ฝนหลวงภาคตะวันออก ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือเกษตรกรนอกเขตชลประทาน
วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงและ
การบินเกษตร ได้รับการสนับสนุนจากกองทัพบก และกองทัพอากาศ ในการปฏิบัติการฝนหลวง ในด้านกำลังพล อากาศยาน และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก โดยมี 2 ภารกิจหลักในการช่วยเหลือเกษตรกร คือ การบรรเทาปัญหาภัยแล้งหรือฝนทิ้งช่วง และการเติมน้ำในเขื่อนเพื่อให้มีน้ำใช้อย่างเพียงพอในการเพาะปลูก จากแผนที่อากาศผิวพื้น ของกรมอุตุนิยมวิทยา เมื่อเวลา 07.00 น. พบว่าหย่อมความกดอากาศต่ำที่อยู่ทางตอนบนของประเทศเวียดนาม และประเทศลาว ได้ขยับสูงขึ้นส่งผลให้ประเทศไทยจะมีปริมาณฝนลดลง คงเหลือเพียงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้เท่านั้นที่จะมีอิทธิพลทำให้เกิดฝนตก
โดยที่เมื่อวานนี้ นายวีระพล สุดชาฎา ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออก ร่วมกับนายไพทูรย์ โกเมนท์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดชลบุรี เกษตรอำเภอบ่อทอง นายสำเรียน จันทร์น้อย อาสาสมัครฝนหลวงดีเด่น เหล่าอาสาสมัครฝนหลวงจังหวัดชลบุรี และผู้นำชุมชน ลงพื้นที่รับฟังข้อมูลความต้องการน้ำและสำรวจพื้นที่บริเวณ อ.บ่อทอง อ.บ้านบึง อ.หนองใหญ่ จ.ชลบุรี ว่าขณะนี้พื้นที่การเกษตรนอกเขตชลประทานได้เริ่มปลูกข้าวนาปี จำนวน 7,000 ไร่ มันสำปะหลัง ระยะเจริญเติบโต จำนวน 37,000 ไร่ อ้อยโรงงาน จำนวน 28,000 ไร่ สัปปะรด จำนวน 4,500 ไร่ รวม 3 อำเภอ พื้นที่การเกษตรประมาณ 78,000 ไร่ กำลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วง ต้องการน้ำฝนในการเพาะปลูก ทั้งนี้หน่วยฯ จ.สระแก้ว ที่รับผิดชอบในพื้นที่ดังกล่าวได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้การช่วยเหลือต่อไป
นายสุรสีห์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับผลการปฏิบัติการฝนหลวงเมื่อวานนี้ นับได้ว่ามีผลที่น่าพอใจในหลายพื้นที่ โดยทำให้มีฝนตกบริเวณพื้นที่การเกษตรบางส่วนของจังหวัดพะเยา ลำปาง กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ พิจิตร ชัยภูมิ สุพรรณบุรี อ่างทอง อุทัยธานี ชัยนาท นครสวรรค์ ลพบุรี กาฬสินธุ์ สกลนคร อุบลราชธานี นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระแก้ว พัทลุง สุราษฎร์ธานี เพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อน จำนวน 3 แห่ง อ่างเก็บน้ำ จำนวน 2 แห่ง
ในส่วนของการติดตามสภาพอากาศเพื่อวางแผนการปฏิบัติการฝนหลวง พบว่าสภาพอากาศเข้าเงื่อนไขการปฏิบัติการฝนหลวง จึงได้มีการวางแผนขึ้นบินปฏิบัติการ จำนวน 12 หน่วยฯ ได้แก่ หน่วยฯ จ.ขอนแก่น นครราชสีมา อุบลราชธานี สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ กาญจนบุรี ตาก สุรินทร์ ลพบุรี พิษณุโลก หัวหิน และสงขลา
ทั้งนี้ พี่น้องเกษตรกรและประชาชน สามารถขอรับบริการฝนหลวงและติดตามข้อมูลข่าวสารของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้ที่ช่องทาง Facebook กรมฝนหลวงและการบินเกษตร Twitter Instagram Line Official Account : @drraa_pr และหมายเลขโทรศัพท์ 02-109-5100
#ข่าวฝนหลวง