนช่วยเหลือประชาชน และเกษตรกร ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำ ผู้เขียนก็ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังใจให้ทีมฝนหลวง ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานตลอดไปนะครับ 

เขียนโดย "สายลมโบยบิน"
ภาพและวีดีโอ